EP8/11 : เที่ยววนไปใน.. Aizu Wakamatsu ด้วย Loop Bus 1 วัน
วันนี้.. ผมขอใช้เวลาทั้งวันในการนั่ง รถบัส(Loop Bus) วนเที่ยวในเมือง Aizu Wakamatsu
ผมเช็คเอาท์ออกจาก Niko Ryokan ที่พักที่อยู่ในย่าน Higashiyama Onsen ตั้งแต่เช้า เพื่อที่จะมีเวลาในการเที่ยวเพิ่มมากขึ้น บรรยากาศหน้าที่พัก ที่เมื่อคืนผมเดินทางมาถึงซะดึกจนมองแทบไม่เห็นอะไรเลย ตอนนี้ สามารถมองเห็นบรรยากาศรอบด้านได้สบายแล้ว อากาศยามเช้าของที่นี่มันดีจริงๆ เลยนะ
ย่าน Higashiyama Onsen ที่ผมอยู่ ณ ตอนนี้ถือว่าเป็นแหล่งออนเซ็นขึ้นชื่อของเมือง Aizu Wakamatsu แห่งนี้เลยครับ มีที่พักที่ให้บริการแช่ออนเซ็นอยู่มากมาย และในหลายระดับราคา ถ้าใครชอบแช่ออนเซ็นไม่ควรพลาดมาที่นี่ครับ ซึ่งที่ตั้งของ Higashiyama Onsen จะอยู่ไกลออกมาจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ออกมาหน่อย จากแผนที่ จะอยู่มุมขวาล่าง แต่ก็มี รถบัส(Loop Bus) ให้บริการไปถึงนะครับ
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมือง Aizu Wakamatsu สามารถนั่งรถ Loop Bus วนเที่ยวได้สบายๆ ครับ โดยมีจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle), บ้านซามูไร (Samurai Residence), สุสาน 19 ซามูไรเสือขาว (Byakkotai) บนยอดเขา Iimoriyama, เจดีย์โบราณ (Sazaedo) เป็นต้น
ก่อนอื่น ผมก็ขอเดินเล่นในย่าน Higashiyama Onsen ใกล้ๆ ที่พักที่เพิ่งเช็คเอาท์ออกมาเสียก่อน ที่นี่บรรยากาศดีมากๆ เลยนะครับ ต้นไม้ร่มรื่น อากาศสดชื่นดี
Higashiyama Onsen เป็นแหล่งออนเซ็นธรรมชาติที่ขึ้นชื่อมากๆ บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยบรรดาที่พักต่างๆ ที่ถูกรายล้อมด้วยภูเขารอบด้าน
สิ่งที่สร้างบรรยากาศให้ความรู้สึกว่าได้มาพักผ่อนอย่างหนึ่ง ก็คือ มีสายน้ำขนาดเล็กที่ไหลผ่านในย่านที่พัก
และ ก็ไหลไปเป็นน้ำตกขนาดเล็กๆ
บริเวณริมน้ำจะมีที่ แช่ออนเซ็นเท้าสาธารณะ ที่ให้บริการฟรีด้วยนะครับ แวะมาแช่เท้าฟินๆ นั่งชมวิวกันได้
จากนั้น ผมก็เดินมายังจุดรอรถบัส ซึ่งก็เป็นจุดเดียวกันที่ผมลงรถมาตั้งแต่เมื่อคืน โดยจุดที่มารอรถบัสนี้ จะมี ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว ด้วย สามารถแวะเข้ามาหาข้อมูลท่องเที่ยว และนั่งรอรถข้างในก็ได้ครับ
จะมีจุดจำหน่ายตั๋ว รถบัส(Loop Bus) สำหรับคนที่ต้องการซื้อ ตั๋วแบบ 1 Day Pass ด้วยครับ
สำหรับราคาค่าโดยสาร รายเที่ยว จะอยู่ที่ 210 เยน/คน/เที่ยว (ผู้ใหญ่) และ 110 เยน/คน/เที่ยว (เด็ก) ถ้าคิดว่าต้องนั่งหลายเที่ยวซื้อแบบ 1 Day Pass ก็คุ้มดีครับ ราคา 500 เยน(ผู้ใหญ่) และ 250 เยน(เด็ก) นั่งวนเที่ยวได้ทั้งวัน
รถบัส(Loop Bus) ที่ให้บริการ จะเป็นรถบัสแนว Retro แบ่งออกเป็น 2 สาย คือ สายสีเขียว (H = Haikara-san) และ สายสีแดง (A = Akabe) ซึ่งทั้ง 2 สาย จะวิ่งวนเป็นวงกลมในทิศทางที่สวนกัน โดยสายสีเขียวจะวิ่งวนทวนเข็มนาฬิกา ส่วนสายสีแดงวิ่งตามเข็มนาฬิกา จะมีระยะห่างแต่ละเที่ยว 30 นาที
ผมรออยู่ที่ป้าย Higashiyama Onsen (H27, A14) อยู่ไม่นาน รถบัสก็เข้ามาจอดรับผู้โดยสาร ผมตั้งใจจะนั่งรถไปลงที่สถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu ก่อน เพื่อไปหาที่ฝากกระเป๋า ก็เลยนั่งยาวๆ ชมบรรยากาศของเมืองนี้ในช่วงเวลาของใบไม้เปลี่ยนสีไปครับ
แล้วก็มาถึง สถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu วันนี้อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใสมาก
วัว Akabe ตัวสีแดง ที่อยู่หน้าสถานี สัญลักษณ์ของเมือง Aizu Wakamatsu สามารถกดปุ่มเพื่อให้วัวขยับ และส่งเสียงต้อนรับได้ครับ
บริเวณก่อนเข้าไปในอาคารของสถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu จะมีที่ฝากสัมภาระแบบหยอดเหรียญอยู่ครับ มีหลายช่องมากๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะเต็ม ฝากกระเป๋าไว้ ก็เดินตัวปลิว ออกไปเที่ยวต่อได้เลย
ถ้าใครเดินทางมาจากเมืองอื่น แล้วมาลงที่ สถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu ก็สามารถเดินออกมาซื้อตั๋วแบบ 1 Day Pass ที่ จุดจำหน่ายตั๋วที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟได้นะครับ ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จำหน่ายด้วย(ถ้าจะเอาคุ้มก็มีขายเป็นแบบแพ็กเกจด้วยนะ ลองไปเลือกดูได้ตามต้องการครับ)
จุดขึ้นรถบัส หน้าสถานีรถไฟ รถจะออกทุก 30 นาที ได้เวลาวนเที่ยวในเมืองนี้ กันแล้ว..
ข้าวหมูทอดทงคัตสึ ในตำนาน!
ได้มาเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งนี้.. ผมตั้งใจว่าจะกินอาหารญี่ปุ่นให้หลากหลาย และ ในเมืองนี้นอกจากราเมงจะขึ้นชื่อแล้ว ก็มี ข้าวหมูทอดทงคัตสึ ที่ต้องลองเหมือนกัน พอดีผมได้เห็นร้านแนะนำในใบปลิวที่วางไว้แจกที่สถานีรถไฟ ก็เลยลองเปิดกูเกิ้ลแมพ ตามหาร้านไปเรื่อยๆ พอรถบัสวนไปใกล้ร้านที่สุด ก็ลงตรงป้ายนั้น และ เดินต่ออีกหน่อย จนมาเจอร้านนี้ครับ ซึ่งร้านนี้จะเปิดตอน 11.00 น. ตอนนี้ก็เลยเวลามานิดๆ แล้ว แต่ทำไมหน้าร้านดูเงียบจัง 55+ (ข้อมูลร้านเพิ่มเติมครับ – https://ameblo.jp/nobu-don/ )
ผมยืนอยู่หน้าร้านอยู่พักนึง เพราะเข้าใจว่าร้านยังไม่เปิด อาจจะต้องรอให้เขาเปิดก่อน ไหนๆ มาถึงร้านแล้ว รอสักนิดก็คงไม่เป็นไร จนมี คู่รักคนญี่ปุ่นคู่หนึ่งเปิดประตูเข้าไปเท่านั้นแหละ ถึงรู้ว่าเขาเปิดแล้ว เห็นสภาพข้างนอกเงียบๆ ก็เลยไม่กล้าเปิด แต่ที่จริงข้างในนี่คนเพียบเลยครับ
ร้านนี้ เป็นร้านที่มีขนาดเล็กมากๆ มีโต๊ะนั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะเอง ได้ข่าวว่า.. บางช่วงเวลาต้องต่อคิวยาวเพื่อเข้ามานั่งกินกันเลย ก็ถือว่าวันนี้ผมโชคดี มาตอนร้านเพิ่งเปิด พอมีโต๊ะให้นั่ง โดยไม่ต้องยืนรอ ซึ่งเมื่อเข้ามาภายในร้าน พนักงานที่นี่ต้อนรับ และ บริการดีมากๆ
ในร้านเต็มไปด้วยลายเซ็น(น่าจะเป็นลายเซ็นของคนดังต่างๆ อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ) ที่ช่วยการันตีว่า ร้านนี้ต้องอร่อยแน่ๆ
น้ำดื่มฟรี สามารถบริการตัวเองได้เลยครับ
ผมสั่ง ข้าวหน้าหมูทอดทงคัตสึ ไป ราคา 1,250 เยน หน้าตาก็จะประมาณนี้ครับ หมูทอดชิ้นขนาดใหญ่ 2 ชิ้น แบบล้นออกมานอกชาม เสิร์ฟพร้อมด้วยน้ำซุป และเครื่องเคียง
หมูทอดชิ้นใหญ่มากๆ ขนาดเท่ากับฝ่ามือได้เลยครับ ราดมาด้วยซอสแบบเข้มข้น อร่อยดีครับ
เนื่องจากหมูทอดมันชิ้นใหญ่ วิธีการกินจึงต้องแบ่งหมูทอดอีกชิ้นมาวางไว้บนฝาปิด แล้วค่อยๆ กินทีละชิ้น นี่ลองเทียบปริมาณเล่นๆ แล้ว ปริมาณของหมูทอด เยอะกว่าข้าวเสียด้วยซ้ำ 55+ โดยรวมแล้วคุ้มค่ามากครับ เป็น ข้าวหน้าหมูทอดทงคัตสึ ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาจริงๆ
ปราสาทซึรุกะ Tsuruga Castle (H15, A26)
อิ่มจากมื้อเที่ยง ผมก็นั่งรถบัสต่อมาอีกนิด เพื่อจะไปยัง ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle) นั่งมั่วๆ มาลงที่ป้ายหน้า Fukushima Prefectural Museum ที่อยู่ตรงข้ามกับทางเข้า ปราสาทซึรุกะ (ซึ่งเหมือนว่าจะเป็นทางเข้าด้านข้างของปราสาทนะตรงนี้ 55)
ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle) ถ้านั่ง Loop Bus มา สามารถลงรถตรงทางเข้าหลักได้ที่ป้าย H15 หรือ A26 แล้วเดินเข้าไปอีกหน่อยครับ
ด้านหน้าจะเห็น จุดจำหน่ายตั๋ว สำหรับเข้าไปชมในตัวปราสาท ราคา 410 เยน
ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle) หรือ ปราสาทนกกระเรียน ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1384 มีการเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองอยู่หลายครั้ง และเมื่อถึงช่วงสงครามโบชินตัวปราสาทก็ถูกทำลาย จนได้รับการฟื้นฟูมาใหม่ในช่วงหลัง ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง ซึ่งด้านในตัว ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle) จะเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่เล่าประวัติความเป็นมาของเมืองนี้ อีกทั้งมีการรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในอดีตที่หาดูได้ยากให้ได้ศึกษากันอีกด้วย
นอกจาก.. จะได้ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมแล้ว ภายในบริเวณโดยรอบ ในช่วงเวลาของใบไม้เปลี่ยนสี มันก็ดูสวยงามดีครับ
มีทั้ง สีเหลือง และ สีแดง เดินชมได้อย่างเพลินๆ
ในบริเวณใกล้เคียงจะมี โรงน้ำชา Rinkaku Tea House ภายในมีสวนหย่อมเล็กๆ จัดสวนแบบญี่ปุ่นโบราณ ได้บรรยากาศย้อนยุคนิดๆ เหมาะจะมานั่งพักผ่อน จิบชา ชมบรรยากาศครับ ซึ่งที่นี่จะมีค่าเข้าด้วยนะ คนละ 200 เยน
สามารถสั่งชามาดื่มได้ โดยมี Set ชาเขียว และ ขนมไดฟุกุ ราคา 600 เยน
สุสาน 19 ซามูไร กลุ่มเสือขาว Byakkotai (H36, A5)
การเที่ยวในเมือง Aizu Wakamatsu เป็นอะไรที่ง่ายมากๆ มีแผนที่ และ ตั๋ว 1 Day Pass ก็นั่ง Loop Bus วนเที่ยวได้ไปรอบเมืองแล้วครับ สามารถบริหารเวลาในการเที่ยวจุดต่างๆ ได้ตามสถานการณ์เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะขึ้นรถผิด เพราะรถมันก็วนๆ อยู่ในบริเวณนั้นแหละครับ และถึงจะขึ้นผิดก็ไม่เสียดายตังค์ เพราะเป็นตั๋วแบบ 1 Day Pass อยู่แล้วครับ..
ในช่วงบ่ายๆ นี้ ผมนั่ง Loop Bus มาที่ป้าย Iimoriyama Shita (H36, A5) ซึ่งมีจุดท่องเที่ยวสำคัญ คือ สุสาน 19 ซามูไรกลุ่มเสือขาว (Byakkotai) และ เจดีย์โบราณ (Sazaedo)
การขึ้นไปบนยอดเขาด้านบน นั้นมี 2 ทางเลือก คือ เดินขึ้นบันได หรือ จะยืนไปสบายๆ บนทางเลื่อน ซึ่งอย่างหลังจะมีค่าใช้จ่าย 250 เยน รู้มั้ย.. ว่าผมเลือกขึ้นไปโดยวิธีไหน? แน่นอนครับ.. ผมเลือกยืนไปสบายๆ จ่าย 250 เยน 55+
ขึ้นมาถึงด้านบนแล้วก็ต้องเดินต่ออีกหน่อย ซึ่งบริเวณนี้ สามารถเดินชมเป็นวงกลมได้โดยรอบครับ
สถานที่แห่งนี้ จะเป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้า และ สุสานของ 19 ซามูไร กลุ่มเสือขาว ซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่ว่าในช่วงสงครามต่อต้านกองทัพของฝ่ายรัฐบาลที่ยกพลเข้ามาที่ปราสาทซึรุกะ มีเหล่านักรบซามูไรกลุ่มเสือขาวจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีอายุยังน้อยมาก รวมตัวกันสู้ในครั้งนั้น จนต้องล่าถอยหนีออกมาได้ 20 คน มายังบริเวณยอดเขา เเห่งนี้ แต่เมื่อได้ทั้งหมดได้มองไปยังตัวปราสาทก็พบว่า ถูกไฟไหม้ จึงเข้าใจว่า ถูกตีปราสาทจนแตกเสียแล้ว จึงตัดสินใจปลิดชีพตัวเองลง แต่มีหนึ่งในนั้นที่ทำไม่สำเร็จ และได้รับการช่วยเหลือ จนกลายเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวในเวลาต่อมา
สุสานของ 19 ซามูไร กลุ่มเสือขาว บรรยากาศโดยรอบดูสงบเงียบ
แวะสักการะศาลเจ้าที่อยู่บนยอดเขา
บริเวณใกล้ๆ จะมีอีกจุดท่องเที่ยวสำคัญ คือ เจดีย์ Sazaedo เป็นเจดีย์ที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง มีความสูง 16.5 เมตร อายุกว่า 200 ปี เป็นเจดีย์ที่มีความน่าทึ่งทางสถาปัตยกรรมอย่างยิ่งเลยครับ โดยภายในเจดีย์จะมีบันไดวน ที่สามารถเดินขึ้นไปถึงด้านบนสุดยอดเจดีย์ และ เดินลงมาด้านล่างโดยไม่ต้องย้อนกลับมาทางเดิม เป็นภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณ (เปิดทุกวัน – ค่าเข้าชม 400 เยน)
บรรยากาศโดยรอบเหลืองอร่ามไปด้วยใบของต้นแปะก๊วย
เดินอ้อมลงมาจาก เจดีย์ Sazaedo ก็จะมาเห็น จุดชมวิวเมือง Aizu Wakamatsu ครับ ผมก็เลยได้ถือโอกาสมานั่งพักเหนื่อย ซื้อเครื่องดื่มเย็นๆ มานั่งดื่มไป ชมวิวไปครับ บรรยากาศถือว่าดีเลยแหละ ถ้ามาช่วงเย็นๆ หน่อยก็สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกได้ด้วยนะครับ
เมื่อได้เวลาอันสมควร ผมก็เดินลงมากจากยอดเขา และ ข้ามถนนไปรอรถ Loop Bus เพื่อที่จะกลับไปยัง สถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu
อย่างที่เคยบอกไปครับว่า ในช่วงนี้.. ญี่ปุ่น มืดค่ำไวมาก แค่ 4-5 โมงเย็น นี่ก็เริ่มจะมืดแล้วครับ ผมรีบไปเอาสัมภาระคืนจากตู้ฝากสัมภาระหยอดเหรียญที่ได้ฝากเอาไว้ในตอนเช้า และ รีบเข้าไปรอรถไฟที่ชานชาลา ซึ่งจุดหมายต่อไปของผมก็ คือ Mishima Town เมืองเล็กๆ น่ารักอีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ออกไปไม่ไกล โดยเดินทางจาก สถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu ไปยัง สถานี Aizu Miyashita ใน Mishima Town ใช้เวลาในการนั่งรถไฟ 1 ชั่วโมง กับ 20 นาที นั่งไปชิลๆ สบายๆ ในยามเย็นแบบนี้
Mishima Town ที่ผมกำลังจะเดินทางไปนี้ ก็ถือว่าเป็นสถานที่ไฮไลท์สำคัญ สำหรับทริปเที่ยว จังหวัด Fukushima นี้ เหมือนกันนะครับ อย่างที่รู้จักกันดีก็ คือ จุดชมวิวสะพาน Daiichi Kyouryou ที่ได้มีโอกาสมาชมในช่วงของบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีพอดี ซึ่งจะสวยงามแค่ไหนก็ติดตามชมได้ในตอนต่อไปนะครับ..
แล้วไว้เจอกันที่.. Mishima Town!
7 Days in Fukushima! | บันทึกการเดินทางเที่ยวฟุคุชิมะ 7 วัน
- 1/11 : Say Hi! Fukushima การเดินทางไปด้วย Shinkansen
- 2/11 : Iizaka Onsen นอนเรียวกัง แช่ออนเซ็น กินผลไม้สดๆ จากสวน!
- 3/11 : เดินไต่ Mt. Azuma แวะแช่ออนเซ็นที่ Takayu Onsen
- 4/11 : ตามหาความเหลืองที่ Azuma Sport Park พัก APA Hotel
- 5/11 : Goshikinuma Ponds ในวันที่ใบไม้เปลี่ยนสี!
- 6/11 : Tagoto Ryokan เรียวกังนอนสบายใน Aizu Wakamatsu
- 7/11 : เที่ยวตามเส้นทาง Tono Hetsuri – Ouchi Juku นอน Niko Ryokan
- 8/11 : เที่ยววนไปใน.. Aizu Wakamatsu ด้วย Loop Bus 1 วัน
- 9/11 : Mishima Town เมืองเล็กน่ารัก และ รถไฟสายโรแมนติก!
- 10/11 : ปั่นจักรยานเที่ยวในเมือง Tadami แวะส่งท้ายทริปที่วัด Enzo-ji
- 11/11 : วิธีการนั่ง Night Bus จาก Fukushima กลับ Tokyo
- Ryokan : 5 เรียวกังน่าพัก ใน.. FUKUSHIMA, JAPAN
การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER
Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
E-mail : chailaibackpacker@gmail.com
Website : www.chailaibackpacker.com