“ดีท็อกซ์ปอด กอดเขาใหญ่” เที่ยวแบบ Local Low Carbon ณ ชุมชนบ้านท่ามะปรางค์ บ้านคลองเพล จ.นครราชสีมา

SHARE!

ดีท็อกซ์ปอด กอดเขาใหญ่” เที่ยวชุมชนแบบ Local Low Carbon ณ ชุมชนบ้านท่ามะปรางค์ บ้านคลองเพล จ.นครราชสีมา

การได้พักผ่อนท่ามกลาง “ธรรมชาติ” ความร่มรื่นของต้นไม้ และป่าเขาอันเขียวขจี ล้วนเป็นสิ่งที่หลายคนต่างต้องการ ที่จะหาเวลาเอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้น ซึ่งนับเป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริงเลย ได้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ สร้างความสดชื่น.. และกระตุ้นพลังชีวิตได้เป็นอย่างดี แต่.. การที่เราไปอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เราก็ต้องช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติด้วย ช่วยกันใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ เหมือนกับทริปนี้ ที่เราจะพาไปเที่ยวกันครับ..

ทริปนี้ เราจะพาไปท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชน ที่ ชุมชนบ้านท่ามะปรางค์ และ บ้านคลองเพล อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นทริปท่องเที่ยวชุมชน One Day Trip ท่ามกลางบรรยากาศแบบป่าเขาอันเขียวขจีของ “เขาใหญ่” ลองตามมาเที่ยวชุมชนแบบ Local Low Carbon ไปพร้อมๆ กันเลย!

 

เที่ยวชุมชนแบบ Local Low Carbon!

Local Low Carbon เป็นการท่องเที่ยวชุมชนที่นักท่องเที่ยวจะส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อม ได้ช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก โดยใช้เครื่องมือวัดผลการลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินท์ จาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนี้

  • รณรงค์การใช้รถสาธารณะหรือใช้รถคันเดียวกัน
  • ลดการใช้กระดาษและพลาสติก
  • งดใช้โฟมเพื่อตกแต่งหรือเป็นภาชนะใส่อาหาร
  • ลดการใช้พลังงานจากอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่สามารถนำกลับมา Reuse หรือ Recycle ได้
  • ตักอาหารให้พอดีรับประทาน

 

ออกเดินทาง สู่ “เขาใหญ่

08.00 น. เริ่มต้น.. การเดินทาง จาก กรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ จังหวัดนครราชสีมา ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็เดินทางมาถึงบริเวณหน้าด่าน “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” ซึ่งเป็นจุดหมายแรก และเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นกิจกรรมแรกของการมาท่องเที่ยวชุมชน ด้วยการสักการะ เจ้าพ่อเขาใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคล

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย มีอาณาเขตครอบคลุม 11 อำเภอของ 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และ จังหวัดนครนายก ได้รับสมญานามว่าเป็นอุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นป่าผืนใหญ่ และเป็นแหล่งกำเนิดของ ต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย มีสัตว์ป่าชุกชุม นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไป พักแรม เดินป่า ดูน้ำตก และส่องสัตว์ได้

หลังจาก สักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นที่เรียบร้อย  ก็เดินทางเข้าสู่ชุมชน ที่ให้การต้อนรับด้วยน้ำสมุนไพรชื่นใจเย็นชื่นใจ พร้อมรับฟังเรื่องราวความเป็นมาของชุมชนเล็กๆ แห่งนี้ ที่มีวิถีชุมชนแบบดั้งเดิม และผ่านการปรับตัวเข้ากับความเจริญของพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

12.00 น. ได้เวลารับประทานอาหารเที่ยง ซึ่งเป็นเมนูอาหารรสเด็ดจากฝีมือแม่ครัวชุมชนที่ปรุงอย่างสุดฝีมือ โดยแยกเป็นสำรับในปิ่นโตปิดมิดชิดเพื่อสุขอนามัย

เราได้ลองชิม เมนูเด็ด อาทิ ยำสะเดา น้ำพริก ผักสด ซึ่งล้วนเป็น วัตถุดิบ ที่มาจากสวนครัวในชุมชน เปรียบเสมือนเป็น ภัตตาคารอาหารพื้นบ้าน เรียบง่าย แต่อร่อย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย

เข้าสู่ช่วงบ่าย ออกไปยืดเส้นยืดสาย รับ จักรยานคู่ใจ ปั่นไปเที่ยวทำกิจกรรมในชุมชนที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

ชมวิถีชุมชนหลากหลายวัฒนธรรม ที่มาอยู่ร่วมกันท่ามกลางอ้อมกอดของเขาใหญ่ มี คลองลำตะคอง ไหลผ่านทั้งสองหมู่บ้านท่ามะปรางค์และบ้านคลองเพล ชาวบ้านยังใช้ชีวิตเกื้อกูลกับธรรมชาติ ดังที่เคยเป็นมาตั้งแต่จัดตั้งเป็นชุมชน..

ปั่นจักรยาน มาถึง วัดท่ามะปรางค์ ไหว้หลวงพ่อใหญ่พระพุทธรูปโบราณอายุนับร้อยปี

ที่นี่ มี ตำนานความศักดิ์สิทธิ์ ที่เล่าขานกันมา.. เป็นศาสนสถานเพิ่มเติมในบริเวณวัดจากญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา

จากนั้น แวะชิมผลไม้จากสวน ซึ่งเป็นผลผลิตจากดินดีน้ำดีที่เขาใหญ่ ผลไม้ที่นี่มีหลายชนิด อาทิ มังคุด ทุเรียน ลองกอง มะยงชิด มะปราง ฝรั่ง ฯลฯ ลองชิมแล้ว.. จะรู้สึกว่าอร่อยไม่เหมือนใคร อร่อยจนน้องช้างประจำถิ่นแอบย่องมากินทุกวัน

มาถึงกิจกรรม การทำลูกหอม โดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วในชุมชน ทั้ง ลูกมะกรูด ใบเตย และ ครูผู้สอน

ลูกหอม จึงเป็น ของที่ระลึก ที่ทำด้วยฝีมือตนเอง เป็นอีกกิจกรรมที่สร้างขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้หวนคิดถึงชุมชน และ ได้ใช้ของที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์

พักเหนื่อยจากการปั่นจักรยาน มาเรียนรู้การทำกล้วยฉาบ “กล้วยพี่ด้วน” จากกลุ่มแม่บ้านชุมชน ที่มีเทคนิค การสไลด์กล้วย แบบไม่ให้จับตัวกัน ด้วยเครื่องมือแล่กล้วยทรงประสิทธิภาพ พร้อมทดลองทำ และ ลองชิมกล้วยฉาบแบบสดๆ ร้อนๆ

สุดท้าย จะเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ประเมินผลทริปด้วย QR Code ซึ่งไกด์ชุมชนได้แจ้งผล การลดคาร์บอนฟุตพรินท์ เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ใหญ่โดยระบบ Care the Bear นับตลอดทุกกิจกรรมที่สามารถแทนค่าได้รวมการเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ และต้นทางของผู้ร่วมทริปทั้งหมด

  • สรุป ผล การลดปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์ ในวันนี้เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 152 ต้น ซึ่งหลายกิจกรรมในโปรแกรม ก็เป็นสิ่งที่ทำอยู่แล้วในกระบวนการท่องเที่ยวทั่วไป

ดังนั้น การเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่เราทุกคนต้องเอาใส่ใจ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังสามารถนำกลับไปทำในชีวิตประจำวันของเราด้วย

ได้เวลาอันพอสมควร! ก็อำลาชุมชนด้วยความประทับใจ และเดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ เป็นอีกหนึ่งทริป เที่ยวได้ใน 1 วัน มีโอกาสอยากชวนมาเที่ยว ชุมชนบ้านท่ามะปรางค์ – บ้านคลองเพล กันนะ!

  • ข้อมูลติดต่อ : ชมรมท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านท่ามะปรางค์ – บ้านคลองเพล คุณบี 064 610 2754

ขอบคุณ : ฝ่ายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ Travel Tech Startup บริษัท ฟายด์ โฟล์ค จำกัด ที่ให้ความสำคัญกับปัญหาโลกร้อน และนำเครื่องมือวัดผลกระทบจากคาร์บอนฟุตพริ้นท์มาใช้ครั้งแรกกับกิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชน และชวนเข้าร่วมทริปทดสอบโปรแกรมท่องเที่ยว “Local Low Carbon” การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในครั้งนี้ครับ


การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER

Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
E-mail : chailaibackpacker@gmail.com
Website : www.chailaibackpacker.com