#เชียงคาน :: เชียงคาน ประมาณนั้นแหละ!

SHARE!

จะพาไปเที่ยว “เชียงคาน” กัน..!!

 

เริ่มต้นเดินทางจาก ดอนเมือง สู่ สนามบินเลย ซึ่งเป็นสนามบินเล็กน่ารักดี มีรถตู้สนามบินของ AirAsia รับ-ส่ง สนามบินเลย-เชียงคาน ด้วย เที่ยวละ 250 บาท ราคาเท่ากันทั้งไปและกลับ จะว่าไปก็สะดวกดี ลงเครื่องก็นั่งยาวๆ ไปเชียงคานได้เลย!

0

 

สะบายดี ริมโขง

ใช้เวลาเดินทาง เพียงชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึง เชียงคาน สิ่งแรกเลย คือ มานั่งเล่นเอาบรรยากาศริมโขง แม้ตอนนี้จะดูอากาศร้อน แดดแรงไปซะหน่อย แต่อีกไม่นานก็คงดีกว่านี้

1

บรรยากาศริมโขงที่เชียงคานจะดีมากในช่วงเย็นๆ คนมาเที่ยวจึงนิยม เช่าจักรยาน มาปั่นเล่นกัน ตามเส้นทางเลียบฝั่งโขง ชมบรรยากาศ วิถีชีวิต สองฝั่งแม่น้ำโขง

2

และ ริมโขงนี่เอง ที่สามารถ ชมพระอาทิตย์ตก ได้สวยเหมือนกันนะ

3

4

 

ช้อป.. ชิม.. ชิล.. ถนนคนเดินเชียงคาน

ตกช่วงกลางคืน “เชียงคาน” ก็จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้วยบรรดาร้านค้า ร้านอาหาร ต่างๆ มาวางแผงขาย ให้เลือกซื้อสินค้า และของที่ระลึกกลับไปเป็นของฝากกัน

6

อาหารอร่อยๆ ที่ ถนนคนเดินเชียงคาน แห่งนี้ก็มีให้ลองเช่นกัน อย่าง “ข้าวจี่” ร้อนๆ ก็น่าสนใจ

7

หรือ จะเป็น กุ้งแม่น้ำโขงเสียบไม้ย่าง โรยเกลือ บางๆ ก็ได้อารมณ์ เหมือนกัน

8

อีกหนึ่งเมนู ที่ไม่น่าพลาด นั่น คือ “ไข่กระทะ” มีเห็นหลายร้านเลยล่ะ ก็ลองเลือกนั่งได้เลย นอกจากขายตอนกลางคืน แบบนี้แล้ว ตอนเช้าเขาก็เปิดขายเหมือนกันนะ หากินได้ทั้งวันทั้งคืนเลย ว่างั้นไป!

9

หน้าตาของ “ไข่กระทะ” ก็อร่อยใช้ได้อยู่ แต่รู้สึกว่าเหมาะจะไว้กินตอนเช้ามากกว่านะ กินพร้อมกาแฟ ตอนเช้าๆ คงเข้ากันดี

10

 

ตื่นเช้า.. นั่งสกายแล็ปไป ภูทอก

เช้าวันใหม่ อากาศเย็น สบายๆ…โปรแกรมต่อไป จะไปขึ้น “ภูทอก” และ ชม “แก่งคุดคู้” กัน โดยติดต่อรถสามล้อสกายแล็ป เขาคิดราคาต่อคน ราคาคนละ 100 บาท รับส่ง ไป-กลับ จากที่พักเลย มารับแต่เช้า ประมาณ ตี 5 ครึ่ง โดยจะออกเดินทางขึ้นไปบนภูทอก  ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง (ถ้าไม่ได้ขึ้นภูทอก ตอนเช้าๆ จะรอใส่บาตรก็ได้นะ แต่คงต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งกันล่ะ)

11

มาถึงที่ภูทอก… ต้องลงมาเปลี่ยนรถสำหรับขึ้นไปข้างบนอีกที เป็นรถกระบะ  ต้องเสียค่ารถอีกคนละ 25 บาท จะมีรถขึ้นลงได้ตลอด จะนั่งคันไหนกลับก็ได้ ไม่ต้องรอคนเต็ม ออกได้ตลอดเวลา รถจะพาขึ้นคดเคี้ยวตามเขา ไปสักพักก็จะถึงยอดภูทอก ไปพบกับภาพ บรรยากาศ สบายๆ

12

เสียดาย ที่วันนี้..สภาพอากาศไม่อำนวยให้เกิด ทะเลหมอก จึงทำได้แค่ชมบรรยากาศที่สดชื่น และ ยืนมองพระอาทิตย์ ค่อยๆ ขึ้นจากขอบฟ้า เท่านั้น

13

14 15

 

บรรยากาศดีๆ ที่.. แก่งคุดคู้

พอชมบรรยากาศยามเช้ากันได้ที่แล้ว ก็นั่งรถลงมาจากภูทอก ด้วยรถกระบะคันเดิม ลงมาส่งตรงจุดเดิมที่ขึ้นไป แล้ว…ก็ต่อรถสกายแล็ปที่จอดรอรับอยู่ไปที่แก่งคุดคู้กันต่อ ซึ่ง “แก่งคุดคู้” เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง มีกระแสน้ำไหลผ่านไปเพียงช่องแคบ ๆ และเชี่ยว เวลาที่เหมาะชมแห่งคุดคู้ที่สุด คือ ช่วงเดือนเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็น เกาะแก่งต่าง ๆ ชัดเจน

16

ที่นี่จะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านริมสองฝั่งโขง โดยใช้เวลาอยู่ที่นี่พอสมควร เดินเล่นชมบรรยากาศ ก่อนนั่งรถสกายแล็ปคันเดิม กลับไปส่งในตัวเชียงคาน

17

“เชียงคาน” ในปัจจุบันนี้อาจจะดูคึกคักมากกว่าเมื่อก่อน และดูเหมือนว่าจะเจริญขึ้นมาก แต่ก็ยังเป็นเมืองที่น่ามาพักผ่อนริมโขง เมื่อมีโอกาส

18 19

“เชียงคาน” มีอะไรอีกเยอะแยะมากมาย นอกเหนือจากที่กล่าวไป ก็อยู่ที่ว่า..แต่ละคนจะได้ไปสัมผัส พบเจอกับสิ่งใด แต่ก็คิดว่า สิ่งที่รับรู้ได้เหมือนๆ กัน นั้นก็คือ ความสบายใจ ยามได้มาพักผ่อนที่ริมโขง แห่งนี้ …

 

“เชียงคาน”… ก็ประมาณนั้นแหละ!

 


 

การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER

Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker

Instagram : CHAILAIBACKPACKER

Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9