ทริปนี้ เราได้กลับมาเยือน “ฮอกไกโด” อีกครั้ง ในบรรยากาศช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ออกเดินทางด้วยสายการบิน Thai Vietjet กับเส้นทางบิน จาก “กรุงเทพฯ” (BKK) สู่ “ฮอกไกโด” (CTS) ประเทศญี่ปุ่น (Via. Taipei) ทำการบินทุกวันอังคาร, พฤหัสบดี, และเสาร์ เดินทางได้สะดวกสบาย ราคาก็ประหยัด มีโปรโมชั่นดีๆ ออกมาเรื่อยๆ บินสะดวก ราคาประหยัดต้องไทยเวียตเจ็ทเลย!

จองได้ที่ https://th.vietjetair.com หรือ สามารถจองผ่าน App Thai Vietjet ได้เลย!

เริ่มต้น การเดินทาง จาก สุวรรณภูมิ(กรุงเทพฯ) ซึ่งเคาน์เตอร์เช็คอินของ สายการบินไทยเวียตเจ็ท จะเปิดก่อนเวลา 3 ชั่วโมง โดยจะมีพนักงานมาคอยดูแลให้คำแนะนำระหว่างทำการเช็คอิน มีผู้โดยสารทยอยเข้ามาเช็คอิน โหลดสัมภาระ และเนื่องจากเที่ยวบินของเราจะต้องแวะที่ ไทเป(Via. Taipei) พนักงานเคาน์เตอร์เช็คอินก็จะมีการติดสติ๊กเกอร์สำหรับผู้โดยสาร Transit ด้วย โดยใช้เวลาในการเช็คอินไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย

● BKK – TPE (VZ570) ช่วงแรกออกเดินทาง จาก สนามบินสุวรรณภูมิ(กรุงเทพฯ) สู่ สนามบินนานาชาติเถาหยวน(ไทเป) ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 15 นาที เมื่อเครื่องบินลงจอดก็จะมีเจ้าหน้าที่มาถือป้ายรอรับผู้โดยสาร Transit และพาเดินผ่านจุดสแกนตรวจ ก่อนไปส่งที่ Gate เพื่อไปขึ้นเครื่องลำเดิมอีกครั้ง
● TPE – CTS (VZ570) จากนั้น ก็เดินทางต่อ สู่ “ฮอกไกโด” โดยระหว่างการเดินทาง ก็จะมีพนักงานต้อนรับ มาคอยให้บริการ และมีบริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน(Sky Cafe’) ที่สามารถเลือกเมนูอาหารและเครื่องดื่มได้ตามความต้องการ
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงปลายทาง New Chitose Airport ตามกำหนด ซึ่งทริปนี้จะพาไปที่ไหนบ้าง ก็ตามมาเที่ยวกันได้เลย!

พิกัดเที่ยว “ฮอกไกโด” (Hokkaido)
“สวนโอโดริ” (Odori Park) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองซัปโปโร มีความยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร บรรยากาศร่มรื่น มีความสวยงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล เที่ยวได้ตลอดทั้งปี

“หอทีวีซัปโปโร” (Sapporo TV Tower) อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมือง ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของสวนโอโดริ ซึ่งเราสามารถขึ้นลิฟต์ไปยังจุดชมวิวด้านบนได้ด้วยนะ โดยจะมองเห็นวิวสวนที่ทอดยาวกลางเมือง และวิวภูเขารอบๆ ได้แบบ 360 องศา

“อาคารที่ว่าการจังหวัดฮอกไกโดเก่า” (Hokkaidō Prefectural Government Office) หรือที่เรียกกันว่า “ตึกอิฐแดง” อาคารประวัติศาสตร์อายุกว่าร้อยปี สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1888 รายล้อมด้วยต้นไม้ และสวนสวยๆ เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยว

สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวนอกตัวเมือง เนื่องจากมีเวลาน้อยและสถานที่เที่ยวค่อนข้างไกล การเดินทาง จากตัวเมือง “ซัปโปโร” (Sapporo) เราแนะนำเลือกวิธีการเดินทางกับทัวร์แบบ วันเดย์ทัวร์ โดยจองผ่าน Klook ซึ่งมีเส้นทางท่องเที่ยวแบบ 1 วัน ให้เลือกหลากหลายเส้นทาง ที่จะพาเราไปเช็คอินตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ
ใครที่สนใจเที่ยวแบบ “วันเดย์ทัวร์” ในญี่ปุ่น ก็สามารถจองผ่าน Klook ได้ ซึ่งมีเส้นทางท่องเที่ยวแบบ 1 วัน ให้เลือกหลายโปรแกรม หลายเส้นทางเลย โดยเข้าไปเลือกโปรแกรมที่ต้องการจองได้ที่แอป Klook หรือ Website https://www.klook.com/th/
อย่าลืม!! ใส่ Code : CHAILAIJPKLK เพื่อรับส่วนลด 5% ด้วยนะ (เมื่อจองขั้นต่ำ 1,500 บาท)

น้ำตกชิราฮิเงะ (Shirahige Waterfall) น้ำตกที่ไหลทะลุตกลงมาตามหน้าผาหิน มีความสูงประมาณ 30 เมตร ซึ่งจุดเด่น คือ “สีน้ำฟ้า-ขาว” จากแร่ธรรมชาติที่ผสมกับน้ำในแม่น้ำบิเอะ เดินทางมาชมในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแบบนี้ ก็จะเห็นภาพของน้ำตกสีฟ้า ตัดกับแนวต้นไม้สีแดง-ส้มเหนือหน้าผาจะสวยงามมากเหมือนภาพจากโปสการ์ดเลย

มุมถ่ายรูปและจุดชมยอดฮิต จะอยู่บนสะพาน “Shirahige Bridge” มองลงไปจะเห็นตัวน้ำตกอย่างชัดเจน เห็นความฟุ้งของละอองน้ำบรรยากาศเป็นธรรมชาติ เป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปที่ห้ามพลาด

บึงน้ำสีฟ้า บิเอะ (Shirogane Blue Pond) แลนด์มาร์กขึ้นชื่อของเมืองบิเอะ “บึงน้ำสีฟ้า” ที่ใสเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แบบธรรมชาติ ประกอบกับมีตอไม้ของต้นไม้แห้งอยู่กลางบึง สวยงามแปลกตา

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้และใบไม้รอบๆ ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง–น้ำตาลแดง มองเห็นสะท้อนในน้ำ ทำให้ทั้งภาพมีความคอนทราสต์สวยงาม สามารถเดินเล่นริมบึงได้ตามทางเดินชมธรรมชาติได้อย่างเพลิน

โจซังเค ออนเซ็น (Jozankei Onsen) เมืองออนเซ็นกลางหุบเขาตั้งอยู่ใน หุบเขาโทโยฮิระ (Toyohira Gorge) อยู่ใกล้ซัปโปโรเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ได้ฟีลธรรมชาติป่าเขาแบบเมืองน้ำพุร้อนของญี่ปุ่น โดยไม่ต้องเดินทางไกล

โจซังเค ออนเซ็น เป็นหนึ่งใน จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในฮอกไกโด โดยมี สะพานฟุตามิ (Futamigaoka) สะพานแดงริมแม่น้ำโทโยฮิระ และจุดชมวิวต่างๆ ที่บรรยากาศโดยรอบถูกปกคลุมด้วยสีเหลืองทองของใบไม้เปลี่ยนสี
แนะนำ ถ้ามีเวลาควรมาพักที่นี่สักคืน มาแช่ออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมชมวิวสวยๆ รับรองฟินแน่นอน

เขื่อนโฮเฮเคียว (Hoheikyo Dam) ถ้ามองหาจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีแบบอลังการก็ต้องจุดนี้เลย! ที่ “เขื่อนโฮเฮเคียว” จุดชมวิวบรรยากาศที่มองเห็นแบบพาโนรามา โดยมองเห็นทั้งแนวภูเขาที่ถูกทาด้วยสีแดง–ส้มเป็นชั้นๆ ไล่ไปจนสุดปลายหุบเขา

จุดถ่ายรูปยอดนิยม จะอยู่ด้านบนของสันเขื่อน ที่เราสามารถเดินไปบนแนวสันเขื่อนเพื่อชมวิวได้ มองเห็นวิวบรรยากาศสวยๆ ได้อย่างกว้างไกลเลย


สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) หนึ่งในสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น อยู่ใน เมืองอาซาฮิคาวะ (Asahikawa) จังหวัดฮอกไกโด (ฮอกไกโด) มีสัตว์น่ารักๆ ที่อาศัยอยู่ในสภาพอากาศที่หนาว ให้ได้ชมเพียบเลย!

จุดไฮไลท์ น่าสนใจของ “สวนสัตว์อาซาฮิยามะ” (Asahiyama Zoo) อย่างเช่น
● โซนเพนกวิน (Penguin House) มาทักทายน้องเพนกวิน ที่อยู่รวมกันเป็นฝูง ว่ายน้ำอย่างอิสระในอุโมงค์กระจกใส ซึ่งไฮไลท์สำคัญจะอยู่ช่วงฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – มีนาคม) โดยจะมีโชว์ “Penguin Walk” พาเหรดเพนกวินเดินเล่นเป็นขบวนให้ชมในบรรยากาศท่ามกลางหิมะ ใครมาเที่ยวชมในช่วงฤดูหนาวต้องห้ามพลาดเลยนะ
● โซนหมีขั้วโลก (Polar Bear Aquatic Park) ชมหมีขาวตัวใหญ่ที่ว่ายน้ำ เล่นน้ำอยู่ในแท็งก์น้ำกระจกใสขนาดยักษ์ มองเห็นน้องหมีขาวลงเล่นน้ำได้อย่างใกล้ชิดสุดๆ
● โซนแมวน้ำ (Seal House) พื้นที่ชมแมวน้ำที่เราสามารถมองเห็นแมวน้ำแหวกว่ายขึ้นลงอย่างอิสระในน้ำ และมีโชว์การให้อาหารน้องแมวน้ำอีกด้วย
● โซนลิงภูเขา (Monkey Mountain) ภูเขาจำลองสถานที่อยู่อาศัยของลิงญี่ปุ่น ที่เราจะได้เห็นการปีนป่าย และการนั่งอาบแดดตามธรรมชาติ
● โซนหมาป่าฮอกไกโด (Wolf Forest) ชมฝูงหมาป่าในพื้นที่ป่าจำลองตามธรรมชาติ สามารถชมได้อย่างใกล้ชิด และปลอดภัย


ฟาร์มหมีโชวะชินซัง (Showa Shinzan Bear Ranch) เป็นฟาร์มหมีเก่าแก่ที่เปิดมากว่า 60 ปี นักท่องเที่ยวสามารถชมหมีฮอกไกโดได้อย่างใกล้ชิด พร้อมมีกิจกรรมให้อาหารน้องหมี ซึ่งเราสามารถซื้อ คุกกี้ หรือ แอปเปิ้ล เพื่อให้กับน้องหมีได้ด้วยนะ
● คุ้กกี้ : ถุงละ 200 เยน
● แอปเปิ้ล : ถุงละ 300 เยน

โดยระหว่างที่เราให้อาหาร น้องหมีก็จะยืนรอรับอาหาร และกวักมือเรียกขออาหาร บางตัวก็นั่งรอรับอาหารอยู่นิ่งๆ ด้วยท่าทางขี้เกียจ ก็ดูกวนๆ ดีเหมือนกัน

นอกจากนี้ ก็มีส่วนของร้านขายของที่ระลึก ที่มีสินค้าธีมหมีๆ มากมาย ให้เลือกซื้อ ทั้ง เสื้อยืด ตุ๊กตา พวงกุญแจ รวมถึงขนมท้องถิ่นอีกด้วย

นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในบรรยากาศของป่า ซึ่งอยู่ในบริเวณของโรงแรม New Furano Prince Hotel ใน เมืองฟุราโนะ(Furano) จังหวัดฮอกไกโด(Hokkaido) ภายในมีกระท่อมไม้ขนาดน่ารักตั้งเรียงรายอยู่ทั้งหมด 15 หลัง มีทางเดินไม้เชื่อมต่อไปยังกระท่อมแต่ละหลัง สามารถเดินเล่นชมบรรยากาศได้อย่างชิล เหมือนหลุดเข้าไปในเทพนิยายเลย

สำหรับกระท่อมแต่ละหลัง ก็จะเปิดเป็นร้านค้า ที่ส่วนใหญ่ จะจำหน่ายสินค้าพวกงานฝีมือ งานศิลปะต่างๆ ที่ สามารถซื้อหากลับไปเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย!





