8 จุดชม ดอกนางพญาเสือโคร่ง ใน จ. เชียงใหม่
เมื่อเข้าสู่หน้าหนาว.. ก็ถึงเวลาที่ต้องออก “ล่าเสือ” กับ.. 8 จุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งบาน ใน จ. เชียงใหม่ หนาวนี้ ..ไม่ไปไม่ได้แล้ว!
เมื่อเข้าสู่หน้าหนาว.. ก็ถึงเวลาที่ต้องออก “ล่าเสือ” ซึ่งการล่าเสือในที่นี้ หมายถึง การไปชม “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” (หรือ บางคนก็อาจจะเรียกว่า “ดอกซากุระเมืองไทย”) ที่จะออกดอกบานสะพรั่งอวดสีสันสีชมพูสดใส ในช่วงหน้าหนาวของทุกปีนั่นเอง!
ซึ่งในช่วงที่ดอกพญาเสือโคร่งบานนั้น จะอยู่ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ไปจนถึง ปลายเดือนมกราคม แต่.. จะบานสะพรั่งเต็มที่ที่สุด คือ ช่วงกลางเดือนมกราคม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี และ สภาพภูมิประเทศในแต่ละที่ ก็อาจจะมีผลให้บานไม่พร้อมกัน บางที่บานจะเริ่มโรยไปแล้ว แต่บางที่ยังเพิ่งเป็นดอกตูมก็มี .. ดังนั้น ก่อนจะออกเดินทางไปชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ไหน ก็ควรเช็คสถานการณ์ในแต่ละที่กันก่อนละกันนะ..
วิธีการเดินทางไปชม ดอกนางพญาเสือโคร่ง ใน.. เชียงใหม่
วิธีที่สะดวกที่สุด ก็คงจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว หรือ รถเช่าขับเอง เพราะสามารถที่จะขับไปแวะชมตามจุดต่างๆ ได้อย่างสะดวก หรือจะเป็นการเหมารถแดงนำเที่ยวก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่สำหรับผมแล้ว.. อยากแนะนำว่า.. หากขับมอเตอร์ไซค์เป็น ก็ควรจะ เช่ามอเตอร์ไซค์ ขับเที่ยวดีกว่าครับ สามารถเช่าได้ในตัวเมืองเชียงใหม่ ราคา 250-300 บาท/วัน ไปได้ตามใจ อยากแวะไหนแวะ.. ไม่ต้องห่วงกับรถติด ตามจุดเข้าชมต่างๆ ด้วยนะครัช! 55+
สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ในประเทศไทยนั้นก็มีหลายที่ แต่จะขอพาไปชมดอกนางพญาเสือโคร่งในสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะเลือกพาไปใน 8 จุดนี้ ว่าแล้วก็รีบ.. ไปล่าเสือกันเลยยยย..!
1. สถานีเกษตรวิจัยหลวง(ดอยอ่างขาง) จ.เชียงใหม่
สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งอันดับต้นๆ ของประเทศไทยก็ต้องยกให้ “ดอยอ่างขาง” ซึ่งระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ สู่ดอยอ่างขางในช่วงท้ายๆ นั้น ถือเป็นเส้นทางสีชมพูที่สักครั้งต้องมาสัมผัส สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่งที่บ้านสะพรั่งอวดสีสันให้ได้ชม และภายในสถานีเกษตรวิจัยหลวง(ดอยอ่างขาง) ก็ยังมี ดอกซากุระสายพันธุ์จากญี่ปุ่น ให้ได้ชมด้วย ที่นี่เป็นที่นิยมมาก.. คนอาจจะมาเที่ยวเยอะ แนะนำให้ลองมาวันธรรมดานะ จะดีมากเลย!
การเดินทางสู่ ดอยอ่างขาง
สามารถเดินทางไปได้ทั้งรถส่วนตัว และรถโดยสาร ซึ่งถ้าไปรถส่วนตัวก็จะสะดวกหน่อย เพราะสามารถแวะจอดถ่ายภาพตามรายทางได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะเส้นทางในบางช่วงค่อนข้างชัน
- จาก ตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวง หมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง เลี้ยวซ้ายทางแยกตำบลเมืองงาย ตรงเข้าเส้นทางหลวง หมายเลข 1178 เพื่อไปยังสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
- จาก ตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทาง หลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง ถึงกิโลเมตร 137 แยกบ้านปางควาย เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง หมายเลข 1249 ตรงไปประมาณ 25 กิโลเมตร
ถ้าเดินทางด้วย รถโดยสารประจำทาง ให้ขึ้นรถสาย เชียงใหม่-ฝาง ที่ คิวรถช้างเผือกในตัวเมืองเชียงใหม่ มาลงที่หน้าวัดหาดสำราญ(ตรงหลักกิโลเมตรที่ 137) มีบริการ รับ-ส่ง คิวรถสองแถว ซึ่งสามารถเหมารถต่อเพื่อขึ้นมาถึงดอยอ่างขางได้
2. พระตำหนักดอยผาตั้ง จ.เชียงใหม่
พระตำหนักดอยผาตั้ง เป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่เดินทางมาได้อย่างไม่ลำบากมากนัก เพราะเข้ามาจากถนนเส้นหลักไม่ไกล ภายในบริเวณพระตำหนัก มีต้นพญาเสือโคร่งให้ได้ชมหลายต้น ทั้งต้นเล็ก และต้นใหญ่ และ เนื่องจากตั้งอยู่บนที่สูง จึงสามารถชมวิวบรรยากาศโดยรอบได้อีกด้วย
การเดินทางสู่ พระตำหนักดอยผาตั้ง
พระตำหนักดอยผาตั้ง จะอยู่ในเส้นทางหลวง หมายเลข 1009 ถัดจาก แยกบ้านขุนกลาง(ทางไปขุนวาง) เพียงเล็กน้อย สามารถขับรถส่วนตัวขึ้นไปได้ ให้สังเกตด้านขวามือ หากผ่านตลาดม้งอินนทนนท์ ก็เตรียมชิดซ้ายแยกขึ้นไปตามถนนเส้นเล็กๆ สู่พระตำหนักดอยผาตั้งได้เลย
ถ้าหากมา รถโดยสาร อาจจะหารถต่อลำบากหน่อย แนะนำควรเหมารถสองแถวมาตั้งแต่ คิวรถสองแถวอำเภอจอมทอง(แถววัดพระธาตุศรีจอมทอง) เลยจะสะดวกกว่า และสามารถไปเที่ยวที่อื่นๆ ได้อีกด้วย
3. ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี จ.เชียงใหม่
จุดเด่น ในการมาชมดอกนางพญาเสือโคร่งในที่นี้ จะอยู่ตรงที่การได้ชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่มีต้นปลูกอยู่โดยรอบบึงน้ำเล็กๆ ซึ่ งถ้าหากมาในช่วงเช้าก็จะมีสายหมอกที่ลอยต่ำอยู่บนผิวน้ำให้เห็น เป็นภาพที่สวยงามไปอีกแบบ..
การเดินทางสู่ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ เป็นเส้นทางเดียวกันกับ เส้นทางไป ขุนวาง และ แม่จอนหลวง จากถนนเส้นหลักสู่ดอยอินนทนน์(เส้นทางหลวงหมายเลข 1009) จะมีเจอแยกบ้านขุนกลาง(กม. 31) เลี้ยวขวาตรงไปเรื่อยไป ทางขุนวางถึงประมาณ กม. 8 จะเห็นป้ายศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี
สามารถขับรถส่วนตัวขึ้นไปได้ ถ้าหากมารถโดยสารอาจจะหารถต่อลำบากหน่อย แนะนำควรเหมารถสองแถวมาตั้งแต่ คิวรถสองแถวอำเภอจอมทอง(แถววัดพระธาตุศรีจอมทอง) เลยจะสะดวกกว่า และสามารถไปเที่ยวที่อื่นๆ ได้อีกด้วย..
4. ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง) จ.เชียงใหม่
ขุนวาง เส้นทางถนนสีชมพูสุดโรแมนติก จนมีละครดังๆ หลายเรื่องมาถ่ายทำกันที่นี่ (หลายคนจึงมาตามรอยละครดังกัน) ซึงภายในบริเวณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง) ถือได้ว่า มีดอกนางพญาเสือโคร่งให้ชมในพื้นที่ที่เป็นบริเวณกว้าง แห่งหนึ่ง
การเดินทางสู่ ขุนวาง
จากเส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ตามทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1009 ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 31 มีสามแยกตรงหมู่บ้านขุนกลาง ก็เลี้ยวขวาไปอีก 16 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านขุนวาง เลยหมู่บ้านไปประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึง ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง)
หากมาด้วยรถโดยสารสองแถว ให้ลงตรงแยกหมู่บ้านขุนกลาง แล้วค่อยเหมารถสองแถวขึ้นไปขุนวาง ราคาแล้วแต่จะตกลง(ประมาณ 800-1000 บาท) ซึ่งถ้าให้แนะนำควรเหมารถสองแถวมาตั้งแต่ คิวรถสองแถวอำเภอจอมทอง(แถววัดพระธาตุศรีจอมทอง) เลยจะสะดวกกว่า และสามารถไปเที่ยวตามจุดอื่นๆ ได้อีกด้วย..
5. ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ส่วนแยกพืชสวน(แม่จอนหลวง) จ.เชียงใหม่
หากได้มาชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ขุนวางแล้ว ก็ต้องแวะไปชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ แม่จอนหลวง ด้วย ซึ่งสถานีเกษตรฯ แม่จอนหลวง จะตั้งอยู่ห่างจาก ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง) ประมาณ 7 กิโลเมตร เท่านั้น จุดเด่นของแม่จอนหลวง ก็คือ มีต้นดอกนางพญาเสือโคร่ง(สีขาว) ให้ชมด้วย สวยงามไม่แพ้ดอกสีชมพูเลย..
การเดินทางไป สถานีเกษตรฯ แม่จอนหลวง
จากหน้า สถานีเกษตรฯ ขุนวาง จะมีทางแยกให้เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทาง ระยะทางจาก สถานีเกษตรขุนวาง ถึง สถานีเกษตรแม่จอนหลวง 7 กิโลเมตร ถนนหนทางราดยางอย่างดี รถทุกชนิดสามารถไปได้
6. สถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน จ.เชียงใหม่
ชื่อที่เรียกกันคุ้นหูสั้นๆ อย่าง “ขุนช่างเคี่ยน” เป็นสถานที่ฮิตในการล่าเสืออันดับต้นๆ ของประเทศไทยเลย แถมอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ และ เดินทางง่าย มีรถสองแถวคอยรับจ้างพาขึ้นไปชมดอกพญาเสือโคร่งตลอดทั้งวัน ต้นนางพญาเสือโคร่ง สีชมพู จะบานสะพรั่งทั้งในบริเวณสถานีวิจัยฯ และตามสองข้างถนนไปจนถึงในหมู่บ้านม้ง ขุนช่างเคี่ยน
การเดินทางสู่ ขุนช่างเคี่ยน
เส้นทางการเดินทางไปยังขุนช่างเคี่ยน เป็นเส้นทางที่หลายคนคงคุ้นเคยกันดี เพราะ เป็นเส้นทางเดียวกับเส้นทางดอยสุเทพและ บ้านแม้วดอยปุย สภาพถนนระหว่างตัวเมืองเชียงใหม่ ถึงบ้านแม้วดอยปุย จะลาดยางเดินทางได้สะดวก แต่หลังจากนั้นทางจะค่อนข้างแคบและชัน รถสวนกันลำบาก ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง
- รถยนต์ส่วนตัว สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวไปได้ แต่สภาพเส้นทางชัน และทางแคบมาก เวลารถสวนกันจึงต้องค่อยๆ หลบ ชิดริมขอบทาง ถ้าขับไม่ชำนาญให้จอดไว้ที่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ แล้วเหมารถสองแถวไปจะสะดวกกว่า หรือ ถ้าจะ เช่ามอเตอร์ไซค์ จากตัวเมืองเชียงใหม่ขึ้นไปก็ดูสะดวกดีเหมือนกัน เพราะบางช่วงคนเยอะ รถติด มอเตอร์ไซค์ก็ดูจะคล่องตัวดีกว่า
- รถโดยสารสาธารณะ สามารถเหมาสองแถวจากบริเวณหน้าพระธาตุดอยสุเทพ มีคิวรถจอดพร้อมให้บริการมากมาย ราคาขึ้นขุนช่างเคี่ยนอยู่ที่ เที่ยวละ 200 บาท
7. สถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ(ดอยแม่ตะมาน) จ.เชียงใหม่
สถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ ดอยแม่ตะมาน อยู่ในเขตอำเภอเชียงดาว ที่นี่ก็มีดอกพญาเสือโคร่งให้ชมเช่นกัน แม้ว่าจะมีอยู่เพียงไม่กี่ต้น แต่ถ้าเมื่อได้บวกเข้าด้วยบรรยากาศวิวอลังการ และฉากหลังอย่างดอยหลวงเชียงดาว ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ดูน่าสนใจเช่นกัน
การเดินทางสู่ ดอยแม่ตะมาน
- รถส่วนตัว (แนะนำเป็นรถ 4WD เท่านั้น) จากตัวจังหวัดเชียงใหม่ ไปตามทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) เลี้ยวซ้ายระหว่างหลัก กิโลเมตรที่ 67 (หน้าปากทางเข้าซอยมีป้ายเขียนว่า ทางเข้าวัดจอมคีรี) ขับเข้าไปเรื่อย จะถึงเส้นทางลูกรัง สภาพทางในบางช่วงที่ฝนตก อาจจะเละ และค่อนข้างเดินทางทางลำบากควรใช้ความระมัดระวังอย่างสูง โดยระยะทางจากปากทาง ไปจนสิ้นสุดถึง ที่ทำการหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน รวมประมาณ 23 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น(แล้วแต่สภาพทาง)
- รถโดยสารสารธารณะ นั่งรถโดยสารจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปลง อำเภอเชียงดาว จากนั้นติดต่อนัดหมายให้รถกระบะ 4WD มารับขึ้นไปได้ (ราคาประมาณ 2200-2400 บาท)
8. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงใหม่(อำเภอแม่แตง อำเภอเวียงแหง อำเภอเชียงดาว) และ จังหวัดแม่ฮ่องสอน(อำเภอปาย) ที่นี่..เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม สำหรับการมากางเต็นท์นอน และตื่นมาชมทะเลหมอกในยามเช้า ซึ่งนอกจากจะได้ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และ ทะเลหมอกสวยๆ แล้ว ก็ยังมี ดอกนางพญาเสือโคร่ง ให้ชมอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะมีอยู่เพียงไม่กี่ต้น แต่ก็ช่วยสร้างสีสันให้กับบริเวณนี้ไม่น้อยเหมือนกัน..
การเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
รถส่วนตัว จากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตามเส้นทางหลวง หมายเลข 107 เลี้ยวเข้าทางแยกซ้ายมือที่ตลาดแม่มาลัย อำเภอแม่แตง ไปตามเส้นทางหลวง หมายเลข 1095 สายแม่มาลัย – ปาย รวมระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 100 กิโลเมตร
หรือ ถ้าไม่สะดวกเดินทางด้วยรถส่วนตัว ก็สามารถซื้อทัวร์ครึ่งวันเช้าจากอำเภอปาย ก็ได้!
นอกจาก 8 จุด ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ดังกล่าวแล้ว.. ในเชียงใหม่ หรือ ในประเทศไทยเอง ก็ยังมีสถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งอีกมากมาย สามารถเลือกไปเที่ยวชมได้ตามความสะดวก ซึ่งถ้าใครสนใจจะไป “ล่าเสือ” ก็ต้องรีบวางแผนกันหน่อย ต้องรีบไปก่อนที่ดอกจะโรยราไปเสียก่อน..นะ รับรองได้ไป.. ถ่ายรูปสวยๆ กันแน่นอน!
การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER
Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
E-mail : chailaibackpacker@gmail.com
Website : www.chailaibackpacker.com