สัมผัสวิถีชุมชนอันเงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติ และผืนป่า ณ ชุมชนท่องเที่ยว จุฬาภรณ์พัฒนา 9 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา หมู่บ้านที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติและป่าเขา เป็นเสมือนประตูสู่ ป่าฮาลาบาลา ผืนป่าชายแดนใต้อันอุดมสมบูรณ์!
ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ ได้พัฒนาเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวที่สำคัญของ จังหวัดยะลา นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนสงบ และสดชื่น
การเดินทาง : จาก ตัวเมืองยะลา ใช้เส้นทาง หมายเลข 410 (ยะลา – เบตง) มุ่งหน้าสู่ อำเภอบันนังสตา แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง หมายเลข 3009 รวมระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร
ชุมชนท่องเที่ยว จุฬาภรณ์พัฒนา 9 ยะลา
ก่อนการเดินทาง เราได้ติดต่อกับ “หลินปิง” ไกด์ของชุมชนไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว และได้ติดต่อ รถรับ-ส่ง ของชุมชนเอาไว้ด้วย สามารถติดต่อให้ไปรับตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ตัวเมืองยะลา หรือ ตัวอำเภอบันนังสตา ก็ได้ ค่าใช้จ่าย ก็ตามระยะทาง ใช้บริการรถของชุมชน ก็จะได้ช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนด้วยครับ..
รถรับ – ส่ง มารับตามจุดนัดหมาย และพาเดินทางเลียบไปกับ เขื่อนบางลาง ผ่านวิวป่าเขาสองข้างทาง และเส้นทาง ช่วงท้าย ก็จะได้เมาโค้งกันสักหน่อย ก่อนถึงชุมชน..
เมื่อเดินทางมาถึง ชุมชนท่องเที่ยวจุฬาภรณ์พัฒนา 9 ก็ได้รับการต้อนรับจาก พี่อาเซิน ที่จะมาช่วยดูแลเกี่ยวกับ กิจกรรมท่องเที่ยว ตลอดเวลาที่เราอยู่ที่นี่ ซึ่ง พี่อาเซิน ก็ได้แนะนำกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ เป็น Package แบบ 2 วัน 1 คืน
กิจกรรมท่องเที่ยว ชุมชนท่องเที่ยว จุฬาภรณ์พัฒนา 9
- ชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์
- เดินป่า ฮาลาบาลา / ชมน้ำตกฮาลาซะห์
- แช่เท้าด้วยสมุนไพร
- ชิมอาหารเมนูแบบท้องถิ่น
- ชมทะเลหมอกผาหินโยก
- ล่องเรือชมผืนป่าฮาลาบาลายามเช้า
และ มี Package ท่องเที่ยวชุมชนแบบ 2 วัน 1 คืน ที่พัก อาหาร และ กิจกรรมท่องเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกด้วย
ก่อนจะไปทำกิจกรรมท่องเที่ยว ก็เก็บของเข้าที่พักกันก่อน ซึ่ง ชุมชนท่องเที่ยวจุฬาภรณ์พัฒนา 9 ก็มี ที่พัก ถึง 3 อาคาร สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 30 – 40 คน เป็น ห้องพัก แบบส่วนตัวนอนสบายครับ
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ | เรียนรู้เรื่องราวในอดีตของหมู่บ้าน จุฬาภรณ์พัฒนา 9
มาทำความรู้จักชุมชนแห่งนี้ ให้มากขึ้นด้วยการมาเดินชม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฯ โดยเราได้ คุณป้า ที่น่ารัก ซึ่งเป็นคนในชุมชนและมีประสบการณ์ตรง มาถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตให้เราได้รับฟัง..
“พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9” หรือ “พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา” เป็นแหล่งรวบรวมประวัติศาสตร์ของที่นี่ ในอดีต สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ดินแดนมลายูได้ถูกญี่ปุ่นรุกรานขยายอำนาจจนเกิดเป็นการต่อสู้กันกับทหารญี่ปุ่น และมีอังกฤษเข้ามายื่นมือให้ความช่วยเหลือชาวมลายู ต่อมา เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษกลับมาหักหลังเข้ามาปกครองแทน โดยไม่คืนอิสรภาพให้กับชาวมลายู
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ชาวมลายูจำนวนหนึ่งจึงได้รวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับชาวอังกฤษทวงคืนเอกราช จนถูกเรียกว่า “พรรคคอมมิวนิสต์มลายา” ซึ่งต่อมา ทางรัฐบาลมาเลเซียมีความเกรงกลัวว่า “พรรคคอมมิวนิสต์มลายา” จะเข้ามาแทรกแซงการปกครอง จึงได้เกิดการปราบปรามครั้งใหญ่
“พรรคคอมมิวนิสต์มลายา” ได้หนีการปราบปราบอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ตามป่าฮาลาบาลา ชายแดนไทย – มาเลเซีย มีการตั้งค่ายในป่า มีโรงเรียน โรงพยาบาล และรวบรวมกำลังพลมากขึ้น จนมีช่วงหนึ่งก็ได้เกิดการปะทะกับทางรัฐบาลไทย แต่พอถึงปี 2532 เกิดการเจรจาและเซ็นสันติภาพ โดยทางรัฐบาลไทยจะให้ที่อยู่และที่ทำกินแก่กลุ่มคอมมิวนิสต์มลายา และทาง กลุ่มคอมมิวนิสต์มลายา จะนำอาวุธสงครามไปฝังไว้ในป่าด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นการยุติสงครามอย่างมีเกียรติ
เราได้ฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ พร้อมกับเดินชมภายในพิพิธภัณฑ์ไปด้วย ซึ่งก็มีการรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ สิ่งของต่างๆ ในการดำรงชีวิตในป่า เช่น อุปกรณ์ประกอบอาหาร อุปกรณ์ทำฟัน อุปกรณ์สื่อสาร เครื่องบันทึกภาพ และอาวุธต่างๆ ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ครับ
ฮาลาบาลา | อเมซอนแห่งอาเซียน
“เดินป่าฮาลาบาลา” ไฮไลท์ของการมาที่นี่ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้ง!! กับ เส้นทางประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นระยะทางการเดินที่สามารถ ลุยได้แบบเบาๆ เส้นทางชมธรรมชาติเขียวสดชื่น เดินไม่ยาก แต่.. อาจต้องเตรียมพร้อมอุปกรณ์กันทากมาสักหน่อยก็พอ
การเดินป่า ก็ต้องอาศัยคนนำทางด้วย ซึ่ง พี่อาเซิน ก็มาคอยดูแลพาเราเดินเข้าไปชมธรรมชาติของป่าฮาลาบาลา
ซึ่งสองข้างทาง ก็จะได้พบกับต้นไม้น้อยใหญ่ พันธุ์ไม้ที่ดูแปลกตา รวมถึงสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่โผล่มาทักทายตลอดเส้นทาง
ระหว่างทางก็จะได้พบกับ “น้ำตกฮาลาซะห์” น้ำตกความสูงราว 100 เมตร ส่งน้ำจากต้นน้ำลงมาเป็นสายดูสวยงาม ถือเป็นจุดพักผ่อนอย่างดี ที่จะได้นั่งพักชมน้ำตก ที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ หรือ จะลองลงแช่น้ำเย็นๆ เพิ่มเลเวลความสดชื่นก็ได้เช่นกัน
แช่เท้าด้วยสมุนไพร | เพื่อสุขภาพ
กิจกรรมผ่อนคลาย หลังจากการเดินป่า “แช่เท้าด้วยสมุนไพร” คือ การแช่มือ และเท้า ด้วยน้ำต้มจากสมุนไพร
สูตรน้ำสมุนไพรนี้ เป็นสูตรที่ทาง อาม่า คิดขึ้นมาเอง โดยใช้ สมุนไพร ที่มีอยู่ในป่าและพื้นที่ใกล้เคียงมาต้มรวมกันในหม้อใบใหญ่ จนได้ น้ำสมุนไพร มาให้แช่เท้า มี สรรพคุณ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี
ชิมเมนูท้องถิ่น | รสชาติจัดจ้านฉบับปักษ์ใต้
“ชิมอาหารเมนูแบบท้องถิ่น” เมนูแบบบ้านๆ จากวัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชน และปรุงจากฝีมือแม่ครัวใจดี ซึ่งเป็น น้าๆ อาๆ คนในชุมชนเอง แต่..ต้องบอกว่า อร่อยมาก!
เมนูอาหาร อร่อยแบบทุกเมนูจริงๆ รสชาติจัดจ้านแบบปักษ์ใต้ เป็นมื้อที่เจริญอาหาร จนต้องเติมข้าวสวยหมดไปหลายจานเหมือนกัน.. ติดใจมากครับ
ล่องเรือชมธรรมชาติ | สูดอากาศสดชื่นยามเช้า
“ล่องเรือชมผืนป่าฮาลาบาลา” กิจกรรมที่ต้องตื่นกันตั้งแต่เช้า พี่อาเซิน มารับเราพาไปยังท่าเรือ และพาลงเรือล่องไปบนผืนน้ำของ เขื่อนบางลาง
สองข้างทาง ที่เรือแล่นแหวกผิวน้ำออกไป จะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันเขียวขจีของ ผืนป่าฮาลาบาลา ได้เห็นสายหมอกที่ลอยตัวอยู่ตามยอดไม้ อากาศยามเช้าๆ แบบนี้ สดชื่นมากเลย
เรือพามาจอดพักยังจุดที่เรียกว่า “คลองน้ำใส” เป็นคลองที่เต็มไปด้วยโขดหินน้อยใหญ่ ที่มีสายน้ำอันเย็นเฉียบไหลแทรกผ่านระหว่างโขดหิน
มีเวลาให้ พักผ่อนชิลกับธรรมชาติ อยู่พอสมควร โดยเราสามารถถอดรองเท้าเดินเล่นไปตามโขดหิน หรือ จะลงแช่น้ำเล่นน้ำให้ชื่นใจก็ได้นะ
พอได้เก็บภาพ จนเป็นที่พอใจแล้ว ก็ได้เวลาล่องเรือกลับเข้าสู่ชุมชน และเป็นเวลาที่เราจะต้อง เดินทางกลับ กทม. เช่นกัน สิ้นสุดทริปการเดินทางไว้ ..แต่เพียงเท่านี้
ข้อมูลเพิ่มเติม หมู่บ้าน จุฬาภรณ์พัฒนา 9
- Facebook : https://www.facebook.com/Chulaborn9
- Tel : 097 117 5567 (คุณหลินปิง)
แผนที่ หมู่บ้าน จุฬาภรณ์พัฒนา 9
สรุป
การเดินทางมาเยือน ชุมชนท่องเที่ยว จุฬาภรณ์พัฒนา 9 ในทริปนี้ เราก็ได้ประสบการณ์ดีๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจ ผู้คนในชุมชนน่ารัก พร้อมคอยช่วยเหลือ อาหารอร่อย มีโอกาสอยากให้ลอง ไปเที่ยว ไปพักผ่อน กันครับ!
