เดินไต่ Mt. Azuma แวะแช่ออนเซ็นที่ Takayu Onsen

หลังจากที่ผมได้เช็คเอาท์.. จาก Horieya Ryokan ในเมือง Iizaka Onsen แล้ว ผมก็รีบนั่งรถไฟย้อนกลับมาที่ สถานีรถไฟ Fukushima ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางในวันนี้.. ครับ

สำหรับการเดินทางในวันนี้ ผมวางแผนว่าจะไปเยือนสถานที่สำคัญ 2 สถานที่ ที่อยู่ในเส้นทางเดียวกัน นั่นก็คือ จะไปเดินชมวิวสวยๆ ที่ Mt. Azuma ko-fuji และ แวะแช่ออนเซ็นที่ Takayu Onsen โดยใช้วิธีการเดินทางด้วยรถบัสโดยสาร ที่มีให้บริการตรง จุดจอดรถบัส ของ สถานีรถไฟ Fukushima แห่งนี้ครับ

การเดินทางไป Mt. Azuma ko-fuji

การเดินทาง จาก Fukushima Station ไป Mt. Azuma ko-fuji จะมีรถบัสโดยสาร รับ-ส่ง บริการจาก สถานี Fukushima โดย ขาไป จะใช้เส้นทาง ผ่าน Tsuchiyu Onsen มุ่งหน้า Mt. Azuma ko-fuji โดยมีป้ายจุดจอดปลายทาง คือ Jododaira ที่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินขึ้นปากปล่อง ของ Mt. Azuma ko-fuji ส่วน ขากลับ จะใช้อีกเส้นทาง ซึ่งจะผ่าน Takayu Onsen ก่อนที่จะกลับไปยัง Fukushima Station ตามเดิม

ตารางเวลา และ ค่าโดยสาร

รถบัสโดยสาร ที่วิ่งให้บริการ ระหว่าง Fukushima Station กับ Mt. Azuma ko-fuji นั้น จะมีเพียง 2 เที่ยวต่อวันเท่านั้นครับ โดยสามารถขึ้นรถได้ทั้ง จุดจอดรถบัสทางออกทิศตะวันออก(East Exit) ป้ายที่ 11 หรือ จุดจอดทางทิศตะวันตก(West Exit) ป้ายที่ 3 ก็ได้ สามารถขึ้นได้ทั้ง 2 จุด เลยครับ เพราะ รถจะเริ่มออกจาก East Exit ก่อน แล้วจะวนไปรับที่ West Exit และขากลับก็เช่นกันครับ กลับมาส่งทั้ง 2 จุด เลือกขึ้น-ลง ได้ตามสะดวกเลย

ซึ่งระยะเวลาการเดินทาง จาก สถานี Fukushima ถึง Jododaira (Mt. Azuma ko-fuji) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที ราคา 1,080 เยน และ ขากลับ ไปยัง Fukushima ใช้เวลา 75 นาที ราคา 1,330 เยน

ทั้งนี้.. รถบัสโดยสาร จะเปิดให้บริการเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ และวันหยุดราชการ เฉพาะ เดือนพฤษภาคม – เดือนกันยายน เท่านั้น และ จะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ เดือนตุลาคม – เดือนพฤศจิกายน โดยจะปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาว..

ดังนั้น ตามแผนการเดินทางของผมในวันนี้ ก็คือ จะนั่งรถบัสจาก จุดจอดรถบัสทางออกทิศตะวันออก(East Exit) เที่ยวแรก เวลา 09.50 น. นั่งยาวๆ ไปถึง Jododaira (Mt. Azuma ko-fuji) เวลา 11.30 น. แล้วมีเวลาเดินเล่นที่ Mt. Azuma ko-fuji ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที และ จะกลับจาก Jododaira (Mt. Azuma ko-fuji) เที่ยวแรก เวลา 12.45 น. แวะลงป้าย Takayu Onsen ซึ่งจะถึงใน เวลา 13.17 น. มีเวลาแช่ออนเซ็นอยู่ที่นี่ ประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนจะมารอรถบัสขากลับเที่ยวสุดท้าย เวลา 16.12 น. ถึง Fukushima Station เวลา 16.50 น. หมดหนึ่งวันพอดีเลยครับ!

ไปเที่ยว Mt. Azuma ko-fuji กันเถอะ!

เพื่อความชัวร์.. ผมเดินทางมาถึง จุดจอดรถบัสทางออกทิศตะวันออก(East Exit) ป้ายที่ 11 ก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ซึ่งตอนนี้ไม่มีผู้โดยสารคนอื่นๆ มายืนรออยู่เลย และ ..ผมก็ไม่แน่ใจว่าวันนี้เขาจะเปิดให้วิ่งรถตามปกติอยู่หรือเปล่า? เพราะได้ข่าวมาว่าช่วงนี้.. มีปิดบ้างในบางวันเนื่องจากสภาพอากาศไม่ค่อยดีนัก

วันนี้.. อากาศค่อนข้างหนาว ยืนรอรถนี่หนาวจนสั่นเลย ระหว่างที่รอรถอยู่จึงคิดได้ว่า.. ควรแบ่งสัมภาระที่หนักๆ บางส่วนไปฝากไว้ในตู้ฝากสัมภาระแบบหยอดเหรียญ ในสถานี Fukushima ก่อนดีกว่า.. และจะได้ไปหาที่อุ่นๆ หลบลมหนาวด้วย ใกล้ถึงเวลารถจะออก ค่อยออกมารออีกที

อีกประมาณ 5 นาที จะได้เวลารถบัสออกตามเวลาในตาราง ผมเดินมาที่ป้ายอีกครั้ง ก็ยังไม่เห็นมีคนอื่นๆ มายืนรอรถเลย ตอนนี้เริ่มหวั่นใจแล้วว่า ..วันนี้เขาจะหยุดเดินรถหรือเปล่า? เพราะป้ายประกาศภาษาญี่ปุ่นที่แปะไว้ ตรงป้ายรถนั้นก็อ่านไม่ออก ผมก็เลยต้องเดินไปถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการเดินรถแถวนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้คำแนะนำดีมากครับ.. ได้คำตอบที่สบายใจ วันนี้มีรถให้บริการตามปกติ!

เจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปซื้อตั๋วตรงช่องขายตั๋วที่อยู่ใกล้ๆ กับ ป้ายรถบัสโดยสารก่อนก็ได้ หรือ จะไปจ่ายเป็นเงินสด บนรถก็ได้ครับ สำหรับค่าโดยสาร(ขาไป) 1,810 เยน

เมื่อใกล้เวลารถจะออก ก็เริ่มมีผู้โดยสารมารอที่ป้ายอีก 3-4 คน ครับ แล้วรถก็เข้ามาเทียบแบบตรงเวลาเป๊ะมาก.. ถึงว่า ทำไมคนอื่นมายืนรอกันช้าจัง เพราะเขาออกมาตรงเวลาเป๊ะๆ แบบนี้แหละครับ จะได้ไม่ต้องยืนรอหนาวนานๆ ซึ่งเมื่อขึ้นรถกันหมดแล้ว รถก็ออกโดยทันที โดยจะแวะไปจอดรับคนที่ จุดจอดทางทิศตะวันตก(West Exit) ก่อนจะมุ่งหน้าไปยัง ปลายทาง Jododaira (Mt. Azuma ko-fuji)

บรรยากาศบนรถ ผู้โดยสารค่อนข้างบางตามาก ทั้งคัน รวมผมแล้วก็ มีอยู่ประมาณ 4-5 คน เท่านั้นเอง

รถบัสค่อยๆ ไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ ลัดเลาะไปตามป่าเขา ที่ในช่วงนี้เป็นช่วงของใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้ได้ชมวิวสวยๆ ตลอดเส้นทาง

สำหรับผู้ที่ไม่ได้ซื้อตั๋วมา หรือ ขึ้นระหว่างทาง ก็สามารถจ่ายเป็นเงินสด หยอดเหรียญ ตามราคาที่แจ้งบนป้ายแสดงหน้ารถได้..

แล้วรถบัสก็มาจอด ที่จุดหมายปลายทาง ป้ายจุดพักรถ Jododaira หรือที่เรียกว่า Jododaira Rest House ตรงนี้จะเป็นเหมือนกับจุดพักรถ สำหรับคนที่เดินทางมาเที่ยวในบริเวณนี้ ซึ่งภายในจะมีร้านอาหาร ห้องน้ำ ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ สามารถมาพักทานอาหาร หรือ จิบเครื่องดื่ม หลบลมหนาวได้

บรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยทิวเขา จะพบเห็นกับกองหิมะเล็กๆ กระจายตามจุดต่างๆ บ่งบอกถึงสภาพอากาศในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเข้าขั้นหนาว(กว่าที่คิด)มาก ไม่ได้เตรียมตัวมารับกับสภาพหนาวขนาดนี้เลยจริงๆ ครับ..

จาก Jododaira Rest House มองไปจะเห็นทางเดินขึ้นปากปล่อง ของ Mt. Azuma ko-fuji ซึ่งกะจากสายตาแล้ว เป็นระยะทางเดินขึ้นที่ไม่ไกลมาก ใช้เวลาไม่นาน มีเวลาราวชั่วโมงกว่า ก็คงจะทันครับ..

ทางเดินขึ้นจะเป็นขั้นบันไดอย่างดีเลยครับ ค่อยๆ เดินขึ้นไปได้อย่างสบายๆ เห็นเขาว่ากันว่า.. เดินแค่ 10-15 นาที ก็ขึ้นไปถึงปากปล่องด้านบนแล้ว แต่ปัญหาสำคัญตอนนี้.. คือสภาพอากาศมากกว่าครับ เพราะว่ามันหนาวมากกกกก.. แถมมีลมแรงอีกต่างหาก พัดมาทีตัวแทบปลิว..55

ที่นี่.. ทุกคนสามารถมาเดินขึ้นได้นะครับ ผมเห็นคนหลายช่วงอายุมาเดินเที่ยวชมกัน ทั้ง คุณลุง คุณป้า ผู้สูงอายุ หรือ เด็กๆ ก็มากันเยอะเลย ค่อยๆ เดินขึ้นไปทีละนิดครับ ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวก็ถึง..

หันหลังย้อนกลับไปดูทาง Jododaira Rest House เป็นจุดพักรถที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาจริงๆ ด้านหน้าจะเห็นลานจอดรถขนาดใหญ่ด้วย ใครนำรถมาก็มาจอดไว้ที่นี่ได้.. และจะเห็นรถบัสที่จอดอยู่ด้านล่างฝั่งขวา นั่นก็คือ.. รถบัสคันที่ผมนั่งมานั่นเอง และในขากลับผมก็จะนั่งคันเดียวกันนี้กลับลงไปด้วยครับ

เดินขึ้นสูงมาหน่อย ก็เริ่มเห็นกองหิมะ ที่กระจายตัวเป็นหย่อมๆ แล้วครับ ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาวจริงๆ แถมลมแรงอีกต่างหาก เป็นลมหนาวด้วย หน้าชาแบบสุดๆ เลยครับ ตอนนี้..

และแล้ว.. ก็เดินทางมาถึงปากปล่อง ของ Mt. Azuma ko-fuji แล้วครับ ซึ่ง Mt. Azuma ko-fuji นั้น มีความสูง 1,707 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถ้ามองจากไกลๆ จะดูคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ จึงได้ชื่อว่าเป็น ลิตเติ้ลฟูจิ หรือ ฟูจิน้อย (ko-fuji) ตามชื่อเลยครับ ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ในแต่ละวันจึงมีนักท่องเที่ยวมาชมความงามของสถานที่แห่งนี้กันเยอะมากๆ

ปากปล่องด้านบนนี้ สามารถเดินจนครบรอบได้นะครับ จะใช้เวลาเดินครบรอบนึง ก็ไม่น่าจะเกินหนึ่งชั่วโมง เดินเร็วหน่อย 45 นาที ก็พอได้อยู่ แต่..ถ้าเดินไปถ่ายรูปไปก็อาจจะนานกว่านั้นนะ และ ผมก็ตั้งใจแล้วว่า.. จะเดินให้ครบรอบ เพราะไหนๆ ก็มาถึงที่แล้ว แต่.. พอได้มาเจอสภาพอากาศที่หนาวๆ ทั้งลมแรงๆ ข้างบนปากปล่องนี้ มันไม่ไหวจริงๆ ครับ ยอม.. 55+

ยืนชมธรรมชาติบนปากปล่องได้สักพัก ก็เริ่มมีหิมะโปรยปรายลงมาครับ พร้อมกระแสลมที่เริ่มแรงขึ้น มันก็รู้สึกหนาวเหมือนกันนะ แต่.. อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดี ที่ได้มีโอกาสมาเจอกับหิมะ ในช่วงเวลาที่ไม่คิดว่าจะมี..

เมื่อสภาพอากาศเริ่มจะเปลี่ยนแปลง ลมเริ่มพัดแรง หิมะโปรยปรายเยอะขึ้น คนก็เริ่มเดินลง เพื่อเข้าไปหลบอยู่ใน Jododaira Rest House กันครับ

ตอนนี้.. สภาพอากาศในพื้นที่นี้ มีหิมะตกโปรยปรายลงมาเรื่อยๆ อากาศหนาวมากๆ ครับ ลมก็แรง และดูเหมือนว่าจะปิดไม่ให้ขึ้นไปบนปากปล่องแล้ว คือ ยังคิดอยู่เลยว่า.. ถ้ามาช้ากว่านี้นิดเดียวคงอดเดินขึ้นแน่ๆ เลย..

บรรยากาศรอบ Jododaira Rest House

อยู่ข้างนอกมันหนาวครับ ก็เลยเข้ามาหลบอยู่ใน Jododaira Rest House เพื่อรอเวลารถบัสขากลับ เที่ยว 12.45 น. ซึ่งก็ยังพอมีเวลา ที่จะได้หาอะไรกินรองท้อง หรือ เดินดูอะไรเล่นๆ ในนี้สักหน่อย ร้านส่วนใหญ่ในนี้ก็จะขายอาหาร เครื่องดื่ม ของที่ระลึก สามารถเลือกซื้อได้ตามต้องการ..

สำหรับราคาอาหารก็ค่อนข้างแพงเหมือนกัน โดนกาแฟร้อนเข้าไป แก้วละ 200 เยน(ประมาณ 60 บาท) แต่.. ณ จุดนี้ ยอมครับ กาแฟร้อน ช่วยได้เยอะ กับสภาพอากาศแบบนี้.. 55+

เวลา 12.45 น. กลับมาขึ้นรถบัสคันเดิม เพื่อออกจากที่นี่ครับ ซึ่งในขากลับนี้ รถบัสจะวิ่งไปอีกทาง ผ่าน Takayu Onsen โดยผมจะขอแวะลงที่นั่นก่อนครับ แต่..ก็กลัวลงไม่ถูก ก็เลยแจ้งกับพนักงานขับรถเอาไว้ครับ ว่าถ้าถึง Takayu Onsen แล้วให้ช่วยบอกผมหน่อยนะ..

ดูข้างนอกรถสิครับ บรรยากาศหนาวแบบนี้ มันน่าแช่น้ำร้อนสักขนาดไหน..?

แวะแช่ออนเซ็นฟินๆ ที่ Takayu Onsen

นั่งรถชมวิวเพลินๆ อยู่สักพักก็เดินทางมาถึง Takayu Onsen (ค่าโดยสาร 790 เยน) รถจะมาจอดแวะส่งผมที่ป้ายนี้ ซึ่งผมมีเวลาอยู่ที่นี่ราว 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะมารอขึ้นรถตรงป้ายนี้อีกครั้ง เพื่อกลับไปยัง Fukushima Station ครับ

ตรงข้ามจากจุดจอดรถ จะเป็น ห้องอาบน้ำสาธารณะ (Attaka no Yu Public Bath) ครับ ผมจะมาแวะแช่ออนเซ็นที่นี่ เท่าที่สังเกตุก็มีคนแวะเวียนมาใช้บริการเยอะเหมือนกันนะ แม้จะอยู่กลางป่าเขาแบบนี้..

เข้ามาข้างในก็รู้สึกอบอุ่น ขึ้นมาทันทีเลยครับ.. บรรยากาศภายในมีที่สำหรับนั่งเล่น มีบริการเครื่องดื่ม และ ห้องน้ำ

Takayu Onsen เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากครับ เป็นน้ำพุร้อนที่มีคุณภาพ มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งมีโอกาสได้มาเยือนทั้งที ก็ต้องลอง.. เนอะ!

ก่อนเข้ามาด้านในก็ต้อง ถอดรองเท้า เสียก่อน และ ต้องเก็บให้เรียบร้อย

จากนั้น ก็ไปกดซื้อตั๋ว สำหรับเข้าไปแช่ออนเซ็น ครับ ขั้นตอนนี้ก็รู้สึกงงๆ หน่อย แต่ดีที่มีพนักงานคอยเดินตามมาให้ความช่วยเหลือ ตั้งแต่ฝากกระเป๋า(ฟรี) จนเดินไปส่งถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยทีเดียว (ถ้าจะไปส่งไกลกว่านั้น ก็คงเขินแย่ ละครับ.. 55)

ของทุกอย่างต้องไม่นำเข้าไปในพื้นที่บ่อน้ำร้อนครับ ต้องฝากไว้ข้างนอกทุกอย่าง และ สำหรับของมีค่า กระเป๋าตังค์ มือถือ Passport ฯลฯ ก็จะมีตู้ฝากช่องเล็กๆ โดยเฉพาะครับ

หลังจากจุดนี้เข้าไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรติดตัวแล้วครับ นอกจากผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กๆ แค่ผืนเดียว และ เนื่องจากไม่สามารถถ่ายรูปข้างในมาได้ ก็.. ขอบรรยายบรรยากาศคร่าวๆ พอให้เห็นภาพนะครับ

• ก่อนถึง บ่อน้ำร้อน จะมีห้องเล็กๆ แยก ชาย-หญิง สำหรับถอดเสื้อผ้าใส่ตะกร้า
• ยืนทำใจอยู่สักพัก เพราะเป็นครั้งแรก ก่อนจะตัดสินใจ ให้เหลือเพียง ชุดวันเกิด
• บ่อน้ำร้อน(ฝั่งชาย) สวยมาก หลังคาบางส่วนเปิดโล่ง และผนังต่ำ มองเห็นภูเขาและท้องฟ้า
• ใน บ่อน้ำร้อน มีคนแช่อยู่ประมาณ 10 กว่าคน ส่วนใหญ่จะเป็นชาวญี่ปุ่นวัยกลางคนขึ้นไป
• ผมพยายามเนียนเป็นคนญี่ปุ่น ด้วยการไม่แสดงอาการตื่นเต้น ราวกับว่ามาแช่แบบนี้เป็นประจำ 55
• ก่อนลงบ่อ ก็ต้องอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดเสียก่อน
• บ่อน้ำร้อน น้ำร้อนมาก ต้องค่อยๆ หย่อนตัวลงไป กว่าจะลงไปนั่งก้นติดพื้นได้ก็นานอยู่
• ระหว่างแช่น้ำร้อน ก็ลงแช่บ้าง ลุกขึ้นมาพักข้างบนบ้าง สลับกันไป
• แช่น้ำร้อนไป มองท้องฟ้าไป ..มันรู้สึกสบายๆ ผ่อนคลายมากเลย
• เอาจริงๆ แรกๆ ก็..รู้สึกเขินเหมือนกัน
• แต่.. พอนานๆ ไปก็เริ่มชิน และ ฟินไปกับการแช่ออนเซ็นแบบนี้ซะแล้ว!

ใช้เวลาอยู่ในบริเวณบ่อน้ำร้อนราวครึ่งชั่วโมง ก็ออกมาใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย พร้อมกดเครื่องดื่ม มาแก้กระหายสักหน่อย ช่วงนี้.. มีเวลาเหลืออยู่พอสมควร ก็นั่งเล่น ดื่มเครื่องดื่มไปครับ

เมื่อใกล้เวลาที่รถบัสจะมาถึง ใน เวลา 16.12 น. ก็ข้ามถนนมายืนรอที่ป้ายครับ ซึ่งรถบัสโดยสารก็มาตรงเวลาเช่นเคย..

จาก Takayu Onsen กลับมายัง Fukushima Station ก็ไม่ไกลแล้วครับ ใช้เวลาเพียง 40 นาที เท่านั้นเอง (ค่าโดยสาร 860 เยน)

และ รถบัสโดยสารก็เดินทางกลับมาถึง Fukushima Station ใน เวลา 16.50 น. โดยจะแวะส่งผู้โดยสารที่ จุดจอดทางทิศตะวันตก(West Exit) ก่อน แล้วจึงวนรถไปส่งที่ จุดจอดรถบัสทางออกทิศตะวันออก(East Exit) ตามเดิม ซึ่งผมก็ขอลงตรง จุดจอดทางทิศตะวันตก(West Exit) นี้ เพราะว่า.. จะไปเช็คอินเข้าพักที่ APA Hotel สำหรับคืนนี้ครับ โรงแรมนี้อยู่ติดกับสถานีรถไฟ ไม่ไกลจากจุดที่จอดรถเลย..

วันนี้.. จึงเป็นอีกวัน ที่รู้สึกว่า.. สนุกกับการเดินทาง มากๆ ได้เจออากาศหนาว ได้เจอหิมะ ได้แช่ออนเซ็น เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลยครับ และ ในคืนนี้.. ผมจะเข้าพักที่ APA Hotel และ จะรีบตื่นเช้าเพื่อไปตามหาความเหลือง ของใบแปะก๊วย ที่ Azuma Sport Park ซึ่งจะมาเล่าให้ฟังต่อในตอนหน้านะ.. รอติดตามครับ!

7 Days in Fukushima! | บันทึกการเดินทางเที่ยวฟุคุชิมะ 7 วัน

• 1/11 : Say Hi! Fukushima การเดินทางไปด้วย Shinkansen
• 2/11 : Iizaka Onsen นอนเรียวกัง แช่ออนเซ็น กินผลไม้สดๆ จากสวน!
• 3/11 : เดินไต่ Mt. Azuma แวะแช่ออนเซ็นที่ Takayu Onsen
• 4/11 : ตามหาความเหลืองที่ Azuma Sport Park พัก APA Hotel
• 5/11 : Goshikinuma Ponds ในวันที่ใบไม้เปลี่ยนสี!
• 6/11 : Tagoto Ryokan เรียวกังนอนสบายใน Aizu Wakamatsu
• 7/11 : เที่ยวตามเส้นทาง Tono Hetsuri – Ouchi Juku นอน Niko Ryokan
• 8/11 : เที่ยววนไปใน.. Aizu Wakamatsu ด้วย Loop Bus 1 วัน
• 9/11 : Mishima Town เมืองเล็กน่ารัก และ รถไฟสายโรแมนติก!
• 10/11 : ปั่นจักรยานเที่ยวในเมือง Tadami แวะส่งท้ายทริปที่วัด Enzo-ji
• 11/11 : วิธีการนั่ง Night Bus จาก Fukushima กลับ Tokyo
• Ryokan : 5 เรียวกังน่าพัก ใน.. FUKUSHIMA, JAPAN

การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER

Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
E-mail : chailaibackpacker@gmail.com
Website : www.chailaibackpacker.com