โปรแกรมการเดินทางเที่ยว นครพนม 2 วัน 1 คืน มีดังนี้
[DAY 1]
– เช้า เดินทางจากดอนเมือง – นครพนม
– สาย จากตัวเมืองนครพนม ไปไหว้พระธาตุพนม
– บ่าย เช่าจักรยานปั่น #ปั่นริมโขง เที่ยวตามเส้นทางริมโขง
– เย็น ล่องเรือชมสองฝั่งโขง
– ค่ำ เดินเล่นถนนคนเดิน ชิมอาหารอร่อย
[DAY 2]
– เช้า ดูพระอาทิตย์ขึ้นริมฝั่งโขง
– สาย ปั่นจักรยานไป บ้านลุงโฮจิมินห์
– สาย/เที่ยง นั่งเรือข้ามโขงไปเที่ยวฝั่งลาว แขวงคำม่วน
– บ่าย ชิมอาหารร้านเด็ดนครพนม ก่อนเดินทางกลับ กทม.
การเดินทางไปเที่ยว “นครพนม” จะเน้นการไปเที่ยวแบบประหยัด อยู่ง่าย กินง่าย แบบสบายๆ นะครับ จังหวัดนครพนม จะมีอะไรให้เที่ยว และให้ประสบการณ์อะไรบ้าง..? เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา แพ็คกระเป๋า ..แบกเป้ ตามมาเลยครับ !!!ปล.1 Review นี้เป็นการรวบรวมข้อมูลจากหลายครั้งที่ไปเที่ยวมานะครับ ซึ่งก็เป็นรูปแบบโปรแกรมประมาณนี้ครับ ซึ่งถ้ามีข้อมูลใดผิดพลาดไป ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะครับ
ปล.2 Review นี้เป็นการรวบรวมภาพจากหลายๆ กล้อง ทั้ง DSLR กล้องดิจิตอล กล้องมือถือ ทำให้คุณภาพของภาพอาจดูแตกต่างกันไปบ้าง คละๆ กันไปนะครับ ^^
[นครพนม..เป็นเมือง สโล๊ว์ สโลว์] ปั่น|กิน|เที่ยว > บินไปเฟี๊ยวที่ ‘นครพนม’
โปรแกรมการเดินทางเที่ยว นครพนม 2 วัน 1 คืน มีดังนี้
– เช้า เดินทางจากดอนเมือง – นครพนม
– สาย จากตัวเมืองนครพนม ไปไหว้พระธาตุพนม
– บ่าย เช่าจักรยานปั่น #ปั่นริมโขง เที่ยวตามเส้นทางริมโขง
– เย็น ล่องเรือชมสองฝั่งโขง
– ค่ำ เดินเล่นถนนคนเดิน ชิมอาหารอร่อย
– เช้า ดูพระอาทิตย์ขึ้นริมฝั่งโขง
– สาย ปั่นจักรยานไป บ้านลุงโฮจิมินห์
– สาย/เที่ยง นั่งเรือข้ามโขงไปเที่ยวฝั่งลาว แขวงคำม่วน
– บ่าย ชิมอาหารร้านเด็ดนครพนม ก่อนเดินทางกลับ กทม.
ปล.2 Review นี้เป็นการรวบรวมภาพจากหลายๆ กล้อง ทั้ง DSLR กล้องดิจิตอล กล้องมือถือ ทำให้คุณภาพของภาพอาจดูแตกต่างกันไปบ้าง คละๆ กันไปนะครับ ^^
“จังหวัดนครพนม” เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ที่ถือว่าเป็นเมืองชายแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความสวยงามของทิวทัศน์ มีความหลากหลายของวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ รวมทั้งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งถ้าพูดถึงจังหวัดนครพนมแล้ว..ก็ต้องนึกถึง “พระธาตุพนม” ที่ใครมาเยือนนครพนมแล้วต้องไปไหว้พระธาตุกันสักครั้งในชีวิต
เมื่อดูจากแผนที่จะเห็นว่า “นครพนม” นั้นมีพื้นที่ชายแดนด้านเหนือและตะวันออกของนครพนมติดกับแม่น้ำโขงตลอดแนว ซึ่งนอกจากจะเที่ยวภายในจังหวัดนครพนมได้แล้ว ยังสามารถเดินทางข้ามแม่น้ำโขงไปยังประเทศลาวได้อีกด้วยครับ ด้วยความที่อยู่ติดแม่น้ำโขงนี่เอง จึงทำให้นครพนมมีบรรยากาศที่น่ามาพักผ่อน สบายๆ ริมฝั่งโขง นอกจากนี้ นครพนมก็ยังมีประเพณีที่น่าสนใจครับ เช่น ประเพณีไหลเรือไฟ , งานนมัสการองค์พระธาตุพนม ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี เป็นต้น
นครพนม มีสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดมากมาย ที่เที่ยวหลักๆ จะอยู่บริเวณภายในตัวเมือง สถานที่ท่องเที่ยว มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ได้ความรู้ และประวัติความเป็นมาของเมืองแห่งนี้ โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งเลียบไปตามถนนริมฝั่งโขง และมีระยะที่ไม่ห่างกันมาก ทำให้สามารถเช่าจักรยาน #ปั่นริมโขง ได้สบายๆ เป็นวิธีท่องเที่ยวที่ประหยัด และได้สัมผัสกับบรรยากาศ วิถีชิวิตท้องถิ่น จริงๆ ครับ
แต่ทว่า.. จองไว้ ทั้งหมด 9 ที่นั่ง ถึงเวลาจริงก็มีติดภารกิจกันไปบ้าง ทำให้ได้เดินทางได้จริง แค่ 6 คนเท่านั้น (55+) ก็ไม่ใช่ปัญหาครับ ออกไป ปั่น|กิน|เที่ยว บินไปเฟี้ยวที่ “นครพนม” กันครับ..
[DAY 1] – เริ่มต้นการเดินทางที่ “สนามบินดอนเมือง”
จากสนามบินนครพนมจะเข้าเมืองยังไงดี? ที่สนามบินมีรถบริการรับส่งเข้าเมืองครับ หรือ ถ้าต้องการเช่ารถขับเองก็ได้เช่นกัน จะมีเคาร์เตอร์บริการอยู่ภายในสนามบินบริเวณทางออกครับ
จากสนามบินเข้าเมือง ประมาณ 10 กิโลเมตร ค่าบริการคนละ 100 บาท/เที่ยว (เก็บเบอร์เอาไว้โทรให้มารับตอนขากลับเข้าสนามบินได้ด้วยนะครับ)
จะเข้าเมืองกันด้วยรถคันนี้ครับ (เมื่อก่อนจะเป็นรถตู้เข้าเมือง ตอนนี้เปลี่ยนเป็นรถคันใหญ่ซะแล้ว สงสัยนักท่องเที่ยวเยอะ อิอิ)
นั่งสบายๆ เข้าเมืองครับ สามารถวนไปส่งได้ ทุกที่ ในบริเวณตัวเมือง
1 = หอนาฬิกา
2 = โรงแรมเฟิสท์
3 = โรงแรมตองเจ็ด
4 = ถนนคนเดิน
5 = ด่านตรวจคนเข้าเมือง(ข้ามไปลาว)
6 = วัดโอกาส
7 = ตลาดอินโดจีน
8 = ร้านสบายดี@นครพนม
9 = ร้านชิลล์ๆ ริมแม่น้ำโขง(จิบเบียร์)
แต่ที่เคยพัก และรู้สึกชอบ อยากแนะนำ ที่พักริมโขง บ้านปันสุข ครับ ชอบที่นี่ตรงที่พักอยู่ติดกับแม่น้ำโขง(มีแค่ถนนกั้น) ห้องพักสามารถ เลือกด้านหน้า(ได้วิวโขง) กับด้านหลัง (ไม่มีวิวแต่ถูกกว่า) ได้ครับ ราคาห้องไม่แพง ห้องกว้างขวาง ดูใหม่ สะอาดมากๆ พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน มีอยู่แค่ไม่กี่ห้อง ราคาห้องจะอยู่ที่ 690/คืน (ห้องวิวโขง) และ 590/คืน (ห้องไม่มีวิว) ซึ่งเป็นราคาที่คุ้มค่ามาก อีกเหตุผลหนึ่ง คือ ผมชอบในความเป็นกันเอง และอัธยาศัยดีของเจ้าของ ครับ ใจดีมากๆ มาพักที่นี่จึงรู้สึกสบายใจ ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านตัวเองเลย ข้างหน้าก็ได้บรรยากาศริมโขง ตื่นเช้ามาก็ มีของว่าง อาหารเช้า ปาท่องโก๋ ชา กาแฟ โอวัลติน บริการ นั่งจิบกาแฟเช้าๆ ชมวิวโขง แจ่มมากครับ (หรือถ้าจะ ยืมจักรยาน ปั่นไปซื้อของ ไปตลาดก็มีให้ยืมฟรีด้วยนะครับ) ใกล้ๆ กัน ก็เป็น “ร้านตำถาดครูริน” ครับ สั่งมาแซ่บได้อีก (เจ้าของเดียวกัน) ถ้าชอบแบบสบายๆ กันเองๆ เหมือนอยู่บ้าน “บ้านปันสุข” ริมโขง แนะนำเลยครับ ..
บริเวณตรงนี้จะมีเรือบริการพาเที่ยว ล่องแม่น้ำโขง ด้วยนะครับ เดี๋ยว เราจะกลับมานั่งกันช่วงเย็นๆ เพราะเรือมีอยู่ตอนเย็นแค่เที่ยวเดียวเท่านั้น!
จะโหนทำไม? รถว่าง..ก็นั่งกันสิครัชช.. ใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบชั่วโมง ค่าโดยสาร 45 บาท
อุดหนุนแม่ค้า ได้มาคนละ 1 ตัว..อิอิ
“พระธาตุพนม”ประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง อยู่ภายในบริเวณวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นพระธาตุประจำผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ซึ่งมีความเชื่อว่าหากได้มาสักการะสักครั้ง จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และจะมีความเจริญรุ่งเรือง..โดยทุกๆ ปีจะมีงานนมัสการองค์พระธาตุ เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 โดยจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่บริเวณด้านหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารซุ้มประตูวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารเดินเข้ามาบริเวณภายในวัด
ความสวยงามของพระธาตุพนม
นั่งพักชมบรรยากาศภายในบริเวณวัด
พุทธศาสนิกชน ถ่ายรูป กับ พระธาตุพนม เป็นที่ระลึก
2. พระธาตุเรณู พระธาตุประจำวันจันทร์ ประดิษฐานที่วัดพระธาตุเรณู อ.เรณูนคร
3. พระธาตุศรีคุณ พระธาตุประจำวันอังคาร ประดิษฐานที่วัดธาตุศรีคุณ อ.นาแก
4. พระธาตุมหาชัย พระธาตุประจำวันพุธ ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก
(พระธาตุมรุกขนคร พระธาตุประจำวันเกิดวันพุธ (กลางคืน) ประดิษฐานอยู่ ณ วัดมรุกขนคร อ.ธาตุพนม)
5. พระธาตุประสิทธิ์ พระธาตุประจำวันพฤหัสบดี ประดิษฐานที่วัดพระธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า
6. พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำวันศุกร์ ประดิษฐานที่วัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน
7. พระธาตุนคร พระธาตุประจำวันเสาร์ ประดิษฐานที่วัดมหาธาตุ ถ.สุนทรวิจิตร อ.เมือง
จากแผนที่บริเวณวัดพระธาตุพนม
1 = พระธาตุพนม
2 = ร้านอาหาร
3 = บริเวณรอรถสองแถว,รถตู้
ก่อนกลับแวะหาอะไรกินกันสักหน่อยก่อนกลับเข้าไปในตัวเมืองครับ หิวครับ..แวะหาอะไรกินสักหน่อย มื้อเที่ยงกันเลย!
ระยะทางจาก “หอนาฬิกา” ไปสถานที่ต่างๆ
2 = หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ นครพนม
3 = ร้านส้มตำคุณแต๋ว
4 = พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าฯ (หลังเก่า)
5 = โบสถ์นักบุญอันนา หนองแสงเริ่มต้นการปั่น-ก็ต้อง “เช่าจักรยาน” ก่อนครับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะร้านให้เช่าจักรยานก็อยู่ติดๆ กับหอนาฬิกานั่นเอง ร้านสีเหลือง มองเห็นเด่นชัดเลย..มีจักรยานให้เช่าคิดเป็นชั่วโมงละ 10 บาท หรือ จะคิดเป็นวันก็ได้ ในราคา 50 บาท (ซึ่งถ้าจะปั่นเกิน 5 ชั่วโมง ก็เหมาเป็นวันไปเลยครับ)เส้นทางปั่น จะปั่นเลียบริมฝั่งโขง โดยใช้ ถ.สุนทรวิจิตร ซึ่งติดกับแม่น้ำโขงเลย มีแบ่งเลนให้จักรยานปั่นด้วยครับ (สีเข้มๆ) ในภาพ และ ที่เที่ยวต่างๆ ก็อยู่ติดริมโขง แต่ละที่ตั้งไม่ห่างกันมาก ทำให้การ #ปั่นริมโขง ได้บรรยากาศมากๆ
เป็นตึกสีเหลืองตั้งเด่นเห็นมาแต่ไกลครับ
ใครชอบถ่ายรูป..ไม่น่าพลาดนะ! ^^
น้ำจิ้มเขาเด็ดจริงๆ นะครับ แซ่บ!
สุดท้าย..ผมชอบตรงนี้นะ ที่ล้างมือ ล้างเสร็จมีผ้าเช็ดมือใหม่ๆ มาให้เช็ดโดยไม่ต้องใช้ซ้ำกับใคร มีสบู่นานาชนิด ไว้ล้างมือ ไม่มีกลิ่นติดมือแน่นอน.. สามารถปั้นข้าวเหนียว จกส้มตำกันได้เต็มที่เลย อิอิ!
โต๊ะตัวนี้ สามารถมานั่งถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้ด้วยนะครับ!มีนิทรรศการ ภาพเก่าเล่าขาน จัดแสดงภาพถ่ายที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองนครพนม มีทั้งประวัติศาสตร์และเรื่องราวความทรงจำของเมืองนครพนม นำเสนอเป็นวิดีโอ และสารคดี ที่น่าสนใจ และได้ความรู้ดีครับนครพนมมีวัฒนธรรมหลากหลาย มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ชนเผ่าต่างๆ มีประเพณีที่ดีงามสืบสานสัมพันธ์ 2 ฝั่งโขงของเก่า ของโบราณที่นำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์
จะล่องเรือ ชมวิว 2 ฝั่งโขง ไทย-ลาว ด้วยเรือลำนี้ครับ 50 บาทเอง..มีรอบเดียว 17.00 น ถ้าพลาดอดเลยนะ..อิอิ!
เมื่อล่องเลียบฝั่งไทยแล้วก็ข้ามไปล่องดูวิถีชีวิตของพี่น้องฝั่งลาวกันบ้างสายน้ำแห่งชีวิต.. วิถีชีวิต สองฝั่งแม่น้ำโขงได้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ชีวิตที่เรียบง่าย ช้าๆ ไม่รีบร้อน ของผู้คนริมฝั่งโขง ได้ความรู้ และ เพลิดเพลินกับบรรยากาศยามเย็นแบบนี้ มากครับ คุ้มค่าคุ้มราคา 50 บาทมาก ใครมานครพนมอย่าพลาดนะครับ! สนุกดี!
สิ่งสำคัญภายในวัดได้แก่ “พระธาตุนคร” ลักษณะขององค์พระธาตุมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ถือเป็นพระธาตุประจำวันเสาร์ (เป็นพระธาตุประจำวันเกิด ที่อยู่ในตัวเมืองไม่ต้องออกไปไกลเลยครับ) ภายในพระธาตุประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ถือเป็นปูชนียสถานที่เคารพสักการะของชาวนครพนม
ใกล้กันนั้นก็มี พระอุโบสถเก่าแก่สถาปัตยกรรมพื้นบ้านที่งดงามมากครับ
1 = หอนาฬิกา
2 = โรงแรมเฟิสท์
3 = โรงแรมตองเจ็ด
4 = ถนนคนเดิน
5 = ด่านตรวจคนเข้าเมือง(ข้ามไปลาว)
6 = วัดโอกาส
7 = ตลาดอินโดจีน
8 = ร้านสบายดี@นครพนม
9 = ร้านชิลล์ๆ ริมแม่น้ำโขง(จิบเบียร์)ตกดึก..ก็ได้เวลาตระเวณราตรีกันครับ.. เรามากันที่ “ถนนคนเดินนครพนม”(4) ครับ จะอยู่ที่ตรงบริเวณ “หอนาฬิกา” ..(1) ถ.สุนทรวิจิตร นี่เอง (สรุปแบบว่า อยู่แถวๆ หอนาฬิกานี่เป็นเหมือนศูนย์กลางการเที่ยวทุกที่เลย อิอิ) ถนนคนเดินจะมีเฉพาะ วันศุกร์ และ เสาร์ 2 วันเท่านั้นนะครับ ตั้งแต่ช่วงเย็นๆ ไปจนถึงประมาณ 3 ทุ่มครับ..
ได้เวลามา ช๊อป ชิม ชิลล์ กันแล้วพวกเรา..อิอิ!
จะมีการปิดถนนเพื่อให้ร้านค้าเข้ามาวางขายสินค้า ซึ่งก็มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ และยังมีอาหารการกินท้องถิ่นแซ่บๆ มากมายให้ได้ลองชิม ด้วยนะ
คนจะเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศยามเย็นใกล้ๆ ริมโขงแบบนี้ สบายๆ ครับ
อันนี้เด็กๆ คงชอบ วุ้นสีสันต่างๆ ในหลอด อันละ 1 บาท
คีบจุ่มลงไปในน้ำซุป เดือดๆ แค่แว๊บๆ สัก 4-5 วินาที ก็เอามาจิ้มน้ำจิ้มก่อนใส่ปาก เนื้อนุ่มเหนียว แบบว่าเนื้อหวานๆ ครับ .. อร่อยเลยครับ ปลาสดๆ แบบนี้!
ลองสั่งมาก่อนคนละ 1 ขวด
ชักเริ่มสั่งมาเยอะขึ้น แฮะ!
รู้สึกจะเริ่ม ลื่นปรื๊ดดด.. สงสัย ราตรีนี้ คงอีกยาวไกล 55+ ^^
[DAY 2] – ยามเช้าริมโขงนครพนม
และแล้ว..ไม่นานพระอาทิตย์ก็ขึ้นจากขอบฟ้า เริ่มต้นกับวันใหม่ที่แสนสดใส “ณ หาดทรายทองศรีโคตรบูร”
ยามเช้าอากาศค่อนข้างเย็น .. แอบเห็นสายหมอก ที่ทิวเขาฝั่งลาวด้วย อากาศ สดชื่น มากๆ เลยล่ะครับ ^^
2 = บ้านลุงโฮจิมินห์
3 = ทางไปสนามบิน
จากนครพนมจะข้ามไปฝั่งลาว ยังไง?
2 = ด่านตรวจคนเข้าเมือง
3 = เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน
จากนั้นก็เอาพาสปอร์ต มาซื้อตั๋วเรือข้ามไปครับ เที่ยวละ 60 บาท ก็จะมีใบเอกสารขาออกประเทศแจกมาด้วยครับ ก็กรอกข้อมูลส่วนตัวไปครับ
รอบเรือทั้งหมดครับ..เที่ยวสุดท้าย 18.00 น.
มานั่งอยู่ในท่าเรือด้านล่าง มีพี่น้อง ทั้งคนไทย คนลาว รออาศัยข้ามฝากกันเยอะเลยครับ
จากนั้นเรือก็มาก็ขึ้นเรือกันครับ .. บนเรือ มีแต่ที่นั่งที่เป็นเก้าอี้พลาสติกนะครับ (น่าจะเพื่อความสะดวกตอนขนส่งสินค้า) ขึ้นเรือช้าก็ได้ยืนครับ แต่ก็แค่ 15-20 นาที ยืนชมวิว แป๊บเดียว..ก็ถึงฝั่งประเทศลาวแล้ว
เดินออกมาจากด่านลาว แล้วเลี้ยวขวา จะเห็นวินรถสกายแล๊ป มีสกายแล๊ปจอดเพียบเลยครับ แนะนำว่าถ้าอยากเที่ยวสถานที่เที่ยวใน “คำม่วน” นี้ต้องมีเวลาสักครึ่งวันครับ แล้วเหมาสกายแล๊ปไปเที่ยวตามที่ต่างๆ เช่น ถ้ำ กำแพงหิน ตลาด วัด แบบนี้เป็นต้นครับ เพราะ แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวนั้นค่อนข้างที่จะอยู่ไกลกันพอสมควร และจำเป็นต้องเหมารถ หรือ เช่ารถเที่ยวเอาครับ แต่.. ถ้าอยากแค่ข้ามมาเที่ยว เอาบรรยากาศแบบผม นี่ก็ย่อมได้ครับ ข้ามมาเที่ยวเล่น ขำขำ เดินเล่นแถวๆ ด่าน สัก 1-2 ชั่วโมงแล้วค่อยกลับ ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง อิอิ!
มีร้านอาหารหลายร้านอยู่ที่ริมโขง บรรยากาศรู้สึกจะดูสงบกว่าฝั่งไทยมากๆ (ฝั่งไทยว่าดูเงียบๆ แล้วนะ ที่นี่..ดูเงียบๆ กว่าอีกครับ 55)
สามสาวน้อย ซื้ออะไรกันอยู่หนอ?
มาประเทศลาว ก็ต้องสั่ง “เบยลาว” สิ!
มีโอกาสไปเที่ยวลาวทีไร..ต้องซื้อกินตลอดเลย “ไข่ข้าว”(เมื่อก่อนไม่กล้ากินเลยนะครับ.. หลังๆ เริ่มกล้าลอง จนชินมาเรื่อย..ๆ 55+) สั่งไป 2 ฟอง ครับ 5000 กีบ (20 บาท)
ทีเด็ดเลย แกล้ม เบยลาว อย่างดี อิอิ!
ริมโขงฝั่งลาวนี้ ค่อนข้างที่สงบ กว่าฝั่งไทยมาก ถ้ามีโอกาสลองข้ามมาเที่ยวดูเล่นๆ สักครั้งก็ได้นะครับ
แล้วก็เดินลงไปที่ท่าเรือครับ .. ตอนขาลงนี่สบายหน่อย แต่ก็ชันเหมือนกันนะครับ ท่าขึ้นเรือที่ฝั่งลาว ดูเล็กๆ กว่าที่ฝั่งไทย เหมือนกันนะ..
ลงมารอที่ท่าเรือ.. ที่นี่ก็ยังมีการ ขนส่งสินค้ากันอยู่ตลอดเวลาเลยครับ ระหว่าง ไทย-ลาว
ไม่นานก็ได้นั่งเรือกลับฝั่งไทยแล้วครับ
กลับมาสู่ “นครพนม” ป้ายเห็นเด่นชัด!
สรุปถ้าจะข้ามไปฝั่งลาว(แบบมีพาสปอร์ต) ต้องมีงบ 200 บาท อย่างต่ำครับ..!! (ค่าเรือไป-กลับ 120 บาท ค่าธรรมเนียมด่านลาว เข้า-ออก 80 บาท)
แผนที่นครพนม
1 = ตลาดอินโดจีน
2 = ที่พักริมโขงปันสุข(ตำถาดครูริน)
3 = วัดมหาธาตุ
4 = ข้าวเกรียบปากหม้อศรีเทพ
5 = ร้านเหรียญทอง(ของฝาก)
มาที่ ร้านข้าวเกรียบปากหม้อศรีเทพ (4) ครับ ปากหม้อขึ้นชื่อของนครพนมเลย ราคาไม่แพง ร้านอยู่ที่ ถ.ศรีเทพ ตรงข้าม โรงแรมศรีเทพ เลยครับ สังเกตง่ายๆ
เมนูปากหม้อแบบต่างๆ
ทำแบบสดๆ ร้อนๆ เลยครับ
ข้าวเกรียบกรอบๆ กับ แป้งบางนุ่ม + ไส้ อันแสนอร่อย
ภาพนี้..กำลังทำปากหม้อใส่ไข่ ครับไม่นานก็เสร็จ พร้อมเสริฟ..น่ากินมั้ยครับ? บีบมะนาวใส่น้ำจิ้มหน่อย.. อร่อยเด็ดเลยล่ะครับ!!“ข้าวเกรียบปากหม้อ” – ข้าวเกรียบกรอบๆ อร่อยไม่แพ้กัน.. ^^
เมนูอาหารแซ่บ..ๆ..ครับ
สั่งตำถาดมาครับ..ออฟชั่นเพียบ คุ้มราคา ^^
แถมบรรยากาศก็ดี การตกแต่งร้านก็น่านั่งครับ เป็นทั้งร้านอาหาร ร้านส้มตำ และร้านกาแฟ ในร้านเดียวกันเลยครับ..
สุดท้ายนี้.. ก็ขอขอบคุณ เพื่อนๆ ทุกท่านที่เปิดเข้ามาชม มาอ่านรีวิวนี้นะครับ ถ้ามีข้อมูลใด หรือ อะไรที่ผิด พลาดไป ไฉไลแบ็คแพ็คเกอร์ ก็ ขออภัย ไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะครับ อย่าลืม “แชร์” รีวิวนี้ชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวนครพนมกันเยอะๆ นะครับ มีโอกาสคงได้เจอกันอีกนะ บ๊ายยย..บายยย.. นครพนมสวัสดี! (-/\-)
พิเศษ!! แจก Code ส่วนลด Booking.com 550 บาท(เมื่อจองที่พักขั้นต่ำ 1,100 บาท ขึ้นไป) สามารถจองผ่านลิ้งค์นี้ เพื่อรับเครดิตเงินคืนได้เลย! >> https://www.booking.com/s/44_6/kowit999