EP2/2 #นมัสเตอินเดีย :: แสวงบุญที่ “อินเดีย” ง๊ายง่าย.. “พาราณสี” 4,000 ปี ไม่เคยหลับ!

SHARE!

EP2/2 #นมัสเตอินเดีย :: แสวงบุญที่ “อินเดีย” ง๊ายง่าย.. “พาราณสี” 4,000 ปี ไม่เคยหลับ!

 

#แสวงบุญที่อินเดียง๊ายง่าย ใครๆ ก็ไปได้ สักครั้งในชีวิตสู่ดินแดนพุทธภูมิ

 

 

พาราณสี” 4,000 ปี ไม่เคยหลับ!

ตื่นตี 4 เตรียมออกเดินทางไป.. พาราณสี

ณ วัดไทยพุทธคยา เราตื่นแต่เช้ากันสักหน่อย อาบน้ำ เก็บของ เพื่อเดินทางต่อไปยัง เมืองพาราณสี(Varanasi) ซึ่งเช้านี้คงไม่ทันที่จะ รับประทานอาหารเช้า ที่วัดและ ทำวัตรเช้า เพราะต้องออกจากวัดเพื่อไปขึ้นรถไฟใน เวลา 06.07 น. ที่ สถานีรถไฟคยา

เราเรียกรถสามล้อ Rickshaw จากหน้า วัดไทยพุทธคยา ให้ไปส่งที่ สถานีรถไฟคยา ที่อยู่ห่างออกไป 10 กว่ากิโลเมตร ในราคา 500 รูปี ซึ่งสามล้อก็พาซิ่งฝ่าความมืดไปเรื่อยๆ ตามถนนที่โล่งในยามเช้า จนมาถึง สถานีรถไฟคยา ก่อนเวลาที่รถไฟจะออกประมาณครึ่งชั่วโมง โดยหมายเลขขบวนของเรา คือ 22323 จองมาแล้วล่วงหน้า มีที่นั่งแน่นอน (สามารถจองตั๋วรถไฟผ่าน www.irctc.co.in หรือ ติดต่อจองผ่านเอเจนซี่ที่รับจองตั๋วรถไฟก็สะดวกดีครับ) มาถึง สถานีรถไฟ ก็เปิดมือถือให้พนักงานรถไฟดู แล้วก็ไปประจำที่นั่งได้เลย

การเดินทางด้วยรถไฟในอินเดีย ค่อนข้างที่จะสะดวกสบาย เราจองแบบ AC2 นอนปรับอากาศ ภายในตู้โดยสารก็สะอาด มีพนักงานคอยเดินทำความสะอาดอยู่ตลอด ระหว่างทางเราก็นั่งเล่นชมวิวนอกหน้าต่างรถไฟไปเพลินๆ ระยะทางจาก คยา ไป พาราณสี ประมาณ 200 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 4 ชั่วโมง พอดิบพอดี!

 

นมัสเตฯ : “พาราณสี” เมืองประวัติศาสตร์อันยาวนาน!

“พาราณสี” มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดีย และยังจัดเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกด้วย

รถไฟมาถึงตรงเวลา! ..เราเดินทางมาถึง สถานีรถไฟพาราณสี ตรงตามเวลาที่ระบุไว้ในตั๋วเป๊ะ ซึ่งจากนี้ไปเราจะเข้าที่พักที่จองไว้ล่วงหน้ากันก่อน เป็นที่พักที่อยู่ใกล้ๆ กับ ท่าน้ำ(Ghat) ริมแม่น้ำคงคา โดยใช้บริการสามล้อ Rickshaw เหมือนเดิม ในราคา 250 รูปี

รถสามล้อ จะไม่สามารถเข้าไปส่งถึงที่พักได้เนื่องจาก บริเวณริมแม่น้ำคงคา จะเป็นถนนแคบๆ เป็นเหมือนตรอกซอกซอยเล็กๆ ต้องอาศัยเดินต่อเข้าไปเองอีกประมาณ 400 เมตร

เราเดินเข้าไปตามตรอกเล็กๆ ที่ข้างในเต็มไปด้วยเกสเฮ้าท์ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของต่างๆ อัดกันอยู่ข้างใน ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองนี้ครับ

 

Shiva Guest House | ที่พักราคาประหยัด มี Rooftop ชมวิวแม่น้ำคงคา!

“พาราณสี” เราเลือกจองห้องพักที่อยู่ใกล้แม่น้ำคงคาเอาไว้ก่อน แบบว่า.. สามารถออกไปเดินเล่นชมบรรยากาศได้ทุกเมื่อ ก็เลยเลือกมาพักที่ Shiva Guest House ที่อยู่ใกล้กับ ท่าน้ำ(Ghat) ที่ชื่อว่า Munshi Ghat เดินไปแค่ 30 เมตร และ Dashashwamedh Ghat ท่าน้ำหลักของพาราณสี แค่ 100 เมตรเท่านั้น ซึ่งที่พักที่เรามาพักก็สะอาดน่าพักดีครับ ภายในตกแต่งอย่างดี มีพนักงานคอยใส่ใจดีมากครับ ราคาคืนละ 300 บาท เท่านั้นเอง!

บรรยากาศภายใน ห้องพัก ของเรา ก็น่าพักสมราคา เป็นห้องพัดลม มีห้องน้ำในตัว ซึ่ง ห้องน้ำ สะอาดดีครับ

Shiva Guest House มี ห้องพัก หลายแบบเลยครับ ที่นี่ ห้องไหนยังไม่มีคนเข้าพัก เขาก็จะเปิดประตูห้องไว้ เวลาเดินผ่าน ก็จะมองเห็นการตกแต่งในแต่ละห้องที่ดูแตกต่างกันไป

บนชั้นดาดฟ้า มี Rooftop ที่สามารถขึ้นไปชมวิวได้ครับ มองเห็นวิว แม่น้ำคงคา แนะนำให้ขึ้นมาชมวิว ช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็น วิวกำลังสวยเลย

แม่น้ำคงคา สายน้ำแห่งศรัทธา ตามความเชื่อของฮินดู ได้แบ่ง แม่น้ำคงคา ออกเป็นสองฝั่ง คือ ฝั่งที่เต็มไปด้วยผู้คน และบ้านเรือน (ฝั่งที่เราอยู่) คือ ฝั่งสวรรค์ ส่วนอีกฝั่ง ที่เป็นสันทรายแห้งแล้ง คือ ฝั่งนรก

บน Rooftop ของ Shiva Guest House นอกจากจะไว้ขึ้นไปชมวิวแล้ว ก็ยังมีร้านอาหารเล็กๆ อยู่ข้างบนด้วยนะ สามารถขึ้นไปสั่งอาหารนั่งทานชมวิวได้ ซึ่งมื้อเที่ยง(ในตอนบ่ายๆ)นี้ของเรา ก็ขอสั่ง ข้าวผัดไข่ สั่งง่าย กินง่าย มาแก้หิวกันก่อน เขาผัดมาให้จานใหญ่มากเลย.. อิ่มมาก!

 

รายละเอียดที่พัก

 

Aadha Aadha Café | คาเฟ่ Rooftop จิบกาแฟ ชมวิว!

ในระหว่างที่เรายืนถ่ายรูป และ ชมวิวอยู่บน Rooftop ชั้นดาดฟ้าของ Shiva Guest House เราก็ได้มองไปที่ Rooftop ของตึกที่อยู่ใกล้เคียงกัน มี ร้านอาหาร และ คาเฟ่ ด้วย ก็เลยคิดว่าจะลองไปนั่งชิล ในช่วงยามบ่านนี้สักหน่อย.. ซึ่งตอนแรก กะว่างจะเดินลงไป แล้วไปขึ้นบันไดที่ตึกข้างๆ แต่ไม่จำเป็นครับ เพราะ เขามีบันไดเหล็กพาดเป็นทางเชื่อมระหว่างอาคารอยู่ ไม่ต้องเหนื่อยเดินขึ้นเดินลง แต่ระหว่างเดินข้ามก็อาจจะมีเสียวบ้างนิดนึงนะ..

Aadha Aadha Café บริการทั้งอาหารคาว ของหวาน เบเกอรี่ และเครื่องดื่มต่างๆ บรรยากาศภายในร้านก็ตกแต่งอย่างดี ดูสงบเงียบ มีทั้งส่วนที่อยู่ในร่ม และแบบเปิดโล่ง สามารถมานั่งจิบกาแฟ ชมวิว กันได้

เมนูอาหาร ก็มีให้เลือกพอสมควรครับ เมนูกินง่าย มั่นใจในความสะอาด และ ราคาไม่แพงครับ

อาหารเช้า ที่นี่เขาก็มีนะ ตื่นเช้ามา เดินข้ามบันไดเหล็กบน Rooftop มาหาอาหารเช้าทานกันได้ ไม่ต้องเดินไกล แค่ข้ามบันไดเหล็กมาง่ายดี 55+

แพนเค้ก ราดน้ำผึ้งเติมความหวานให้ร่างกายได้อย่างดี

Mix Fruits เมนูนี้อยากให้ลองครับ ผลไม้รวมแช่เย็น กินตอนบ่ายๆ เรียกความสดชื่นขึ้นมาทันที..

และ ไม่ควรพลาด Lassi เครื่องดื่มโยเกิร์ต มา อินเดีย ทั้งที ต้องไม่พลาดชิม เอาจริงๆ มา อินเดีย รอบนี้หมด Lassi ไปหลายแก้วเลย ติดใจมาก…

นักท่องเที่ยว นิยมมานั่งเล่น จิบเครื่องดื่ม ชมวิว กันครับ บรรยากาศในร้านดูสบายๆ ถ้าใครมา พาราณสี อยากหาคาเฟ่ ชิลๆ นั่ง ลองแวะมาที่ร้านนี้ดูนะครับ

 

รายละเอียดร้านอาหาร

 

แม่น้ำคงคา | ล่องเรือ ชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำแห่งศรัทธา!

เข้าสู่ช่วงเย็นแดดร่มลมตก เราจะออกไปเดินเล่นดูวิถีชีวิตของผู้คนริมแม่น้ำคงคากันครับ ซึ่งจากที่พัก Shiva Guest House ของเรา เดินตามซอยเล็กๆ ไป 30 เมตร ก็ถึงริมแม่น้ำคงคาแล้ว

“แม่น้ำคงคา” (Ganges River) เป็นแม่น้ำสายสำคัญของอินเดีย ได้ชื่อว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู มีต้นกำเนิดมาจากทางภาคเหนือของอินเดีย ในบริเวณเทือกเขาหิมาลัย ถือเป็นแหล่งชลประทานและการคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่ง..

แม่น้ำคงคา ตามความเชื่อนั้น ถือเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ชาวฮินดูจะนิยมอาบน้ำในแม่น้ำแห่งนี้ เพราะมีความเชื่อว่า.. สามารถชำระบาป ทำให้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ และในทุกวัน ชาวอินเดีย จะมาที่ริมฝังแม่น้ำคงคาเพื่อทำการอาบน้ำ และดื่มกินน้ำจากในแม่น้ำคงคา รวมถึงการเผาศพที่ริมฝั่งน้ำด้วย

เดินเล่นริมแม่น้ำคงคาบริเวณท่าน้ำ หรือที่เรียกว่า Ghat ซึ่งก็มีอยู่มากมายหลาย Ghat ติดๆ กัน สามารถเดินเล่น ชมวิถีชีวิตของผู้คนได้ตลอดทั้งแนวเลยครับ

การล่องเรือแม่น้ำคงคา เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ เพราะจะได้ชมบรรยากาศแบบใกล้ชิดเข้าไปอีก โดยสามารถติดต่อเรือได้ที่ท่าน้ำได้เลยครับ มีคนมาเสนออย่างมากมาย เรามาขึ้นเรือกันที่ บริเวณ Dashashwamedh Ghat ท่าน้ำหลักของพาราณสี ต่อรองราคา ค่าล่องเรือ 1 ชั่วโมง 500 รูปี เป็นเรือไม้ลำเล็ก มีลุงคอยพายเรือให้

นั่งชมบรรยากาศยามเย็น ริมฝั่งแม่น้ำคงคาระหว่างที่ล่องเรือ ได้เห็นอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ครับ

เรือจะพาล่องไปชม ท่าน้ำ(Ghat) ต่างๆ ที่อยู่ริมแม่น้ำคงคา โดยมีลุงฝีพายเรือเป็นไกค์ในตัวในการเล่าเรื่องราวของแต่ละจุด ซึ่งตอนแรกที่ลุงเรียกราคา 500 รูปี เราก็คิดว่าน่าจะแพงไป .. แต่เมื่อเห็นตอนลุงแกพายเรือทวนกระแสน้ำแล้วเห็นใจเลย คุ้มแล้วครับ 1 ชั่วโมง 500 รูปี หารสองตกคนละ 250 รูปี คิดเป็นเงินไทยร้อยกว่าบาทเอง!

 

Aarti | พิธีอารตี บูชาไฟริมแม่น้ำคงคา!

ช่วงเวลา 19.00 น. ของทุกวัน จะมี พิธีอารตี(Aarti) พิธีบูชาไฟ เป็นพิธีกรรมบูชาในศาสนาฮินดู ซึ่งเราจะไปรอชมกันโดยสามารถไปชมได้ที่บริเวณ Dashashwamedh Ghat ตลอดแนวไปจนถึง Munshi Ghat บรรยากาศช่วงหัวค่ำแบบนี้จึงดูคึกคักไปด้วยผู้คน

พิธีอารตี(Aarti) เป็นพิธีกรรมบูชาในศาสนาฮินดู โดยใช้การถวายแสง ในรูปของเปลวเพลิงต่อเทพฮินดู โดยจะเวียนตะเกียงไฟ ขณะที่ท่องบทสวดไปด้วย เพื่อให้องค์เทพประทานความสุขและความโชคดีแก่ชีวิต..

หลังจากเสร็จ พิธีอารตี(Aarti) ก็จะมี การลอยกระทง เพื่อบูชาแม่น้ำคงคา ก็ขอร่วมลอยกระทงกับพี่น้องชาวอินเดียกับเขาสักหน่อยนะ

บรรยากาศริมแม่น้ำคงคา ช่วงที่มีพิธีกรรมจึงเป็นอะไรที่ดูคึกคักมาก ได้เห็นวิถี ประเพณี และวัฒนธรรมอันเป็นเสน่ห์ ที่สักครั้งต้องมาเยือนครับ

 

The Dirty Chai Cafe | ร้านอาหารอินเดียรสชาติถูกปาก!

อิ่มก่อนนอน! หลังจากชมพิธีกรรมของค่ำคืนนี้เสร็จเรียบร้อย ก็หามื้อดึกทานกันสักหน่อย.. อยากลองอาหารอินเดียมาก เพราะทริปนี้ยังไม่ได้ลอง อาหารอินเดีย แบบเต็มๆ สักที จนมาเจอร้านนี้ครับ The Dirty Chai Cafe ค่อนข้างมั่นใจในความสะอาด และรสชาติ เพราะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้าออกร้านอยู่ตลอด น่าจะโอเคดี..

The Dirty Chai Cafe เป็นร้านอาหาร และ คาเฟ่ ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเราครับ มีเมนูอาหารทั้งแบบตะวันตก และ อาหารอินเดีย เราก็เลยถือโอกาสจัด อาหารอินเดีย ในมื้อนี้กันเลย

เราสั่งแกงมาลองชิมอยู่ 2 อย่าง คือ Paneer Butter Masala(199 รูปี) และ Chicken Tikka Masala (249 รูปี) ทำมาใหม่แบบร้อนๆ พร้อมกับ แผ่นแป้งจาปาตี(19 รูปี)

รสชาติอาหาร ของร้านนี้ถือว่าใช้ได้เลยครับ เครื่องเทศไม่หนัก ไม่เลี่ยน อย่างที่คิด อร่อยเลยแหละ.. กินกันหมดเกลี้ยงเลย อิ่มก่อนนอนกันไป!

 

รายละเอียดร้านอาหาร

  • ชื่อร้านอาหาร : The Dirty Chai Cafe
  • เวลาเปิด : 11.00 น. – 21.00 น.
  • โทร : +91 99998 67177
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/MV5r67kExWjfsvt4A

 

ชมวิว แม่น้ำคงคา ในยามเช้า!

ช่วงเช้า ของ พาราณสี บรรยากาศค่อนข้างสงบ เราตื่นกันแต่เช้า แล้วขึ้นไปบน Rooftop ของที่พัก Shiva Guest House ที่เราพัก เพื่อดู พระอาทิตย์ขึ้น จากอีกฝั่งของ แม่น้ำคงคา ซึ่งวิวดีมากเลยครับ

บรรยากาศยามเช้าชมวิว เมืองพาราณสี ในมุมสูง

ตอนแรก เราคิดจะ ล่องเรือชมบรรยากาศในยามเช้า กันอีกสักรอบ แต่เปลี่ยนใจขอเดินเล่นริมน้ำดูวิถีชีวิตของผู้คนดีกว่า.. ซึ่งกิจวัตรก็ยังคงเหมือนเดิม คือ ชาวอินเดีย มาลงอาบน้ำอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงกิจกรรมอื่นๆ เช่น นั่งสมาธิ เล่นโยคะ วาดภาพ ออกกำลังกาย เป็นต้น

เรามีเวลาอยู่ที่ “พาราณสี” อีกประมาณครึ่งวัน ซึ่ง ช่วงครึ่งวันบ่าย จะเดินทางออกนอกเมืองไปประมาณ 10 กิโลเมตร โดยจะแวะไปเที่ยวที่ “สารนาถ” (Sarnath) กันครับ

 

สารนาถ | สถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา

“สารนาถ” เราแนะนำให้มาใช้เวลาประมาณครึ่งวันก็สามารถเที่ยวได้อย่างเพียงพอ โดยเราติดต่อรถสามล้อ Rickshaw จาก ตัวเมืองพาราณสี ไปส่งที่ สารนาถ ในราคา 500 รูปี แต่ลุงคนขับสามล้อ ได้เสนอขอแบบรับกลับ พาราณสี ด้วย พร้อมไปส่งที่ สถานีรถไฟพาราณสี ในราคา 1,000 รูปี ราคาพอรับได้ก็เป็นอันตกลงครับ เดินทางไป “สารนาถ” กัน!

สารนาถ สถานที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนา 1 ใน 4 สังเวชนียสถาน ตั้งห่างจาก เมืองพาราณสี ไปทางเหนือ ประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ก็มาถึงบริเวณทางเข้า ซึ่งต้องลงรถและเดินเท้าเข้าไปเองครับ

เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับ วัดไทยสารนาถ ก่อนครับ เรามาแวะไหว้ พระพุทธศาสนานุภาพลาภมงคลสมาธิรังษิธร พระพุทธรูปหินสลักปางประทับยืนประทานพร มีความสูงราว 25 เมตร

ก่อนเข้าชมภายในบริเวณของ “สารนาถ” ก็ต้องซื้อตั๋วเข้าชมเสียก่อนครับ สำหรับชาวต่างชาติ อย่างเรา ราคาคนละ 300 รูปี แต่ถ้าแสดง Passport ไทย จะลดเหลือ 25 รูปี ครับ ลดเยอะมาก!

สารนาถ ในสมัยพุทธกาล เรียกกันว่า ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แปลว่า ป่าอันยกให้แก่หมู่กวาง และเป็นที่ชุมนุมฤๅษี เป็นสถานที่สงบ และเป็นที่ชุมนุมของเหล่าฤๅษี และนักบวชต่างๆ

ภายในอาณาบริเวณสารนาถมี ธรรมเมกขสถูป เป็นพุทธสถานขนาดใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุด เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาประกาศพระสัจจธรรมเป็นครั้งแรกที่นี่

ธรรมเมกขสถูป(Dhammek Stupa) พระสถูปเก่าแก่ขนาดใหญ่ มีความสูงราว 33 เมตร เป็นจุดที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนาแก่ ปัญจวัคคีย์ บรรยากาศโดยรอบดูสงบเงียบ ผู้ที่เดินทางมาแสวงบุญ มักจะมา สวดมนต์ ขอพร เดินจงกรม และ นั่งสมาธิ เป็นการแสวงบุญแบบง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ครับ

นอกจากนี้ บริเวณใกล้กันยังมี พิพิธภัณฑ์สารนาถ(Sarnath Museum) พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของ สารนาถ รวมไปถึงพระพุทธรูปเก่า ของใช้เก่า วัตถุโบราณ ที่แสดงให้เห็นศิลปะแบบดั้งเดิม ดูน่าสนใจดี ค่าเข้าชม คนละ 5 รูปีเท่านั้นเอง ใครมา “สารนาถ” อยากให้ลองแวะมาที่นี่ด้วยนะครับ

เมื่อได้เวลาอันพอสมควร เราก็ให้ลุงสามล้อพากลับมาส่งที่ สถานีรถไฟพาราณสี ซึ่งเราต้องนั่งรถไฟจาก พาราณสี กลับไปยัง สถานีรถไฟคยา จากนั้น ก็เดินทางกลับ กรุงเทพฯ ด้วยเที่ยวบิน FD123 คยา-ดอนเมือง ของ สายการบินแอร์เอเชีย ถึงประเทศไทยอย่างปลอดภัย เป็นอันจบทริปแสวงบุญโดยสวัสดิภาพครับ

 

คยาพาราณสี | แสวงบุญง๊ายง่าย!

สรุป การเดินทางไปแสวงบุญที่อินเดีย “คยา – พาราณสี” ในครั้งนี้ เราก็ได้รับประสบการณ์ดีๆ มากมายเลยครับ ได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนที่มีความศรัทธาต่อศาสนาอย่างแรงกล้า เราได้เห็นการชำระล้างร่างกายเพื่อชำระบาปในแม่น้ำคงคา ได้เห็นประเพณี พิธีกรรมที่แปลกตาสำหรับเรา อย่างเช่น พิธีอารตีบูชาไฟ และวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ ผู้คนเป็นมิตรและคอยให้ความช่วยเหลือดี อาหารการกิน ก็รสชาติไม่แย่อย่างที่คิด เพราะร้านอาหารหลายร้านก็มีการปรับรสชาติให้ถูกปากนักท่องเที่ยวแล้วครับ

และอีกหนึ่งความประทับใจของเรา ก็คือ การได้มีโอกาสเข้าพักที่ “วัดไทยพุทธคยา” วัดไทยในอินเดียที่เปิดให้ผู้แสวงบุญได้เข้ามาพักภายในวัดได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทางวัดจะมีการจัดห้องพักให้ พร้อมกับอาหาร 3 มื้อ ซึ่งพักในวัดไทยนอนสบายจริงๆ แถมอาหารของวัดก็รสชาติอร่อยถูกปากอีกด้วย.. กินอิ่ม หลับสบาย อิ่มใจ อิ่มบุญ มีโอกาสต้องกลับไปอีกอย่างแน่นอนครับ

สุดท้ายนี้ เราอยากบอกว่า.. “แสวงบุญที่อินเดีย” …ไม่ยาก ใครๆ ก็ไปได้ สักครั้งในชีวิตสู่ดินแดนพุทธภูมิ ต้องลองครับ!

 

#Gaya #Varanasi
#แสวงบุญที่อินเดียง๊ายง่าย
#ไปคยาไปกับแอร์เอเชีย
#ไปคยาพาราณสีไปกับแอร์เอเชีย
#AirAsiaTravels #AirAsia
#CHAILAIBACKPACKER

 


การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER

Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
E-mail : chailaibackpacker@gmail.com
Website : www.chailaibackpacker.com