EP9/11 : Mishima Town เมืองเล็กน่ารัก และ รถไฟสายโรแมนติก!
กลับมาถึงสถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu อีกครั้ง..
ผมตั้งใจจะเดินทางให้ไปถึง Mishima Town ก่อนค่ำวันนี้..
ในช่วงใกล้เข้าสู่หน้าหนาวแบบนี้.. ญี่ปุ่น มืดค่ำไวมาก แค่ 4-5 โมงเย็น นี่ก็เริ่มจะมืดแล้วครับ ผมรีบไปเอาสัมภาระคืนจากตู้ฝากสัมภาระหยอดเหรียญที่ได้ฝากเอาไว้ในตอนเช้า และ รีบเข้าไปรอรถไฟที่ชานชาลา ซึ่งจุดหมายต่อไปของผมก็ คือ Mishima Town เมืองเล็กๆ น่ารักอีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ออกไปไม่ไกล โดยเดินทางจาก สถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu ไปยัง สถานี Aizu Miyashita ใน Mishima Town ใช้เวลาในการนั่งรถไฟ 1 ชั่วโมง กับ 20 นาที นั่งไปชิลๆ สบายๆ ในยามเย็นแบบนี้..
Mishima Town ที่ผมกำลังจะเดินทางไปนี้ ก็ถือว่าเป็นสถานที่ไฮไลท์สำคัญ สำหรับทริปเที่ยว จังหวัด Fukushima นี้ เหมือนกันนะครับ หลายคนที่ได้มาเยือนเมืองนี้ก็เพราะ ความหลงใหลในเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line ซึ่งมีความสวยงาม ของทางรถไฟ ที่พาดผ่านแม่น้ำ ป่าเขา อันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเมืองนี้ และ สถานที่แนะนำที่ที่พลาดไม่ได้ ก็คือ.. จุดชมวิวสะพาน Daiichi Kyouryou ที่ผมได้มีโอกาสมาชมในช่วงของบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีพอดีเลยครับ
นั่งรถไฟมาแบบชิลๆ ไม่นานก็มาถึง สถานี Aizu Miyashita ใน Mishima Town ความรู้สึกแรกที่ลงมาจากขบวนรถไฟ ก็คือ บรรยากาศที่นี่เงียบมาก และ ดูมืดไวมาก แม้จะเป็นเวลาแค่หัวค่ำเท่านั้น ผมรีบเดินไปยังที่พักที่ได้จองล่วงหน้าเอาไว้ ชื่อ Okuaizu Nonbirikan Ryokan เป็นที่พักแบบเรียวกัง ซึ่งก็หาไม่ยาก อยู่ห่างจากสถานีรถไฟแค่ 200 เมตร เท่านั้น เมื่อเดินมาถึงเรียวกัง ก็ได้รับการต้อนรับจากผู้ดูแลที่นี่ เป็นคุณยายวัยสูงอายุ ที่พูดอังกฤษไม่ได้เลย และมีคุณน้าผู้หญิงที่พอพูดอังกฤษได้บ้าง ทุกคนที่นี่ดูแลเอาใจใส่ดีมากๆ ครับ และถึงแม้ว่า.. ผมจะจองที่พักมาแบบรวมอาหารเช้า ไม่ได้เอาอาหารเย็นด้วย แต่..ทางผู้ดูแล ก็ใจดี ทำอาหารเย็นเซ็ตเล็กๆ มาให้กินด้วยครับ
ถ้าใครต้องการรับอาหารเย็นด้วย หน้าตาของ อาหารเย็น ก็จะประมาณนี้ครับ
หากต้องการ แช่ออนเซ็น ก็มี ห้องอาบน้ำ ให้บริการอยู่ชั้นล่าง สามารถมาแช่ออนเซ็นได้ตลอดเวลา ภายในห้องก็มีอุปกรณ์อาบน้ำ สบู่ แชมพู ไว้บริการด้วย เดินทางมาเหนื่อยๆ ลงแช่น้ำสักหน่อย ก็ผ่อนคลายดี..
ห้องน้ำ อาจจะดูแคบไปสักนิด แต่..ภายในสะอาดมากๆ ครับ ช่วงที่อากาศข้างนอกหนาวๆ เวลาได้ใช้ห้องน้ำนี่เพลินเลย อุ่นสบาย 55+
ห้องพัก อยู่บริเวณชั้นสอง เป็นห้องเล็กๆ แบบง่ายๆ ข้างในไม่ค่อยมีอะไร นอกจากที่นอน กับ ทีวีเครื่องเล็กๆ ที่ไม่มีโอกาสได้เปิดเลย เพราะ นอนหลับไปเสียก่อน ด้วยความเพลีย แต่.. รีบนอน รีบพักผ่อนก็ดี เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นแต่เช้า เพื่อไปรอดูรถไฟที่ จุดชมวิวสะพาน Daiichi Kyouryou ครับ!
DAY 6 : 08.11.17
เช้าวันใหม่ ใน.. Mishima Town!
วันนี้.. รีบตื่นแต่เช้า เพื่อจะไปรอดูรถไฟที่ จุดชมวิวสะพาน Daiichi Kyouryou (First Bridge View Point) ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการมาเยือน Mishima Town แห่งนี้ ซึ่งจากตอนแรกผมมีความคิดที่จะเดินเล่นๆ จากเรียวกัง ไปยัง จุดชมวิว ดังกล่าว ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรกว่าๆ ก็น่าจะใช้เวลาเดินประมาณ 30-45 นาที เดินเล่นๆ แวะถ่ายรูปเล่นไปก็พอจะได้อยู่ แต่..ก็ไม่ได้เดินไปอย่างที่หวังไว้ เพราะ ผู้ดูแลเรียวกังใจดีจะอาสาขับรถไปส่งตรงทางขึ้นจุดชมวิว ขับมาไม่เกิน 5 นาที ก็ถึงแล้วครับ (ถ้าใครไม่อยากเดิน ก็สามารถเช่าจักรยานปั่น หรือ นั่งรถรับ-ส่ง จาก หน้า สถานี Aizu Miyashita ก็ได้ รถมีเพียงรอบเดียวเท่านั้น คือ 07.30 น. ค่าโดยสาร 500 เยน)
รถจะมาจอดที่ จุดพักรถ Ozekaido Mishima Juku Roadside Station ซึ่งจากนี้ไปต้องเดินเท้าต่อเพื่อไปยังจุดชมวิว รวมระยะทางแล้วไม่ไกลครับ เดินได้สบายๆ แต่ละจุดไม่ได้อยู่ห่างกันไกล โดยจะเริ่มจาก จุด A คือ จุดเริ่มต้น(ใกล้กับอุโมงค์) และ จุดสำหรับชมวิว B C D ตามลำดับความสูง
ทางเดินขึ้นจะอยู่ใกล้ กับ อุโมงค์ เป็นทางที่ค่อนข้างจะชันหน่อยนะครับ
ระหว่างที่จะเดินขึ้นไปก็จะเห็นวิวสวยๆ ของแม่น้ำ
ใช้เวลาเดินไม่นานครับ แป้บเดียวจริงๆ ก็มาถึง จุดแรก คือ จุด B ตรงนี้จะมีที่สำหรับนั่งรอดูรถไฟ และ มีตารางรถไฟบอกเวลาตอนที่รถไฟข้ามสะพานด้วยครับ
สะพาน Daiichi Kyouryou จะอยู่ระหว่าง สถานี Aizu Nishikata กับ สถานี Aizu Hinohara ซึ่งจะมีรถไฟวิ่งข้ามสะพานทั้งเที่ยวไป และกลับ รวมทั้งหมด 12 ครั้ง/วัน โดยเวลาที่ระบุตอนรถไฟข้ามสะพาน จะเป๊ะมากๆ สะดวกไปรอชมตอนไหนก็ดูเวลาตามภาพได้เลยนะครับ สำหรับผมได้ดู 2 รอบ คือ 07.22 น. และ 07.39 น. ช่วงเวลาในการรอไม่ห่างกันมากขึ้นมาครั้งเดียวได้ดู 2 รอบเลย
จุดชมวิว สะพาน Daiichi Kyouryou แห่งนี้ จะมีความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาลนะครับ อย่างเช่น ช่วงหน้าหนาว วิวทิวทัศน์เบื้องหน้าก็จะถูกปกคลุมขาวโพลนไปด้วยหิมะ หรือ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อย่างช่วงนี้ ก็มีสีสันสวยไปอีกแบบ
หลังจากที่ลองเดินดูในทุกจุด ทั้ง B C และ D แล้ว.. ผมรู้สึกว่า จุด B น่าจะอยู่ในมุมที่เหมาะแล้ว แถมไม่ต้องเดินไกลอีกด้วย(แบบว่าขี้เกียจ 55+) เอาเป็นว่ามารอดูรถไฟที่จุดนี้ละกันครับ
เมื่อใกล้ถึงเวลา.. ก็ได้ยินเสียงรถไฟ ที่ส่งสัญญาณเสียงมาล่วงหน้า และ ก็ค่อยๆ เผยโฉมออกมา ในเวลาที่ต้องบอกว่า.. เป๊ะมาก!
ระหว่างที่รถไฟกำลังข้ามสะพาน ก็จะเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ให้คนรอชมได้ลั่นชัตเตอร์เพื่อเก็บภาพกัน
หลังจากนั้นก็กลับมายัง Okuaizu Nonbirikan Ryokan ครับ บรรยากาศรอบด้านค่อนข้างที่จะสงบเงียบมาก รถราน้อยมากๆ เป็นเมืองที่สงบดีครับ ส่วนตัวชอบมากเลย ได้อารมณ์มาพักผ่อนแบบจริงๆ
บรรยากาศภายใน Okuaizu Nonbirikan Ryokan สบายๆ เหมือนอยู่บ้าน
ได้เวลา อาหารมื้อเช้า พอดี.. ก็มารอที่ห้องทานอาหาร ที่อยู่ชั้นล่างครับ จะมีคุณยายท่าทางใจดีคอยดูแลอยู่
เข้ามาใน ห้องทานอาหาร รู้สึกอุ่นขึ้นเยอะเลย
อาหารมื้อเช้า ฝีมือคุณยายทำเอง ก็อร่อยดีครับ อิ่มกำลังดี.. พร้อมออกไปเที่ยวต่อ!
เมืองเล็กน่ารัก Mishima Town!
ช่วงสายนี้.. ก็ขอเดินเล่นชมภายในเมืองเล็กๆ น่ารักแห่งนี้กันสักหน่อย โปรแกรมหลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรมากครับ เน้นพักผ่อน เดินเล่น ในเมืองแบบนี้เสียมากกว่า
ใน Mishima Town สามารถเดินเล่นได้รอบเมืองเลยนะครับ เป็นเมืองที่เล็กจริงๆ ถ้าอยากได้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว หรือ ร้านอาหาร ใน Mishima Town ก็สามารถไปขอข้อมูลที่ ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว ที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟได้เลยนะครับ (จากสถานีรถไฟ ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว จะอยู่ตรงสามแยกพอดี และถ้าเลี้ยวซ้ายเดินมาอีกหน่อยก็จะเป็น Okuaizu Nonbirikan Ryokan ที่ผมพักครับ)
สีสันของใบไม้เปลี่ยนสีของสองฝั่งถนน
ร้านสะดวกซื้อ ที่อยู่ตรงข้ามกับ Okuaizu Nonbirikan Ryokan ขาดเหลืออะไร มาหาซื้อของกิน ของใช้ที่นี่ได้ แต่.. ร้านจะปิดไวหน่อยนะครับ แค่ 1 ทุ่มก็ปิดแล้ว
ร้านขายของชำ ภายในเมือง ดูคลาสสิคดี
เมืองนี้ รถน้อยมากๆ นานๆ ทีจะผ่านมาสักคัน บรรยากาศในเมืองมันเงียบจริงๆ
ขอลองเข้าไปหาข้อมูลใน ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว สักหน่อยครับ
ข้างในสามารถสั่งอาหารมาทานได้ด้วยนะ
มีข้อมูลท่องเที่ยวของ Mishima Town และ เมืองใกล้เคียง ที่สำคัญมีแบบภาษาไทยด้วยนะครับ
มุมจำหน่ายของที่ระลึกต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้าของดีของเมือง Mishima Town
ไหนๆ ก็เข้ามาขอแผนที่ของ Mishima Town แล้ว ก็เลยช่วยอุดหนุนของที่ระลึกหน่อยครับ
เจ้าหน้าที่ที่ ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว ให้ความช่วยเหลือ และให้ข้อมูลดีมากๆ ครับ โดยแนะนำให้ผมรีบเดินไปที่ จุดชมวิว อีกจุดหนึ่งที่ผมไม่ได้ทราบมาก่อนเลย เป็น จุดชมวิวรถไฟ ที่สามารถมองเห็นถึง 3 สะพาน แถมเดินไม่ไกลจาก ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว อีกด้วย (ถ้าเดินมาจากสถานีรถไฟ ให้เลี้ยวขวา แล้วเดินตรงไปประมาณ 200 เมตร แล้วให้เดินขึ้นเนินเล็กๆ ที่แยกไปทางซ้าย ตามในภาพ จุดชมวิว จะอยู่ด้านหลังของบ้านที่มีหลังคาสีแดง)
ก็จะมาพบกับวิวนี้.. เป็นวิวที่มองเห็นถึง 3 สะพาน ไล่ระดับกัน ซึ่งอีกไม่นานก็จะมีรถไฟวิ่งผ่านด้วย
และแล้ว.. รถไฟก็วิ่งข้ามสะพานตรงเวลา ..เป๊ะเช่นเดิม! ส่วนตัวแล้ว ผมชอบวิวตรงนี้ มากกว่าตรงสะพาน Daiichi Kyouryou (First Bridge View Point) อีกนะเนี่ย 55+
จากนั้น.. ก็เดินเล่นๆ ชมเมือง ไปตามถนนที่เลียบไปกับ แม่น้ำ Tadami ครับ
เดินมาถึงสะพานอีกแห่ง เป็นสะพานที่ใหญ่มากๆ ก็เลยลองข้ามไปชมวิวที่ฝั่งนู้นดูบ้าง เห็นต้นสนขนาดใหญ่ขึ้นเพียบเต็มเขาเลย
ระหว่างที่เดินข้ามสะพานลมแรงเหมือนกันครับ ออกจะหนาวไปสักนิด แต่.. อากาศสดชื่นมากเลย
สะพานนี้อยู่ค่อนข้างสูง ถ้ามองไปทางซ้ายก็จะเห็นเขื่อนที่เอาไว้ผลิตกระแสไฟฟ้า (Miyashita Power Station)
พอข้ามมาอีกฝั่งก็จะเห็นหมู่บ้านเล็กๆ บรรยากาศสงบเงียบมากๆ ครับ แทบไม่มีรถวิ่งผ่านเลย ชอบอะไรแบบนี้มากครับ มันสงบดี 55+
ตรงสะพานใหญ่ที่เพิ่งข้ามมานั้น.. ใกล้ๆ จะมีร้านกาแฟน่านั่งครับ ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นบ้านคนทั่วๆ ไป พอดีแอบเห็นป้าย Coffee เล็กๆ ตั้งอยู่ข้างหน้า ก็ขอลองแวะเข้าไปจิบกาแฟดูครับ ไหนๆ วันนี้ก็เน้นพักผ่อนชิลๆ อยู่แล้ว
ร้านกาแฟ ตกแต่งภายในได้น่ารักดีครับ มีมุมให้เลือกนั่งจิบกาแฟได้ตามสบาย และ ผนังที่เป็นกระจกขนาดใหญ่ ทำให้มองเห็นวิวข้างนอกได้อย่างชัดเจนเลยครับ จิบกาแฟไป ชมวิวไป เพลินเลย (ผมได้เห็นภาพของร้านนี้ ในช่วงที่หิมะตกด้วย.. เป็นวิวสวยดีครับ ต้นสนต้นใหญ่ๆ ที่ปกคลุมด้วยหิมะ)
นอกจาก กาแฟแล้วก็มี พวกเมนูอาหารอื่นๆ ด้วยนะครับ สารภาพว่าอ่านไม่ออก ต้องให้ เจ้าของร้านมาอธิบายว่าแต่ละเมนูมันคืออะไร? 55+
ก็เลยขอกิน อาหารมื้อเที่ยง ที่นี่เลยครับ กับ เมนู ข้าวแกงกะหรี่ ราคา 700 เยน
ตามด้วย กาแฟร้อนๆ สักแก้วครับ นั่งจิบไปเรื่อยๆ ในยามบ่ายที่สุดชิล
น้องที่ร้านกาแฟครับ บริการดีมาก จนรู้สึกเกรงใจเลย 55+ ใครได้มีโอกาสไปเที่ยว Mishima Town ก็ลองแวะไปนั่งจิบกาแฟกันได้นะครับ
ผมมีเวลาเหลืออีกนิดใน Mishima Town ก็เลยใช้เวลาที่เหลือ เดินเล่นย้อนกลับไปอีกหนึ่งสะพานที่อยู่ไม่ไกล เป็น สะพานสีแดง ที่ดูเด่นเห็นชัดมาแต่ไกล ซึ่งผมก็ถือโอกาสมานั่งเล่นยามเย็นรอเวลารถไฟ ณ ที่ตรงนี้..
ปกติที่นี่.. ก็มืดค่ำไวอยู่แล้ว พอมาเจอกับสภาพอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนในช่วงเย็นนี้ ก็ทำให้รู้สึกว่า.. ดูมืดค่ำเร็วกว่าเดิมเข้าไปอีก ผมจึงรีบกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากเอาไว้ที่เรียวกัง และ รีบเข้ามาที่สถานีรถไฟ ก่อนที่ฝนจะโปรยปรายลงมา ซึ่งผมจะมารอขึ้นรถไฟเพื่อไปยัง สถานีรถไฟ Tadami อันเป็นจุดหมายต่อไปครับ
บรรยากาศของ สถานีรถไฟ Aizu Miyashita ตอนนี้ดูเงียบมากๆ ผมกลายเป็นผู้โดยสารคนเดียวของสถานี ที่กำลังรอรถไฟ เพื่อไปยัง สถานี Tadami
เมือง Tadami ที่ผมกำลังจะเดินทางไปนี้ ถือเป็นจุดหมายสุดท้าย ที่นั่งรถไฟมาไกลที่สุด ถ้านับจากในตัวเมือง Fukushima แบบว่า.. ไหนๆ ก็นั่งรถไฟยาวมาจนถึงที่ Mishima Town นี้แล้ว ก็ขอนั่งไปต่ออีกสักหน่อยล่ะกัน
ซึ่ง เมือง Tadami จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง? ก็ติดตามชมการเดินทางได้ในตอนหน้านะครับ!
7 Days in Fukushima! | บันทึกการเดินทางเที่ยวฟุคุชิมะ 7 วัน
- 1/11 : Say Hi! Fukushima การเดินทางไปด้วย Shinkansen
- 2/11 : Iizaka Onsen นอนเรียวกัง แช่ออนเซ็น กินผลไม้สดๆ จากสวน!
- 3/11 : เดินไต่ Mt. Azuma แวะแช่ออนเซ็นที่ Takayu Onsen
- 4/11 : ตามหาความเหลืองที่ Azuma Sport Park พัก APA Hotel
- 5/11 : Goshikinuma Ponds ในวันที่ใบไม้เปลี่ยนสี!
- 6/11 : Tagoto Ryokan เรียวกังนอนสบายใน Aizu Wakamatsu
- 7/11 : เที่ยวตามเส้นทาง Tono Hetsuri – Ouchi Juku นอน Niko Ryokan
- 8/11 : เที่ยววนไปใน.. Aizu Wakamatsu ด้วย Loop Bus 1 วัน
- 9/11 : Mishima Town เมืองเล็กน่ารัก และ รถไฟสายโรแมนติก!
- 10/11 : ปั่นจักรยานเที่ยวในเมือง Tadami แวะส่งท้ายทริปที่วัด Enzo-ji
- 11/11 : วิธีการนั่ง Night Bus จาก Fukushima กลับ Tokyo
- Ryokan : 5 เรียวกังน่าพัก ใน.. FUKUSHIMA, JAPAN
การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER
Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
E-mail : chailaibackpacker@gmail.com
Website : www.chailaibackpacker.com