#MYANMAR : รีวิวเที่ยว “พม่า” พาไปเยือน มัณฑะเลย์ สกายน์ อังวะ และ มิงกุน!

SHARE!

#MYANMAR : รีวิวเที่ยว “พม่า” พาไปเยือน มัณฑะเลย์ สกายน์ อังวะ และ มิงกุน!

ทริปนี้.. ผมได้มีโอกาสเยือน #Mandalay อีกครั้ง แต่ครั้งนี้.. มีความพิเศษ ตรงที่ได้มีเวลาเที่ยวเจาะลึกตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ในช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน ซึ่งก็ได้ไปตามเก็บที่เที่ยวใน “มัณฑะเลย์” และเมืองต่างๆ อย่าง สกายน์ อังวะ และ มิงกุน เป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก!

ขอบอกว่า “พม่า” มีอะไรให้เที่ยวเยอะจริงๆ …ลองตามมาเที่ยวกันครับ!

 

 

DAY #1 : มิงกลาบา.. MYANMAR!

ผมเริ่มต้นออกเดินทาง จาก กรุงเทพฯ ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าสู่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ซึ่งเมื่อเดินทางถึง มัณฑะเลย์ แล้ว.. สถานที่แรก ที่ไปก็คือ เจดีย์กวงมูดอร์ หรือ เจดีย์นมนาง

วัดเจดีย์นมนาง เป็นเจดีย์ทรงลังกา สร้างโดยพระเจ้าต้าหลู่เมื่อปี ค.ศ. 1636 ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วที่ได้มาจาก ลังกาเจดีย์ และ มีตํานานเล่าว่า.. องค์เจดีย์นี้ ได้ต้นแบบมาจากถันพระชายาคนโปรดของ พระเจ้าต้าหลู่องค์ โดยเจดีย์มีความสูง 46เมตร เส้นรอบวงวัดได้ 274 เมตร

จากนั้น เดินทางไปชมทัศนียภาพของ เมืองสกายน์ ลุ่มแม่นํ้าอิระวดี สามารถมองเห็นเจดีย์จํานวนมากมายที่ตั้งเรียงรายอยู่บนภูเขา และริมฝั่งแม่นํ้า

แวะชม เจดีย์อูมินทงแส่ (Umin Thonse Pagoda) ที่ภายในมี พระพุทธรูป 45 องค์ ประดิษฐานเรียงกันเป็นครึ่งวงกลม โดยมีผู้มีจิตศรัทธาวนเวียนเข้ามาสักการะอย่างไม่ขาดสาย..

เมืองอังวะ เมืองเก่าราชธานี อีกแห่งหนึ่งของพม่า สามารถเที่ยวแบบชิคๆ ด้วย รถม้า ไปตามจุดท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ

  • Bagayar Monastery อาคารไม้สักขนาดใหญ่ สร้างโดย พระเจ้าบายีดอ ปี ค.ศ.1834 สร้างขึ้นด้วยไม้สักที่มีขนาดใหญ่ มีซุ้มประตู บานประตู หลังคา ที่สวยงาม ซึ่งอาคารแห่งนี้มีเสาไม้สัก รองรับนํ้าหนักอยู่ถึง 267 ต้น

  • หอคอยเมืองอังวะ เป็นส่วนหนึ่ง ของพระราชวัง เพื่อใช้ สังเกตการณ์ข้าศึก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1822 หลังจากที่เกิด
    แผ่นดินไหวในปี ค.ศ.1838 หอแห่งนี้เกิดการเอียงตัว แต่ได้รับการบูรณะเป็นโครงสร้างเดิม

 

  • วัดมหาอ่องเหม่บอนซาน สร้างโดยพระนางเมนุมเหสีในพระเจ้าบาจีด่อ

 

DAY #2 : ล่องเรือไปตาม.. แม่นํ้าอิระวดี!

เช้าวันใหม่ หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเที่ยวกันต่อ.. โดย ช่วงเช้า จะล่องเรือไปตาม แม่นํ้าอิระวดี สู่ “มิงกุน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ อมรปุระ แต่อยู่บนเกาะกลางลํานํ้าอิระวดีสามารถเดินทางไปได้ด้วยเส้นทางเรือ โดยระหว่างทาง จะได้เห็นหมู่บ้านอิระวดีที่มีลักษณะเป็น “กึ่งบ้านกึ่งแพ” เนื่องจากระดับนํ้าอิระวดีในแต่ละฤดูกาลจะมีความแตกต่างกันมาก ชาวพม่าจึงนิยมสร้างบ้านกึ่งแพ คือ ถ้านํ้าขึ้นสูงก็ยกบ้านขึ้นที่ดอน ถ้านํ้าลงมากก็ยกบ้านมาตั้งใกล้นํ้า เพื่อความสะดวกสบายในการใช้แม่นํ้าในชีวิตประจําวัน..

เมื่อนั่งเรือ มาถึง “มิงกุน” ก็เดินทางมายัง “ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิระวดี” เจดีย์ชินพิวมิน (เมียะเต็งดาน) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่สวยสง่ามากแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2359 โดย พระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดาในพระเจ้าปดุง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์มีต่อ พระมหาเทวีชินพิวมิน ซึ่งถึงแก่พิราลัยก่อนเวลาอันควร

สถานที่แห่งนี้ จะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ที่จะมาหามุมถ่ายภาพสวยๆ เก็บไปเป็นที่ระลึกกัน..

ระฆังมิงกุน ระฆังยักษ์ที่มีเส้นรอบวงถึง 10 เมตร สูง 3.70 เมตร นํ้าหนัก 87 ตัน สร้างโดย พระเจ้าปดุง ซึ่งมีเรื่องเล่าขานกันว่า.. พระเจ้าปดุงทรงไม่ต้องการให้มีใครสร้างระฆังเลียนแบบจึงรับสั่งให้ประหารชีวิตนายช่างทันทีที่สร้างเสร็จ ทั้งนี้ เคยมีการทดสอบความกว้างใหญ่ของระฆังใบนี้ โดยให้เด็กไปยืนรวมกันอยู่ใต้ระฆังได้ถึง 100 คนทีเดียว!

เจดีย์มิงกุน ร่องรอยแห่งความทะเยอทะยานของพระเจ้าปดุง ด้วยภายหลังทรงเคลื่อนทัพไปตียะไข่แล้วสามารถชะลอพระมหามัยมุนีมาประดิษฐานที่มัณฑะเลย์เป็นผลสําเร็จ จึงทรงฮึกเหิมที่จะกระทําการใหญ่ขึ้นและยากขึ้น.. ด้วยการทําสงครามแผ่ขยายไปรอบด้านพร้อมกับเกณฑ์แรงงาน ข้าทาสจํานวน มากก่อสร้างเจดีย์มิงกุน โดยทรงมุ่งหวัง ให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามหาเจดีย์ในสมัยพุกาม และใหญ่โตโอฬารยิ่งกว่าพระปฐมเจดีย์ในสยาม อย่างไรก็ตาม งานก่อสร้าง เจดีย์มิงกุน ดําเนินไปได้เพียง 7 ปี พระเจ้าปดุงเสด็จสวรรคต

พระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังที่ส่วนใหญ่ก่อสร้างด้วยไม้สักที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง เมื่อ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรโดยกองทัพอังกฤษได้ทิ้งระเบิดถล่มพระราชวัง เกิดไฟไหม้เผาราบเป็นหน้ากลอง แต่ทางรัฐบาลพม่า ก็ได้ จำลองรูปแบบของพระราชวังของเก่า ขึ้นมาอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

วัดชเวนันดอว์ เดิมเป็นพระตำหนักของ พระเจ้ามินดง สร้างด้วยไม้เนื้อแข็งสีดำทั้งหลัง แกะสลักสวยงามบนไม้สักทองประดับตามจุดต่างๆ ดูสวยงามแปลกตา..

วัดกุโสดอ ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ทําการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 5 มีแผ่นศิลาจารึกพระไตรปิฎกทั้งหมด 84,000 พระธรรมขันธ์ และหนังสือกินเนสบุ๊คได้บันทึกไว้ว่า “หนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

พระเจดีย์สีทอง ภายใน วัดกุโสดอ เป็นเจดีย์ที่มีรูปร่างศิลปะเหมือน เจดีย์ชเวชิกอง ที่พุกาม

เขามัณฑะเลย์ จุดชมวิวที่มีทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดของ เมืองมัณฑะเลย์ มีความสูงถึง 240 เมตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ชมพระอาทิตย์ตก ในยามเย็น

 

DAY #3 : “พระมหามัยมุนี” สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด 1 ใน 5 ของพม่า!

ตื่นเช้าตั้งแต่ เวลา 03.00 น. เพื่อไป พิธีล้างหน้าพระพักตร์พระมหามัยมุนี นมัสการพระมหามัยมุนี อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด 1 ใน 5 แห่งของพม่า ต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม”

“พระมหามัยมุนี” เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของประเทศพม่า ด้วยความเชื่อว่า.. พระพุทธมหามัยมุนี นี้ เป็นพระพุทธรูปที่มีชีวิต จึงมีประเพณีล้างพระพักตร์ถวายทุกวันตอนเช้าในเวลา ประมาณ 04.00 น

ปิดท้ายทริปนี้ ด้วยการแวะชม สะพานไม้อูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยความยาวเกือบ 2 กิโลเมตรทีเดียว!

 

สอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติม และ จองทัวร์ เที่ยว “พม่า” ได้ที่ :

สนับสนุนการเดินทางโดย :