เที่ยว “ญี่ปุ่น” ทริปล่าสุด เรามีโอกาสเดินทางมาเที่ยวเมือง “โอซาก้า” (Osaka) อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ เราตั้งใจวางแผนมาเที่ยวชมงาน “OSAKA EXPO 2025” ที่เพิ่งเปิดให้เที่ยวชมได้ไม่นาน เป็นงานที่น่าสนใจมาก!

“OSAKA EXPO 2025” งานเอ็กซ์โประดับโลกที่รวบรวมผลงาน นวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะจัดขึ้นทุก 5 ปี โดยในปี 2025 นี้ ก็ได้จัดขึ้นที่เกาะ “Yumeshima” เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ วันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2568 รวมเป็นระยะเวลา 6 เดือน


เดินทางไป “โอซาก้า” กับ Thai AirAsia X
เริ่มต้น ออกเดินทาง เรามาขึ้นเครื่องที่ “สนามบินดอนเมือง” (DMK) หลังจากสำรองที่นั่งเรียบร้อย เราก็ได้ทำ Web Check-in มาก่อนล่วงหน้า เมื่อมาถึงเคาน์เตอร์เช็คอินที่สนามบิน ก็มาตรวจเอกสาร และโหลดสัมภาระ จากนั้น ก็เข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสัมภาระ และผ่านตรวจคนเข้าเมือง โดยใช้เวลาทั้งหมดไม่นาน


Thai AirAsia X บินด้วยเครื่องลำใหญ่ ตารางเวลาบินดี บินสะดวก ราคาสุดคุ้ม ในระหว่างเดินทาง บนเครื่องก็จะมีพนักงานต้อนรับมาคอยให้บริการอย่างดี มีบริการจำหน่ายอาหารหลากหลายเมนู อย่างเช่น ข้าวหน้าปลาซาบะย่างซีอิ๊ว (Grilled Mackerel With Japanese Sauce and Rice), ข้าวกะเพราไก่หม่อมหน่อย(Ml. Noi Basil Fried with Chicken) และเมนูอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย

และ สำหรับในช่วงนี้ ตั้งแต่ เมษายน – มิถุนายน 2568 ก็มีเมนูพิเศษ รสแซ่บๆ สูตรอีสานมาจำหน่าย ให้ได้ลองชิมถึง 3 เมนู คือ ข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่างตาลโตนด, ยำไก่ยอ และ ไส้กรอกอีสาน

จาก กรุงเทพฯ ดอนเมือง (DMK) เดินทางมาถึงปลายทางที่ สนามบินคันไซ (KIX) ได้อย่างปลอดภัย ตามเวลาที่กำหนด ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมงครึ่ง มาถึง โอซาก้า (Osaka) ก็พร้อมเที่ยวต่อได้เลย!

ตารางบิน กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – โอซาก้า
(ขาไป)
● DMK – KIX : XJ 610 : 12.00 – 19.55
● DMK – KIX : XJ 612 : 01.10 – 08.50
(ขากลับ)
● KIX – DMK : XJ 611 : 21.10 – 01.05 (+1)
● KIX – DMK : XJ 613 : 10.05 – 14.05
เปิดจองแล้ว วันนี้!
จองได้ที่ : เว็บไซต์ airasia.com และแอป AirAsia MOVE
การจองตั๋วเข้าชมงาน OSAKA EXPO 2025
ตั๋วเข้าชม มีหลายประเภท ยกตัวอย่าง เช่น
● One-Day Ticket : ผู้ใหญ่ 7,500 เยน / เด็ก (อายุ 12-17 ปี) 4,200 เยน / เด็ก (อายุ 4-11 ปี) 1,800 เยน
● Weekday Ticket (เข้างานหลัง 11.00 น. ในวันธรรมดา) : ผู้ใหญ่ 6,000 เยน / เด็ก(อายุ 12-17 ปี) 3,500 เยน / เด็ก(อายุ 4-11 ปี) 1,500 เยน
● Night Ticket (เข้างานหลัง 17.00 น. ตลอดช่วงการจัดงาน) : ผู้ใหญ่ 3,700 เยน / เด็ก (อายุ 12-17 ปี) 2,000 เยน / เด็ก(อายุ 4-11 ปี) 1,000 เยน

วิธีการซื้อตั๋วเข้าชม มีดังนี้
1.ซื้อตั๋วเข้าชมผ่าน Klook ได้ที่ Link นี้ได้เลย : https://www.klook.com/th/activity/131691-expo-2025-osaka-admission-ticket/
2.เลือกประเภทของตั๋วเข้าชมตามต้องการ พร้อมระบุวันที่จะเข้าชมงาน
3.ใส่รายละเอียด และข้อมูลการติดต่อให้ครบถ้วน พร้อมชำระเงินให้เรียบร้อย
อย่าลืม!! ใส่ Code : CHAILAIJPKLK เพื่อรับส่วนลด 5% ด้วยนะ (เมื่อจองขั้นต่ำ 1,500 บาท)
4.เมื่อซื้อตั๋วเข้าชมเรียบร้อย ก็จะได้รับหมายเลข “Ticket ID” เพื่อนำไปลงทะเบียน “ExpoID” ในขั้นตอนต่อไป


วิธีการลงทะเบียน “ExpoID”
1. ลงทะเบียน Register และ Login เข้าระบบ “ExpoID”
2. Add หมายเลข Ticket ID ที่ได้จาก Klook
3. จองวันและเวลาที่จะเข้าชมงาน / พาวิลเลียน, อีเวนต์, นิทรรศการ ฯลฯ ที่จัดภายในงานตามความต้องการ
4. ไปชมงาน EXPO 2025 ตามวัน/เวลา ที่ได้จองไว้ โดยใช้ QR Code ที่ได้ ไปสแกนตรงทางเข้างาน สะดวกมาก!

การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน(Osaka Metro) สาย Chuo Line มาลงที่สถานี Yumeshima Station แล้วเดินเชื่อมต่อเข้าสู่งาน OSAKA EXPO 2025 (ทางเข้า East Gate)ได้เลย!

EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN ในครั้งนี้มีการกำหนดแนวคิดการนำเสนอ หรือ ธีมของงาน คือ “Designing Future Society For Our Live” เพื่อเป้าหมายชีวิตที่มีความสุขและสุขภาพดี จะจัดขึ้นบนพื้นที่ขนาดประมาณ 155 เฮกตาร์ พร้อมด้วยอาคารนิทรรศการของแต่ละประเทศทั่วโลก ที่จะมารวมกันอยู่ที่นี่ เพื่อให้ได้สัมผัสประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเทคโนโลยีล่าสุดของแต่ละประเทศ

ภายใน “OSAKA EXPO 2025” จะมีทั้งหมด 8 โซน คือ Connecting Lives Zone, Empowering Lives Zone, Saving Lives Zone, Forest of Tranquility Zone, Signature Zone, Future Life Zone, West Gate Zone และ East Gate Zone

โดยทั้งหมดจะถูกเชื่อมต่อกันด้วย “Grand Ring” โครงสร้างไม้วงกลมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ดูโดดเด่นของงานนี้

“Grand Ring” เป็นผลงานของ Sou Fujimoto สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น เป็นโครงสร้างไม้วงกลมขนาดใหญ่ มีเส้นรอบวง 2 กิโลเมตร ความสูง(ด้านนอก) 20 เมตร และกว้าง 30 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร ความพิเศษจะอยู่ที่การออกแบบโครงสร้างไม้แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม(การเข้าไม้แบบไม่ใช้ตะปู) ผสมผสานกับเทคนิคสมัยใหม่

โดยโครงสร้างไม้จะเป็นเหมือนหลังคา กันแดด กันฝน สำหรับผู้เข้าชมงาน และยังมี “Sky Walk” ทางเดินบนดาดฟ้า พร้อมการจัดสวนลอยฟ้า ที่สามารถขึ้นไปเดินเล่น ชมวิวได้แบบ 360 องศา

สำหรับ มาสคอต(Mascot) ประจำงานครั้งนี้ มีชื่อว่า “Myaku Myaku” เป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับ (แต่ดูน่ารักกวนๆ) เกิดจากการรวมตัวของ “เซลล์” และ “น้ำ” โดยส่วนสีแดงเป็นตัวแทนของ “เซลล์” สัญลักษณ์ของชีวิต และส่วนสีน้ำเงินหมายถึง “น้ำ” สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ “Myaku Myaku” จึงสามารถแปลงร่างเป็นรูปแบบต่างๆ ตามต้องการ

“OSAKA EXPO 2025” ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการจากหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยมี “ศาลา” หรือ “พาวิลเลี่ยน” (Pavilion) สำหรับจัดแสดงจากประเทศต่างๆ นำเสนอความน่าสนใจของประเทศตัวเอง ซึ่งล้วนมีความโดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่การออกแบบตัวอาคารภายนอก สถาปัตยกรรมสวยงาม น่าเข้าชมทุกประเทศ โดยมี “พาวิลเลี่ยน” (Pavilion) ที่อยากแนะนำ อย่างเช่น Australia Pavilion, Azerbaijan Pavilion, France Pavilion, Germany Pavilion, Spain Pavilion และอื่นๆ


มาเที่ยวชมงานนี้ทั้งที ก็ต้องไม่พลาดกับ “Thailand Pavilion” ภายนอกโดดเด่นด้วยตัวอาคารสวยงามแสดงเอกลักษณ์แบบไทย จาก A49 ภายใต้แนวคิด “ภูมิพิมาน ดินแดนแห่งภูมิคุ้มกัน”

โดยภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการนำเสนอภูมิปัญญาของไทย แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ จาก 1 – 1,000,000 ดังนี้
● 1 หมุดหมายสุขภาพโลก : สะท้อนวิถีชีวิตของคนไทย หมุดหมายของการมีสุขภาพที่ดี
● 10 มนต์เสน่ห์ของประเทศไทย : รวมภูมิวิถีแบบไทยๆ วัฒนธรรม ประเพณี การกินอยู่กับธรรมชาติ
● 100 ศักยภาพสาธารณสุขไทย : ระบบสาธารณสุขที่ดี ยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ
● 1,000 สถานบริการทางการแพทย์ : ดินแดนเป้าหมายสุขภาพที่ดี ครอบคลุม การรักษา การพักฟื้น และการพักผ่อน
● 10,000 เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ : วัตถุดิบที่หลากหลาย นำมาทำเป็นเมนูเพื่อสุขภาพได้อย่างมากมาย ด้วยรสชาติแบบไทย พร้อมมีจำหน่ายเมนูอาหารไทย อย่างเช่น ผัดกะเพรา, ส้มตำ ให้ได้ลองชิมกัน
● 100,000 ผลิตภัณฑ์สร้างภูมิคุ้มกัน : พื้นที่บำบัดกายและใจ พร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภูมิคุ้มกันเพื่อสุขภาพที่ดี
● 1,000,000 รอยยิ้มแห่งความประทับใจ : พื้นที่รวมล้านความรู้สึกประทับใจที่เกิดขึ้นภายในพาวิลเลียน โดยเราสามารถมาถ่ายรูปเพื่อให้ภาพแสดงผลบนหน้าจอได้ เป็นการส่งต่อรอยยิ้มให้แก่คนทั่วโลก



“Thailand Pavilion” ยังมีกิจกรรมและการแสดงบนเวที ที่แสดงออกถึงความเป็นไทยด้วย ซึ่งเราต้องขอชมเลยว่า การแสดงของไทยสนุกจริงๆ และทำให้คนที่มาเที่ยวชมงานก็ได้ร่วมสนุกไปด้วย

นอกจากนี้ ก็ยังมี “Domestic Pavilions” พาวิลเลี่ยนของประเทศญี่ปุ่น และ “Signature Pavilions” พาวิลเลี่ยนที่นำเสนอผลงานของเหล่าศิลปินขึ้นชื่อให้ได้เลือกไปเข้าชมกันอีกมากมาย

“Kansai Pavilion” (Domestic Pavilions) พาวิลเลี่ยนสีขาวโดดเด่น ภายในจัดนิทรรศการเกี่ยวกับภูมิภาคคันไซ ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ Shiga, Kyoto, Hyogo, Nara, Wakayama, Tottori, Tokushima, Fukui และ Mie

ภารกิจตามล่า STAMP มีกระจายทั่วทุกจุดภายในงาน

“null2” (Signature Pavilion) พาวิลเลี่ยน จาก ศิลปิน “Yoichi Ochiai” ที่นำเสนอการผสมผสานระหว่างกายภาพและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน โดยร่างกายของผู้เยี่ยมชมจะถูกสแกนและแปลงเป็นดิจิทัล สร้างความรู้สึกตื่นเต้นกับตัวตนเสมือนจริงของตนเองในรูปแบบใหม่

“Osaka Expo 2025” ภายในงานจะมีระบบการใช้จ่ายแบบ Cashless 100% ซึ่งจะมีบรรดาร้านค้า ร้านอาหารมากมายกระจายตามจุดต่างๆ (ราคาอาจจะสูงกว่าปกติเล็กน้อย) โดยทุกร้านก็ใช้ระบบ Cashless ไร้เงินสด ใครมาเที่ยวชมงานก็ต้องเตรียมบัตรต่างๆ สำหรับใช้จ่ายกันให้พร้อม

ร้านจำหน่ายของที่ระลึกงาน Osaka Expo 2025 ของที่ระลึกมาสคอต “Myaku Myaku” มีให้เลือกอย่างหลากหลาย อย่างเช่น พวงกุญแจ, เข็มกลัด, ตุ๊กตา, เสื้อยืด และอื่นๆ ให้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝาก

STAMP PASSPORT (1,100 เยน) มีจุด STAMP กระจายทั่วทุกจุดของงาน สามารถมาซื้อไปทำภารกิจตามล่า STAMP กันได้นะ

ยามเย็น ต้องมาชมพระอาทิตย์ตกที่ Sky Walk บน Grand Ring บรรยากาศชิลดีมาก

ไฮไลท์ ในช่วงหัวค่ำของทุกคืน กับ “Under The Midnight Rainbow” การแสดง แสง สี เสียง ในน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริเวณ Water Plaza สวยงามอลังการ ไม่ควรพลาดเลยนะ

แสง สี จากบรรดา “พาวิลเลี่ยน” ในช่วงกลางคืนก็สวยงามไปอีกแบบ

“Osaka Expo 2025” งานเอ็กซ์โประดับโลกที่จัดขึ้นทุก 5 ปี หมุนเวียนไปตามประเทศต่างๆ และครั้งนี้ ก็ได้มาจัดที่ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ที่สามารถเดินทางไปได้ง่ายแถมฟรีวีซ่าด้วย บอกเลยต้องไปให้ได้

ซึ่งใครสนใจอยากไปเที่ยวชมงานระดับโลกแบบนี้ ก็เตรียมจองตั๋วไปเที่ยวกันได้เลย!