KYUSHU : แพลนเที่ยว “ฟุกุโอกะและภูมิภาคคิวชู” เมืองน่ารัก เที่ยวง่าย ซัมเมอร์นี้มีแต่ฟิน!

SHARE!

ทริป “ญี่ปุ่น” ครั้งนี้ เราจะพาไปเที่ยวกันที่ “ฟุกุโอกะ” และภูมิภาคคิวชู ภูมิภาคที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ที่ขึ้นชื่อก็อย่างเช่น สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทั้ง ทะเล เกาะ ภูเขา มีวิวสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปเช็คอิน โดยเฉพาะในช่วงซัมเมอร์แบบนี้ อากาศปลอดโปร่ง ท้องฟ้าสดใส ถ่ายรูปได้สวยมากเลย

และ ภูมิภาคคิวชู ก็ยังมีร้านเด็ด เมนูอาหารท้องถิ่นที่หลากหลายให้ได้ลองชิม รวมถึงย่านแหล่งช้อปปิ้งให้ได้ช้อปกันอย่างจุใจ ครบทุกรสชาติของการท่องเที่ยวกันเลยทีเดียว!

แพลนเที่ยว (5 วัน) “ฟุกุโอกะและภูมิภาคคิวชู” เมืองน่ารัก เที่ยวง่าย ไปได้หลายเมือง เดินทางสะดวก ซัมเมอร์นี้มีแต่ฟิน!

DAY 0 : Bangkok – Fukuoka

DAY 1 : Kushida Shrine, Yanagibashi Rengo Market, Kawabata Shopping Arcade

DAY 2 : Nokonoshima Island, Momochihama Beach, Canal City Hakata, Yatai Food Stalls

DAY 3 : Kumamoto Castle, Sakura no Baba Josaien

DAY 4 : Kusasenrigahama, Kurokawa Onsen

DAY 5 : Fukuoka – Bangkok

*แนะนำการเดินทางในเมืองฟุกุโอกะด้วยรถไฟใต้ดิน(1 Day Pass) และ JR NORTHERN KYUSHU AREA PASS พาสสำหรับเดินทางในภูมิภาคคิวชูตอนเหนือ

สำหรับทริปนี้ เราเดินทางด้วย สายการบินไทยแอร์เอเชีย เส้นทางบินตรงจาก กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่ ฟุกุโอกะ เมืองที่เปรียบเสมือนเป็นประตูสู่ “ภูมิภาคคิวชู” เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย และบินตรงเวลา เวลาบินดี ราคาสุดคุ้ม โดยใช้เวลาในการเดินทางเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น

เริ่มต้นการเดินทางที่สนามบินดอนเมือง เรามาทำการเช็คอิน ตรวจเอกสารและโหลดสัมภาระให้เรียบร้อย โดยมีพนักงานคอยให้บริการและอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี

เมื่อได้เวลาออกเดินทาง บนเครื่องก็จะมีพนักงานต้อนรับมาคอยให้บริการ โดยจะมีบริการจำหน่ายอาหารหลากหลายเมนู อย่างเช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือบิน Kuai Tiew Ruea (Chicken Boat Noodles), ข้าวหน้าปลาซาบะย่างซีอิ๊ว (Grilled Mackerel With Japanese Sauce and Rice) เป็นต้น รวมถึงมีบริการเมนูเครื่องดื่มมากมาย ให้เลือกได้ตามความต้องการอีกด้วย แนะนำในช่วงซัมเมอร์แบบนี้ก็ต้อง เมนู “น้ำลำไยแท้” และ “อเมริกาโน่น้ำลำไย” สามารถสั่งมาลองชิมกันได้นะ

ตารางบิน กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – ฟุกุโอกะ

DMK – FUK : FD 236 : 23.55 – 07.05

FUK – DMK : FD 237 : 08.15 – 11.40

จองได้ที่ : เว็บไซต์ https://www.airasia.com และแอปพลิเคชัน AirAsia MOVE

เที่ยว “ฟุกุโอกะและภูมิภาคคิวชู” ในช่วงซัมเมอร์แบบนี้ วางแผนเที่ยวง่าย คนไม่เยอะ ราคาถูก เดินทางสะดวกเที่ยวได้สบายๆ ใครสนใจก็เตรียมจองตั๋วไปเที่ยวกันได้เลย!

FUKUOKA

การเดินทาง ในเมือง “ฟุกุโอกะ” เราเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน(Subway) เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย และราคาประหยัด ยิ่งเดินทางหลายเที่ยว ก็ซื้อตั๋วแบบ 1 Day ได้ ในราคา 640 เยน สุดคุ้มเลย สามารถใช้ขึ้นรถไฟใต้ดินได้อย่างไม่อั้น โดยซื้อได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติของสถานีรถไฟใต้ดินทุกสถานี

การเดินทางระหว่างเมือง “ฟุกุโอกะ” กับเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคคิวชู ใช้ JR NORTHERN KYUSHU AREA PASS พาสสำหรับเดินทางในภูมิภาคคิวชูตอนเหนือ สามารถนั่งรถไฟบริษัท JR และรถไฟชินคันเซ็น ในพื้นที่ที่กำหนดอย่างไม่จำกัด

เราเดินทางมาถึง “สนามบินฟุกุโอกะ” ในช่วงเช้า แล้วนั่งรถไฟใต้ดินเข้าเมือง จากนั้นก็พร้อมเที่ยวต่อได้เลย โดยแวะมาไหว้ “ศาลเจ้าคุชิดะ” ประเดิมเป็นสถานที่แรกของการมาเยือนภูมิภาคคิวชูในทริปนี้

“ศาลเจ้าคุชิดะ” (Kushida Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ เป็นศาลเจ้าที่มีการออกแบบที่สวยงามดูน่าเลื่อมใสในแบบของศาสนาชินโต โดยตลอดทั้งวันที่ศาลเจ้าแห่งนี้ จะมีผู้คนแวะเวียนเข้ามาไหว้ขอพร ให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว และให้ชีวิตประสบความสำเร็จ

สำหรับในช่วงฤดูร้อน เดือนกรกฎาคมของทุกปี ศาลเจ้าคุชิดะ ก็จะมีการจัดงานเทศกาลสำคัญประจำปีอย่าง “Hakata Gion Yamakasa Matsuri” อีกด้วย

การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Kushida Shrine Station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 150 เมตร

ข้อมูลเพิ่มเติม Kushida Shrine

● ที่อยู่ : 1-41 Kamikawabatamachi, Hakata Ward, Fukuoka, 812-0026 ญี่ปุ่น

● เวลาเปิด : 09.00 น. – 17.00 น.

● โทร : +81 92-291-2951

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/MPJfnkwbmPGoL3Ps7

อยากชิมอาหารทะเลของเมือง “ฟุกุโอกะ” เราแวะมาที่ตลาด Yanagibashi Rengo Market แหล่งรวมอาหารทะเลสดๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง คนที่ชอบทานอาหารทะเลต้องไม่พลาดมาที่นี่

“Yanagibashi Rengo Market” เป็นตลาดอาหารทะเลที่อยู่ในซอยเล็กๆ มีความยาวประมาณ 100 เมตร ภายในตลาดจะมีร้านอาหารทะเลให้เลือกซื้ออยู่หลายร้าน และบางร้านก็สามารถเข้าไปสั่งอาหารทะเลสดๆ นั่งทานได้อีกด้วย โดยเราได้ลองมาชิมที่ร้าน The Fish Mongers & Restaurant มีเมนูอาหารทะเลให้ลองชิมมากมาย สด และอร่อยมาก โดยมีเมนูที่น่าสนใจ เช่น

● Three Types Don = 7,700 เยน

● Tuna Don = 1,300 เยน

● หอยนางรม = 1,200 เยน/ตัว

การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Watanabe-Dori Station เดินประมาณ 300 เมตร

ข้อมูลเพิ่มเติม Yanagibashi Rengo Market

● ที่อยู่ : 1 Chome-6-1 Haruyoshi, Chuo Ward, Fukuoka, 810-0003 ญี่ปุ่น

● เวลาเปิด : 09.00 น. – 17.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)

● โทร : +81 92-761-5717

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/vsnaA9g2XfYXzb657

Kawabata Shopping Arcade ย่านช้อปปิ้งในเมืองฟุกุโอกะ แหล่งรวมร้านค้าและร้านอาหารมากมาย มาที่นี่ได้ทั้งชิมของอร่อยและได้ช้อปปิ้ง โดยภายในจะเป็นทางเดิน ความยาว 400 เมตร ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่ทั้งสองฝั่ง และมีหลังคาที่สามารถกันแดดกันฝนได้ แม้ในวันที่สภาพอากาศไม่อำนวย ก็ยังสามารถเข้ามาช้อปปิ้งที่นี่ได้

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/BuywHaTzV5YhzpUZ6

นอกจากบรรดาร้านค้าต่างๆ แล้ว ในย่านช้อปปิ้ง Kawabata Shopping Arcade ก็มีร้านอาหารมากมาย และร้าน Isomaru Suisan ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่เราได้มาใช้บริการในครั้งนี้

Isomaru Suisan เป็นร้านเมนูอาหารทะเล ที่มีอยู่หลายสาขาในประเทศญี่ปุ่น มีเมนูอาหารที่หลากหลาย สามารถสั่งอาหารผ่านหน้าจอได้ ซึ่งจะมีภาพเมนูอาหารและราคา ให้เลือกสั่งได้ตามความต้องการ

การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Nakasukawabata Station

ข้อมูลเพิ่มเติม Isomaru Suisan Nakasukawabata Branch

● ที่อยู่ : ญี่ปุ่น 〒812-0026 Fukuoka, Hakata Ward, Kamikawabatamachi, 11−277 Ginzaya Building 1F

● เวลาเปิด : 11.00 น. – 23.00 น.

● โทร : +81 92-292-0588

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/HRmACre5PzycLLSc6

เข้าสู่เช้าอันแสนสดใส เราเลือกที่จะออกไปเที่ยวทะเล ซึ่งเข้ากับบรรยากาศซัมเมอร์แบบนี้เป็นอย่างมาก และเมือง “ฟุกุโอกะ” ก็เป็นเมืองที่ติดกับทะเล เดินทางไม่นานก็ได้ฟีลบรรยากาศทะเลแล้ว โดยเราจะนั่งเรือข้ามไปเที่ยวที่เกาะ Nokonoshima กัน

“Nokonoshima” เป็นเกาะแห่งหนึ่งที่อยู่ใน จังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งเกาะแห่งนี้จะขึ้นชื่อเรื่องดอกไม้ที่มีให้ชมแตกต่างกันไปในแต่ฤดูกาล มีดอกไม้หมุนเวียนให้ชมตลอดทั้งปี ที่นี่จึงเป็นเหมือนแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของผู้คนในเมืองฟุกุโอกะ ที่จะออกมาปิกนิกพร้อมชมวิวบรรยากาศของสวนดอกไม้กัน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวฟุกุโอกะ แล้วอยากได้สถานที่ถ่ายรูปสวยๆ ก็ต้องมาที่เกาะแห่งนี้

ในช่วงซัมเมอร์แบบนี้ ที่ Nokonoshima Island Park ก็มีสวนดอกไม้ให้ชม อย่างเช่น ดอกไฮเดรนเยีย, ดอกทานตะวัน, ดอกดาวเรือง เป็นต้น และนอกจากนี้ ในฤดูกาลอื่น ก็สามารถมาเที่ยวชมดอกไม้ชนิดอื่นๆ ตามฤดูกาลได้ ชมสวนดอกไม้ได้ตลอดทั้งปี

อย่างเช่น ดอกบ๊วย (ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ถึง ต้นเดือนมีนาคม), ดอกซากุระ และ ดอกนาโนะฮานะ (สิ้นเดือนมีนาคม ถึง ต้นเดือนเมษายน), ดอกไฮเดรนเยีย (เดือนมิถุนายน), ดอกทานตะวัน (ปลายเดือนกรกฏาคม ถึง ปลายเดือนสิงหาคม), ดอกคอสมอส (ต้นเดือน ถึง กลางเดือนตุลาคม), ดอกซัลเวีย (เดือนสิงหาคม ถึง ต้นเดือนธันวาคม) ฯลฯ

ค่าเข้าชม Nokonoshima Island Park : ผู้ใหญ่ 1,500 เยน / เด็ก 800 เยน

การเดินทาง จาก เมืองฟุกุโอกะไปเกาะ “Nokonoshima” เริ่มต้นที่สถานี JR Hakata Station จะเดินทางเป็น 3 ช่วง คือ

รถบัส : จาก ป้ายรถบัส Hakata Station – ป้ายโนโคโทเซ็นบะ สาย 301, 302 / หรือ จาก ป้ายหน้าสถานีรถไฟใต้ดิน Meinohama Sta. North Entrance สาย 98

เรือเฟอร์รี่ : จาก ท่าเรือเมโนฮามะ – ท่าเรือเกาะโนโคโนะชิมะ (230 เยน) ใช้เวลานั่งเรือข้ามเกาะ 10 นาที

รถบัส(บนเกาะ) : จาก ท่าเรือเกาะโนโคโนะชิมะ – สวนดอกไม้ไอส์แลนด์พาร์ค (260 เยน)

ข้อมูลเพิ่มเติม Nokonoshima Island Park

● ที่อยู่ : ญี่ปุ่น 〒819-0012 Fukuoka, Nishi Ward, Nokonoshima

● เวลาเปิด : วันจันทร์ – เสาร์ (09.00 น. – 17.30 น.) และ วันอาทิตย์, วันหยุดนักขัตฤกษ์ (09.00 น. – 18.30 น.)

● โทร : +81 92-881-2494

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/TMXDQkdK6hEYPMKf8

หลังจากเที่ยวเกาะ “Nokonoshima” มาตลอดทั้งวัน เมื่อนั่งเรือกลับเข้าสู่ฝั่งในช่วงเวลายามเย็น ก็ต้องแวะไปชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ “Momochihama Beach” เป็นชายหาดที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองฟุกุโอกะ

“Momochihama Beach” ชายหาดของเมืองฟุกุโอกะ สถานที่ที่ผู้คนมักใช้เวลาในช่วงเย็นแบบนี้ มาพักผ่อน เดินเล่น กินลม ชมวิวพระอาทิตย์ตก โดยบริเวณชายหาดก็จะมีร้านอาหารให้ซื้อขนม ของว่าง ซอฟท์ครีม หรือ เครื่องดื่มต่างๆ มากินดื่มพร้อมชมบรรยากาศได้

นอกจากนี้ บริเวณชายหาดนี้ก็มีจุดเช็คอินที่น่าสนใจ อย่างเช่น

Fukuoka Tower หอคอยสูงที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฟุกุโอกะ มีความสูง 234 เมตร ด้านบนหอคอยก็สามารถขึ้นไปชมวิวบรรยากาศมุมสูงเมืองฟุกุโอกะแบบ 360 องศา

Marizon แหล่งรวมร้านค้าริมชายหาด ที่เป็นเหมือนเกาะยื่นลงไปกลางทะเล ภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร และเป็นสถานที่ไว้สำหรับจัดงานแต่งงาน

กลับเข้าไปเที่ยวในเมืองฟุกุโอกะกันต่อที่ ศูนย์การค้าคาแนลซิตี้ (Canal City Hakata) อีกแหล่งช้อปปิ้งของเมืองฟุกุโอกะ

ศูนย์การค้าคาแนลซิตี้ (Canal City Hakata) เป็นศูนย์การค้าที่ออกแบบคล้ายกับคลองพาดผ่านตัวอาคาร มีการตกแต่งได้อย่างร่มรื่น มีลานน้ำพุที่มีการแสดงประกอบ แสง สี เสียง เป็นรอบๆ ในแต่ละวัน

ภายในจะมีร้านค้ามากมาย มีสินค้าให้เลือกช้อปหลากหลายประเภท มาที่เดียวมีให้ช้อปอย่างครบครัน

การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Kushida Shrine Station เดินต่อประมาณ 200 เมตร

ข้อมูลเพิ่มเติม Canal City Hakata

● ที่อยู่ : 1 Chome-2 Sumiyoshi, Hakata Ward, Fukuoka, 812-0018 ญี่ปุ่น

● เวลาเปิด : 10.00 น. – 21.00 น.

● โทร : +81 92-282-2525

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/6NjHhj6muCj388Bx5

จาก ศูนย์การค้าคาแนลซิตี้ (Canal City Hakata) เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ก็จะเป็นแหล่งกินดื่มยอดนิยมของเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งยามค่ำคืนแบบนี้จะมีร้านรถเข็นข้างทาง หรือ ที่เรียกว่า “Yatai” มาตั้งร้านขายเรียงติดๆ กัน

“Yatai Food Stalls” เป็นร้านอาหารรถเข็นริมทาง ที่สามารถพบเห็นได้ในเมืองฟุกุโอกะ โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำ Naka River (ใกล้กับ Canal City Hakata) โดยร้านอาหารจะตั้งร้านเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ มีให้เลือกนั่งหลายร้าน โดยจะเริ่มเปิดร้านกันตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงดึกดื่น

โดยจุดเด่นของ “Yatai Food Stalls” จะเป็นร้านเล็กๆ ที่มีที่นั่งล้อมวงเป็นตัว U ได้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง มีพื้นที่ตรงกลางไว้ประกอบอาหาร ซึ่งเราก็จะได้เห็นขั้นตอนการทำอาหารได้แบบเพลินๆ

Yatai Food Stalls จะมีบริการเมนูอาหาร ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูท้องถิ่นของฟุกุโอกะและภูมิภาคคิวชู ที่นักท่องเที่ยวนิยมสั่งก็อย่างเช่น “ฮากาตะราเมน” ราเมนซุปกระดูกหมู และ “เมนไทโกะ” ซึ่งเราชอบเมนไทโกะอยู่แล้วก็ต้องไม่พลาดสั่งเมนูนี้มาชิม เมนไทโกะ ย่างร้อนๆ หอมๆ อร่อยมากเลย

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZzBD2SwEkDfqwcZU8

แนะนำร้านอาหารในย่าน Nakasu แหล่งรวมร้านอาหารของเมืองฟุกุโอกะ(Fukuoka)

Hakata Motsunabeza Hanabi ร้านมตสึนาเบะ เมนูท้องถิ่นที่ต้องลองชิม หม้อไฟต้มเครื่องในวัว(หรือหมู) ซึ่งจะเป็นส่วนของไส้อ่อนต้มกับซุปมิโสะ โดยมีส่วนผสมของ เต้าหู้ ผัก และพริกแห้ง มีรสชาติที่เข้มข้น

● ที่อยู่ : ญี่ปุ่น 〒810-0801 Fukuoka, Hakata Ward, Nakasu, 5 Chome−4−23 TM-15 Building 2F

● เวลาเปิด :

Weekday 11.30 น. – 14.00 น. และ 18.00 น. – 03.00 น.

Friday, Saturday, holiday and the day before holiday 11.30 น. – 14.00 น. และ 18.00 น. – 05.00 น.

Holiday: Every Monday and Every 1st day of each month

●โทร : +81 92-402-2324

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/rR8SBLjyt1A7qvLcA

Yakiniku to Kasuudon Ryunosu Nakasukadomise ร้านปิ้งย่าง Yakiniku ที่มีเนื้อหลายชนิดให้ได้เลือกตามความต้องการ สามารถสั่งเป็นคอร์สที่มีราคาแตกต่างกันไปตามชนิดของเนื้อ

● ที่อยู่ : ญี่ปุ่น 〒810-0801 Fukuoka, Hakata Ward, Nakasu, 2 Chome−3−12 Hachiwa Building Nakasu 1F

● เวลาเปิด : 17.00 น. – 07.00 น.

● โทร : +81 92-282-8929

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/G4PEAG4CiUcPL3EX9

KUMAMOTO

จาก ฟุกุโอกะ เราเดินทางออกไปเที่ยว คุมาโมโตะ (Kumamoto) กันต่อ โดยใช้บริการรถไฟ Kyushu Shinkansen จากสถานี Hakata Station มาลงที่ Kumamoto Station ใช้เวลา 38 นาที (สามารถใช้ JR NORTHERN KYUSHU AREA PASS ขึ้นได้) เดินทางได้สะดวกรวดเร็ว จากนั้น ก็ต่อรถรางมาลงที่ สถานี Kumamoto Castle/City Hall Station เพื่อมาเที่ยวชม “ปราสาทคุมาโมโตะ” สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองนี้

ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) เป็นปราสาทที่ตั้งเด่นบนเนินเขาอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งการที่จะเข้าไปในบริเวณของพื้นที่ปราสาทได้นั้นต้องมีการซื้อบัตรเข้าชมตรงทางเข้าก่อน (ค่าเข้าชม 800 เยน)

เมื่อผ่านประตูทางเข้า จะมีทางเดินสำหรับเดินชมรอบบริเวณพื้นที่ของปราสาท ซึ่งสามารถมองเห็นส่วนต่างๆ ของพื้นที่รอบบริเวณปราสาท ทั้ง กำแพง คูน้ำ อาคารเก่าแก่ จนเข้าสู่ ภายในตัวปราสาทคุมาโมโตะ (ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงใหม่) ก็จะพบกับการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ความเป็นมา และรวบรวมของใช้โบราณไว้ให้ได้ชม

ข้อมูลเพิ่มเติม Kumamoto Castle

● ที่อยู่ : 1-1 Honmaru, Chuo Ward, Kumamoto, 860-0002 ญี่ปุ่น

● เวลาเปิด : 09.00 น. – 17.00 น. *final entry ภายใน 16.30 น.

● โทร : +81 96-352-5900

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/CoEUgsF6HigvRVtt8

ใกล้กันกับ ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) ก็ยังมี Sakura no Baba Josaien ย่านช้อปปิ้งที่ใครมาเที่ยวชมปราสาทแล้วก็ต้องแวะมาที่นี่กันต่อ

Sakura no Baba Josaien เป็นย่านช้อปปิ้งของเมืองคุมาโมโตะ เป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร ที่รวบรวมเมนูท้องถิ่นของภูมิภาคคิวชูมาไว้ในที่เดียว นักท่องเที่ยวสามารถมาลองชิมเมนูเด็ดต่างๆ ได้ และยังมีของฝาก ของที่ระลึกมากมายให้ได้ช้อปกัน

มาเที่ยวเมือง “คุมาโมโตะ” ก็จะได้เจอกับ คุมะมง (Kumamon) มาสคอตสุดน่ารักของเมืองนี้ ที่เราสามารถพบเจอในทุกๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็น ป้ายรถบัส, บนรถราง, หรือ ตามอาคารต่างๆ สินค้าที่เกี่ยวกับ “คุมะมง” ก็เลยเป็นของที่ระลึกที่น่าสนใจ ทั้งตุ๊กตา พวงกุญแจ มาส์กหน้า ช้อปกันได้เพลินๆ เลย

แนะนำ ร้านเด็ด เมนูท้องถิ่น ใน Sakura no Baba Josaien

Kumamon’s “Ningyoyaki” ร้านขนมหวานยอดนิยมใน Sakura no Baba Josaien เป็นขนมที่มีส่วนผสมของแป้งจากข้าวเมืองคุมาโมโตะ ไข่ นม ถั่วเหลือง และน้ำตาล มาหยอดลงในพิมพ์เป็นรูปหมีคุมะมง แล้วสอดไส้ต่างๆ เช่น ถั่วแดง, ช็อกโกแลต, ชีส, คัสตาร์ดครีม เป็นต้น แป้งเนื้อนุ่ม หอม รสชาติหวานอร่อย (330 เยน)

● ที่อยู่ :1-1-2 Ninomaru, Chuo Ward, Kumamoto, 860-0008 ญี่ปุ่น

● เวลาเปิด : 09.00 น. – 18.00 น.

● โทร : +81 96-288-5577

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/h9aZnGiwST2mUzU19

Suganoya ร้านรวมผลิตภัณฑ์จากเนื้อม้า อีกหนึ่งเมนูต้องลองชิมของภูมิภาคคิวชู มีวัตถุดิบเนื้อม้าในส่วนต่างๆ ไว้จำหน่าย รวมถึงมีเมนู “ซูชิเนื้อม้า” (500 เยน) สำหรับคนที่อยากลองชิมอีกด้วย ซึ่งเรามาเยือนถึงถิ่นทั้งที ก็ขอลองชิมสักหน่อยนะ

● ที่อยู่ : 1-1-2 Ninomaru, Chuo Ward, Kumamoto, 860-0008 ญี่ปุ่น

● เวลาเปิด : 09.00 น. – 18.00 น.

● โทร : +81 96-312-0377

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Kg38SD6DSgt9P4Mo8

Yamami Chaya ร้านเมนูข้าวหน้าเนื้อแดง (Kumamoto Red Beef Bowl) ซึ่งเมืองคุมาโมโตะ เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวัว เป็นเมนูเด็ดที่ต้องลอง เนื้อแดงสดๆ ที่สุกแค่ผิวนอกหั่นแล้วโปะมาบนข้าว ทำให้ได้รสชาติของเนื้อแบบเต็มๆ ใครสายเนื้อต้องไม่พลาดเลย

● ที่อยู่ : -1-2 Ninomaru, Chuo Ward, Kumamoto, 860-0008 ญี่ปุ่น

● เวลาเปิด : 11.00 น. – 18.00 น.

● โทร : +81 96-327-9293

● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/L2K2DYTvyHvkQpD58

หลังจากเที่ยวใน “เมืองคุมาโมโตะ” แล้ว เราก็ขอออกไปเที่ยวชมธรรมชาตินอกเมืองกันบ้าง โดยเดินทางไปที่เมือง อะโสะ (Aso) ที่ห่างจากตัวเมืองคุมาโมโตะด้วยรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมง

“ทุ่งหญ้าคุซะเซนริ” (Kusasenrigahama) เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่เราได้มาเช็คอินเป็นจุดแรกของการมาเที่ยวที่เมือง Aso ซึ่งที่นี่จะเป็นทุ่งหญ้าที่อยู่ใกล้กับ ภูเขาไฟอะโสะ (Mt.Aso) และ “ภูเขาไฟนาคาดาเคะ” (Mt.Nakadake) มีพื้นที่กว้างใหญ่บรรยากาศเขียวขจีในช่วงฤดูร้อนแบบนี้

ภายในบริเวณ “ทุ่งหญ้าคุซะเซนริ” จะเป็นแอ่งบึงน้ำ รายล้อมด้วยทิวเขา สามารถมองเห็นปากปล่องของภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก และถ้ามาถูกช่วงเวลา ก็อาจจะได้พบกับบรรดาฝูงวัว ฝูงม้า ที่ถูกปล่อยออกมาเล็มหญ้าในทุ่งหญ้าแห่งนี้อีกด้วย

เราชอบบรรยากาศที่นี่มาก เพราะแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่สภาพอากาศก็สบายๆ ในบางช่วงก็แอบมีเมฆหมอกพาดผ่านทิวเขาบ้าง ได้ฟีลสดชื่นดี

ในบริเวณใกล้กับทุ่งหญ้าก็จะมี จุดพักรถ (ใกล้กับป้ายรถบัส) ที่ภายในมีร้านอาหารให้บริการ เราเลยถือโอกาสทานอาหารมื้อเที่ยงกันที่นี่เลย ซึ่งก็มีเมนูอาหารท้องถิ่นของเมืองคุมาโมโตะ ให้เลือกหลายรายการ ที่น่าสนใจก็อย่าง คุมาโมโตะ ราเมน, ซาชิมิเนื้อม้า ฯลฯ ได้มาทานอาหารพร้อมชมวิวบรรยากาศทุ่งหญ้า ก็ฟินไม่น้อยเลยนะ

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Aso ขึ้นรถบัสที่ป้ายหน้าสถานี (สาย 8) มาลงที่ป้าย Kusasenri Aso Kazan Hakubutsukan Mae ใช้เวลาเดินทาง 26 นาที (ค่าโดยสาร 640 เยน)

หลังจาก ถ่ายรูปเล่นและชมวิวบรรยากาศ “ทุ่งหญ้าคุซะเซนริ” จนเต็มอิ่มแล้ว เราก็เดินทางย้อนกลับไปที่สถานี Aso และไปเที่ยวจุดหมายต่อไปที่หมู่บ้านออนเซ็นขึ้นชื่อของจังหวัดคุมาโมโตะ

Kurokawa Onsen หมู่บ้านออนเซ็นที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นแหล่งออนเซ็นที่ยังคงความดั้งเดิมแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ภายในมีที่พักเรียวกังอยู่หลายแห่งไว้บริการ พร้อมกับบ่อน้ำร้อนสำหรับแช่ออนเซ็นเพื่อความผ่อนคลาย

แม้จะไม่ได้เข้ามาพักที่นี่ ก็สามารถมาเดินเล่นชมบรรยากาศของหมู่บ้านแห่งนี้ได้ เป็นสถานที่ที่มีความร่มรื่น มีอาคารบ้านเรือนแบบโบราณ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและมีแม่น้ำไหลผ่าน เหมาะแก่การมาพักผ่อนชิลๆ

ถ้าใครอยากลงแช่ออนเซ็นก็มีให้บริการ (มีค่าใช้จ่าย) หรือถ้าอยากแค่แช่เฉพาะส่วนเท้าก็มีบ่อแช่เท้าที่เปิดบริการฟรีอีกด้วย

นอกจากนี้ ก็ยังมี คาเฟ่ ร้านขนม บรรยากาศดีๆ ให้ได้นั่งชิล จิบกาแฟพร้อมชมธรรมชาติ ซึ่งก็มีเมนูแนะนำอย่าง Custard Cream Buns กับ Aso Milk ที่ใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นของเมืองอะโสะ (Aso) นี้เอง เป็นของอร่อยที่ไม่ควรพลาดเลยนะ

การเดินทาง : จาก สถานีรถไฟ Aso ขึ้นรถบัสที่ป้ายหน้าสถานี (สาย Kumamoto – Airport Limousine Bus) มาลงที่ป้าย Kurokawa Onsen ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที (ค่าโดยสาร 1,300 เยน)

“ฟุกุโอกะและภูมิภาคคิวชู” ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย เป็นภูมิภาคที่มีครบทุกรสชาติ ทั้ง กิน เที่ยว ช้อป ซัมเมอร์นี้มีแต่ฟิน เตรียมจองตั๋วกันได้เลย!

#ไปฟุกุโอกะไปกับแอร์เอเชีย

#ThaiAirAsia #JNTOthailand