เที่ยวประวัติศาสตร์ ณ กาญจนบุรี
กาญจนบุรี ถือเป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวของใครหลายคน เพราะเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ง่ายมากๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย แต่ที่ดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจเยอะมากที่สุดก็คงเป็น การล่องแพชมธรรมชาติ ที่มีให้เลือกทั้งแพลาก แพนอนพักค้างคืน ในแม่น้ำแคว หรือ ตามเขื่อนต่างๆ พร้อมกิจกรรมทางน้ำที่สร้างความสนุกสนานให้กับผู้ที่ไปเยือน..
ไหนๆ ไปเยือน กาญจนบุรี ทั้งที แนะนำให้พักค้างสักคืน ซึ่งก็มี บ้านพักกาญจนบุรี ให้เลือกจอง เลือกพัก อย่างมากมาย..
นอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ดังกล่าวแล้ว กาญจนบุรี ก็ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าเรียนรู้ อย่างที่ทราบกันดีกับประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งแม้เวลาจะผ่านมานานพอสมควรแล้ว แต่ในบางสถานที่ก็ยังทิ้งร่อยรอยของความโหดร้ายของสงครามอยู่ เป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่ทิ้งให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ ซึ่งใน จังหวัดกาญจนบุรี ก็มีแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์อยู่ในหลายจุดเช่นกัน และทริปนี้จะพาเดินทางไปเที่ยวใน สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดกาญจนบุรีกัน!
จองที่พัก กาญจนบุรี ราคาประหยัด ได้ที่นี่!
สำหรับใครอยาก จองที่พัก กาญจนบุรี ก็สามารถจองได้ มีที่พักให้เลือกมากมาย หลากหลายราคา จองง่าย ชำระเงินได้หลายช่องทาง สะดวกมากๆ เข้าไปเลือกที่พักและจอง กดด้านล่างนี้ได้เลยครับ!
การเดินทางจาก กรุงเทพฯ สู่ กาญจนบุรี
จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ห่างจาก กรุงเทพฯ โดยใช้เวลาในการขับรถส่วนตัวประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง แต่การเดินทางที่ดูสะดวก รวดเร็ว และได้รับความนิยม ก็คงจะเป็นการเดินทางด้วย รถตู้โดยสาร ที่ออกเดินทางจาก สถานีขนส่งเอกมัย หรือ สายใต้ใหม่ สามารถเลือกไปขึ้นได้ตามสะดวก ค่าโดยสารประมาณ 100-120 บาท และถ้าหากมีเวลา ไม่เร่งรีบอะไรมากนัก การนั่ง รถไฟ ไปเที่ยวกาญจนบุรีนั้น ก็ได้อารมณ์ไปท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ดีเหมือนกัน
หากจะขึ้นรถไฟไป กาญจนบุรี ต้องไปขึ้นที่ สถานีรถไฟธนบุรี มีรถไฟไปกาญจนบุรีอยู่ 2 เที่ยว คือ เวลา 07.50 น. และ 13.55 น. เป็นขบวน สถานีธนบุรี – สถานีน้ำตก แนะนำให้ขึ้นเที่ยวเช้า 07.50 น. จะไปถึง สถานีรถไฟกาญจนบุรี เวลา 10.25 น. จะได้มีเวลาเที่ยวกำลังดี
ถ้าตั้งใจจะเที่ยว สะพานข้ามแม่น้ำแคว สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีอยู่แล้ว ให้นั่งเลย สถานีกาญจนบุรี มาเลือกลงที่ สถานีสะพานแควใหญ่ จะดูสะดวกกว่า เพราะสามารถลงรถไฟแล้วเดินไปเที่ยวสะพานข้ามแม่น้ำแควได้เลย
ปั่นวนไป ใน กาญจนบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวใน กาญจนบุรี โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์นั้น ต้องขอบอกว่า.. มีเยอะมากๆ แต่ก็สามารถเลือกเที่ยวเฉพาะบางสถานที่ที่สำคัญๆ และอยู่ไม่ห่างไกลกันจนเกินไป วิธีที่สะดวกและประหยัดที่สุด ก็คงเป็น การเช่าจักรยานปั่น ในราคาวันละ 50 บาทเท่านั้นเอง สามารถหาร้านเช่าได้บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแควนั่นเอง ซึ่งเปิดบริการให้เช่าอยู่หลายร้าน หรือ ถ้าหากกลัวเหนื่อย กลัวร้อน ก็อาจจะเช่ารถมอเตอร์ไซค์ในการเที่ยวก็ได้ รวมไปถึงหากมาหลายคน ก็เช่ารถยนต์ ก็ดูคุ้มค่าดี!
หัวรถจักรเก่า สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อเดินทางมาถึง สถานีสะพานแควใหญ่ ข้างๆ สถานีจะสังเกตุเห็น หัวรถจักรไอน้ำเก่า สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่หลงเหลือมาให้คนรุ่นหลังได้ชม ซึ่งจะว่าไปก็ดูสวยงามและคลาสสิคดีเหมือนกัน
สะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่นี่..มีประวัติศาสตร์
เดินไม่ไกลจาก สถานีสะพานแควใหญ่ มาที่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว สถานที่ท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี ที่นี่จะได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเยี่ยมเยียนที่สะพานแห่งนี้ตลอดทั้งวัน แต่ถ้า..อยากได้บรรยากาศดี ควรมาในช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็น ที่สภาพอากาศไม่ร้อนจนเกินไปนัก
สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นอนุสรณ์สถานที่ทิ้งร่อยรอยความโหดร้าย ของ สงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2484 – 2488) มีประวัติความเป็นมาว่า.. “ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น กองทัพญี่ปุ่นต้องการสร้างทางรถไฟ เพื่อเป็นเส้นทางยุทธศาตร์ในการลำเลียงอาวุธสงคราม และทหารไปยัง พม่า รวมระยะทางทั้งหมด 415 กิโลเมตร โดยเริ่มสร้างจากสถานีหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ไปยังด่านเจดีย์สามองค์ เพื่อเชื่อมกับทางรถไฟพม่า โดยใช้แรงงานจากเชลยศึกสงครามซึ่งในขณะนั้นมีทั้งชาวอังกฤษ อเมริกัน ฮอลันดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ กว่า 60,000 คน รวมทั้งแรงงานรับจ้างชาติอื่นๆ ที่ถูกเกณฑ์มาอีกหลายคนเพื่อมาสร้างเส้นทางรถไฟแห่งนี้”
สะพานข้ามแม่น้ำแคว เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2485 ใช้เวลาในการสร้างเพียง 1 เดือน เคยถูกระเบิดจนได้รับความเสียหายแต่ก็ได้รับการซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ จนพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบัน
บริเวณเชิงสะพานแม่น้ำแคว จะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว รวมไปถึงบริการเหมาเรือชมแม่น้ำแคว
ในยามค่ำคืน สะพานข้ามแม่น้ำแคว ก็จะได้บรรยากาศไปอีกแบบ ตัวสะพานก็จะถูกประดับด้วยไฟ สามารถมาเดินเล่น นั่งเล่น ชมบรรยากาศกันได้
สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก
จาก สะพานข้ามแม่น้ำแคว มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี ราว 3 กิโลเมตร ก็จะมาพบกับอีกหนึ่งสถานที่สำคัญ ก็คือ สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก ซึ่งแนะนำให้มาเข้าชมในช่วงเวลายามเย็นที่อากาศไม่ร้อนมาก
สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2488 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง มีพื้นที่ประมาณ 17 ไร่ เป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านได้อุทิศให้เป็นสถานที่บรรจุศพทหารเชลยศึกบางส่วนที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างทางรถไฟจากกาญจนบุรีไปถึงพม่า
สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก มีหลุมศพถึง 6,982 หลุม มีแผ่นป้ายจารึกชื่อ อายุ ประเทศของผู้เสียชีวิต และคำไว้อาลัย
พื้นที่ภายในดูสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีผืนหญ้า ต้นไม้ และไม้ดอกต่างๆ ที่ประดับอยู่ข้างหลุมศพ
สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก เปิดให้เข้าชมทุกวัน 8.00 น.- 17.00 น. โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งนี้ ก็มีข้อควรปฎิบัติสำหรับผู้ที่จะมาเข้าชม คือ ควรเข้าเยี่ยมชมด้วยอาการสงบ เคารพต่อสถานที่ / ไม่ควรเดินข้ามหลุมศพ / ไม่ควรส่งเสียงดัง / ไม่หยอกล้อ หรือ วิ่งเล่นในบริเวณสุสาน / ไม่นำอาหารเครื่องดื่มเข้าไปรับประทาน เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย – พม่า
พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย – พม่า อยู่ติดกับ สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก สามารถเดินข้ามถนนเล็กๆ เข้าไปชม พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย – พม่า ได้ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงภาพถ่าย และวิดีทัศน์ประวัติศาสตร์ในการสร้างทางรถไฟสายไทย-พม่า เริ่มตั้งแต่การเข้ามาของกองทัพญี่ปุ่น วิธีการออกแบบสร้างทางรถไฟ ชีวิตความเป็นอยู่ในค่ายเชลยศึก รวมไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางรถไฟสายมรณะแห่งนี้
พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย – พม่า เปิดให้เข้าชมทุกวัน 09.00 น. – 17.00 น. โดยมี ค่าเข้าชมสถานที่ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท มีบริการพาทัวร์เส้นทางรถฟสำหรับผู้ที่สนใจอีกด้วย
เส้นทางรถไฟสายไทย – พม่า ระยะทาง 415 กิโลเมตร ที่ทหารเชลยศึกได้ก่อสร้าง เพื่อเชื่อมต่อระหว่างทางรถไฟฝั่งไทย ขนส่งเสบียงอาหาร อาวุธ และเชลยศึกไปยังพม่า โดยตลอดเส้นทางที่ก่อสร้างนั้น ก็จะเป็นหุบเขา และภูเขา ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ยากลำบากของเหล่าเชลยศึกเป็นอย่างมาก รวมไปถึง โรคภัยต่างๆ และการขาดแคลนอาหาร ทำให้ในระหว่างการก่อสร้างเส้นทางรถไฟ มีเชลยศึกเจ็บไข้ได้ป่วย และล้มตายไปเป็นจำนวนมาก
เรื่องราวของเส้นทางรถไฟสายนี้ได้ถูกนำไปสู่การสร้างภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่ อย่างเช่น เรื่อง The Railway Man ที่ถูกถ่ายทอดจากเรื่องจริงของการสร้างทางรถไฟสายมรณะในประเทศไทย เล่าผ่านมุมมองนายทหารอังกฤษ นำแสดงโดยสองนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ อย่าง โคลิน เฟิร์ธ และ นิโคล คิดแมน ที่สามารถไปหาชมได้ สำหรับผู้ที่สนใจ
หอศิลป์ และ พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2
หอศิลป์ และ พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ห่างจาก สะพานข้ามแม่น้ำแคว ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2538 โดยรวบรวมเรื่องราว และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่หลงเหลือไว้ในสมัยสงคราม มาจัดแสดงใน หอศิลป์ และพิพิธภัณฑ์สงคราม แห่งนี้ ซึ่งเปิดเข้าชม ทุกวัน 7.00 น. – 18.30 น. ค่าเข้าชม 40 บาท
ตรงทางเข้า จะเห็นซากรถจักรไอน้ำของจริง ที่เคยใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ด้านในอาคารก็จะมีภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์สงคราม อาวุธ และ ภาพความเป็นอยู่ของเชลยศึกที่ถูกเกณฑ์ไปสร้างทางรถไฟ
อนุสาวรีย์ไทยานุสรณ์
อนุสาวรีย์ไทยานุสรณ์ ตั้งอยู่ติดกับ หอศิลป์ และ พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่ทหารญี่ปุ่นสร้างขึ้น เมื่อปี พศ.2487 ในขณะที่สงครามกำลังดำเนินอยู่ เพื่อคารวะแด่ดวงวิญญาณของเชลยศึก ที่เสียชีวิตจากการสร้างทางรถไฟสายมรณะ
อนุสาวรีย์ไทยานุสรณ์ มีความสูง 4 เมตร โดยมีคำจารึกเป็นภาษาไทย ญี่ปุ่น อังกฤษ จีน มาลายู และเวียดนาม เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้ล่วงลับ
นอกเหนือจากการได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ กาญจนบุรี มาตลอดทั้งวันแล้ว ก็สามารถมาผ่อนคลายกับบรรยากาศริมแม่น้ำแคว ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการมาชิลล์ริมแม่น้ำแควต้องเป็นช่วงยามเย็น ที่สามารถมาเดินเล่น หรือ ปั่นจักรยาน รับลมสบายๆ ได้เลย ทั้งนี้ สามารถเดินทางมาเที่ยว กาญจนบุรี ใน 1 วัน แบบไปเช้า – เย็นกลับ ได้อย่างสบาย หรือ ถ้าหากมีเวลาจะมาพักสักคืน ในกาญจนบุรีก็มีที่พักให้เลือกอย่างหากหลาย ตามความต้องการ ซึ่งสามารถเข้าไปจอง ที่พักกาญจนบุรี ได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/region/kanchanaburi-10000176 จองง่าย จ่ายได้หลากหลายช่องทาง จ่ายผ่านบัตรเครดิตไม่เสียค่าธรรมเนียม สะดวกสบายมาก
การได้เดินทางมาท่องเที่ยวประวิตศาสตร์เมืองกาญจนบุรี ทำให้ได้ความรู้อะไรมากมายหลายอย่าง ได้เห็นถึงความโหดร้ายของสงคราม ต้องผ่านอะไรกันมามากมายกว่าจะเป็นอยู่อย่างสงบสุขอย่างเช่นปัจจุบันนี้
จังหวัดกาญจนบุรี ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์มากมายนอกเหนือจากที่พาเที่ยวไปในข้างต้น ทั้งในตัวเมืองกาญจนบุรี และในพื้นที่ต่างอำเภอที่อยู่ไกลออกไป ทั้งนี้.. สามารถวางแผนไปเที่ยวเองได้อย่างง่าย และเชื่อว่า.. หลังจากไปเที่ยวกลับมาต้องได้ประสบการณ์ และ ได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์เพิ่มเติมมาอย่างแน่นอน!
การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER
Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9