เที่ยว โอซาก้า กับ Vietjet บินตรงจากเชียงใหม่

SHARE!

ทริปแรกของปี 2023 ประเดิม เที่ยว โอซาก้า โดยเราได้มีโอกาสเดินทางกับสายการบิน Thai Vietjet ที่เพิ่งเปิดเส้นทางบินตรง จาก “เชียงใหม่” (CNX) สู่ “โอซาก้า” (KIX) ประเทศญี่ปุ่น มาได้ไม่นาน(เริ่มบินเที่ยวบินแรกตั้งแต่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา) ทำการบิน 3 เที่ยวบิน/สัปดาห์

สำหรับใครที่อยู่เชียงใหม่ (หรือโซนภาคเหนือ) สามารถไปเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างสะดวกเลย

VIETJET เส้นทางบิน เชียงใหม่ – โอซาก้า

ณ สนามบินเชียงใหม่ เรามาเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบิน Vietjet ซึ่งจะเปิดก่อนเวลา 3 ชั่วโมง ซึ่งก็มีผู้โดยสารมารอเช็คอินอยู่พอสมควร โดยระหว่างเช็คอิน ก็จะมีพนักงานมาคอยดูแลให้คำแนะนำต่างๆ รวมใช้เวลาไม่นานก็เช็คอิน และโหลดสัมภาระเสร็จเรียบร้อย

ตารางบิน “เชียงใหม่ – โอซาก้า” เที่ยวบินเวลา 23.00 น. และจะถึงปลายทางที่ “โอซาก้า” ตามตารางเวลา 06.00 น. ไปถึงเช้าได้เที่ยวต่อพอดี

ตารางบิน (3 เที่ยวบิน/สัปดาห์)

● ขาไป CNX – KIX : VZ822 : 23.00 – 06.00(+)

● ขากลับ KIX – CNX : VZ823 : 08.30 – 13.05

จองได้ที่ : https://th.vietjetair.com

และ ในระหว่างการเดินทาง จะมีพนักงานมาคอยให้บริการ และมีบริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน(Sky Cafe’) ที่สามารถเลือกเมนูอาหารได้ตามความชอบ เดินทางถึงจุดหมาย “โอซาก้า” ได้อย่างสะดวกสบาย

จากสนามบินเข้าเมือง โอซาก้า

การเดินทาง เข้าเมือง “โอซาก้า” จากสนามบินนานาชาติคันไซ(Kansai International Airport) ด้วยรถไฟ Hello Kitty Haruka ธีมคิตตี้น่ารักมุ้งมิ้ง

Remark : สามารถใช้ JR Pass อย่างเช่น Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass ขึ้นได้เลย(Non-reserved) โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที เท่านั้น สะดวก รวดเร็วมาก

Hello Kitty Haruka เป็นรถไฟลายน่ารักในธีม Hello Kitty ที่ภายนอก และ ภายในตัวขบวนรถไฟถูกตกแต่งด้วยลายคิตตี้น่ารักๆ โดยรถไฟจะวิ่งจากสนามบิน เข้าสู่เมือง “โอซาก้า” ไปลงที่ สถานีรถไฟ Shin – Osaka และ รถไฟจะไปสุดสายที่ สถานี Kyoto Station ซึ่งถ้าใครมีแพลนไปเที่ยว “เกียวโต” ก็สามารถนั่งยาวๆ ได้เลย

ภายใน ตู้โดยสารจะมีที่นั่งเป็นลายคิตตี้ และหน้าต่าง รวมถึงพื้นที่รอบๆ ก็จะมีลวดลายคิตตี้ตกแต่งไว้อยู่ นั่งสบาย มีที่สำหรับวางกระเป๋าเดินทาง ซึ่งรอบที่เราเดินทางมานี้ ผู้โดยสารน้อยมาก เหมือนได้เหมาตู้โดยสารส่วนตัวเข้าเมืองเลยทีเดียว(รอบรถไฟที่เป็น Hello Kitty Haruka ในแต่ละรอบ อาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถสอบถามจากเจ้าหน้าที่ได้นะ)

พาส เที่ยว โอซาก้า สุดคุ้ม Osaka Amazing Pass

“Osaka Amazing Pass” พาสสุดคุ้มเที่ยว “โอซาก้า” ใช้เข้าชมสถานที่ได้ฟรี โดยสารรถไฟใต้ดินได้ไม่อั้น ของมันต้องมี!

ทริปนี้ เที่ยวโอซาก้า โดยใช้พาส Osaka Amazing Pass พาสสุดคุ้มที่หลายคนรู้จักกันดี สามารถใช้ขึ้นขนส่งสาธารณะภายใน โอซาก้า ได้อย่างไม่จำกัดเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น รถไฟใต้ดิน รถประจำทาง หรือ เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในเมืองโอซาก้าได้มากกว่า 40 แห่งฟรีอีกด้วย ไปเที่ยว “โอซาก้า” ทั้งทีต้องจัดให้คุ้มนะ!

Osaka Amazing Pass มี 2 แบบ

● 1 วัน : 2,800 เยน

● 2 วัน : 3,600 เยน

(แนะนำแบบ 2 วันครับ คุ้มดี เที่ยวแบบจุกๆ สามารถซื้อล่วงหน้าได้อีกด้วยนะ!)

ซื้อ Osaka Amazing Pass ออนไลน์ ได้ที่นี่ : https://shorturl.asia/RU2aE

OSAKA CASTLE

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) แลนด์มาร์คแห่ง เมืองโอซาก้า และ จุดชมวิวเมืองมุมสูง แบบ 360 องศา

ได้มาเที่ยว “โอซาก้า” อีกครั้ง ต้องแวะกลับมาชมความสวยงามของปราสาทโอซาก้า ในบรรยากาศเย็นสบายในช่วงหน้าหนาวแบบนี้

Osaka Castle สร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ 1583 แต่ตัวปราสาทที่เห็นในปัจจุบันนั้น เป็นปราสาทที่ถูกบูรณะเมื่อปี ค.ศ.1931 ที่มีความโดดเด่นสวยงาม

โดยก่อนจะเข้าชม “ปราสาทโอซาก้า” ก็ต้องซื้อตั๋วเข้าชมก่อน ซึ่งถ้ามีบัตร Osaka Amazing Pass ก็แสดงให้เจ้าหน้าที่ดูได้เลย สะดวกมาก

● ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน (บัตร Osaka Amazing Pass เข้าชมได้ฟรี!)

● การเดินทาง : จาก สถานีรถไฟใต้ดิน Tanimachi 4-chrome Station เดินต่ออีกประมาณ 15 นาที

ภายใน มีการจัดแสดง พิพิธภัณฑ์ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Museum) ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม โดยมีทั้งหมด 8 ชั้น ซึ่งในแต่ละชั้น ก็จะมีการจัดแสดงข้อมูลของปราสาทโอซาก้า ภาพวาด แบบจำลอง และข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณ สามารถเดินวนชมได้อย่างเพลิน (ในบางชั้นอย่างชั้นที่ 3 และ 4 มีห้ามรูปด้วยนะ)

แม้ว่า ตัวปราสาทมีถึง 8 ชั้น แต่ภายในก็มีลิฟท์บริการด้วยนะ (ซึ่งบางช่วงอาจมีคนรอใช้บริการเยอะมาก) โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยจัดคิวขึ้นลิฟท์ ให้ขึ้นไปชมชั้นด้านบนก่อน แล้วค่อยลงบันไดไล่ชมลงมาทีละชั้น หรือ ใครอยากออกกำลังกาย ก็ค่อยๆ เดินขึ้นบันได แล้วเที่ยวชมขึ้นไปทีละชั้น ก็ได้เช่นกัน

การจัดแสดง มีทั้งแบบ ภาพวาด แบบจำลองโมเดลขนาดเล็ก และมีวิดีทัศน์ฉายประวัติความเป็นมา ซึ่งแต่ละวันก็จะเห็นเด็กๆ มาทัศนศึกษากันอย่างมากมาย ถือแหล่งเรียนรู้ได้อย่างดีเลย

เมื่อขึ้นไปถึง ชั้นบนสุด (ชั้นที่ 8 คือ จุดชมวิว เมืองโอซาก้าแบบ 360 องศา ที่ระดับความสูง 50 เมตร มองเห็นบรรยากาศเมืองทั้งตึกน้อยใหญ่โดยรอบ บริเวณโดยรอบ

“ปราสาทโอซาก้า” จึงเป็นเหมือนแหล่งพักผ่อนบรรยากาศสบายๆ ของผู้คนในเมือง และ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวได้อย่างสะดวก เป็นสถานที่ที่สวยงาม มีมุมถ่ายรูปเยอะ แถมได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อีกด้วยนะ!

ใกล้กับปราสาทโอซาก้า(Osaka Castle) จะมี Osaka Castle’s Plum Grove สวนดอกบ๊วยที่อยู่ เป็นจุดชมดอกบ๊วยยอดนิยมในคันไซ

ภายในสวนมีดอกบ๊วยกว่า 100 สายพันธุ์ รวมประมาณ 1,270 ต้น โดยดอกบ๊วยจะเริ่มบานในช่วงต้นปี ให้ได้มาถ่ายรูปเล่นอีกด้วย

ใครมีแพลนทริป “โอซาก้า” ช่วงต้นปี ไปเที่ยวปราสาทโอซาก้าแล้ว อย่าลืมแวะไปชม แวะถ่ายรูปเล่น ในสวนบ๊วยที่อยู่ใกล้ๆ กันได้ บรรยากาศดีจริงๆ นะ

Tempozan Ferris Wheel

“Tempozan Ferris Wheel” ชมวิวมุมสูงของอ่าวโอซาก้า บนชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร!

กิจกรรมยามเย็น เมื่อมาเที่ยว “โอซาก้า” ก็ต้องมาขึ้นชิงช้าสวรรค์ ชมวิวอ่าวโอซาก้า ที่ Tempozan Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่มีความสูง 112.50 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร

● ค่าบัตร : 800 เยน(อายุ 3 ปีขึ้นไป) บัตร Osaka Amazing Pass ขึ้นได้ฟรี!

● การเดินทาง : จากสถานี Osakako Sta. บนสาย Subway Chuo Line เดินต่อประมาณ 5 นาที

จะใช้เวลาหมุนในแต่ละรอบ 15 นาที ค่อยๆ หมุนพาขึ้นไปยังจุดสูงสุด ที่สามารถ มองเห็นวิวโดยรอบได้ ชมวิวอ่าวโอซาก้ายามเย็นได้อย่างเพลินๆ

โดยเฉพาะวิวยามเย็นพระอาทิตย์ตก สวยงามสุดๆ อย่างชิลเลย

DOTONBORI

ย่าน DOTONBORI ที่เต็มไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย อะไรๆ ก็ดูน่ากินไปหมด!

● การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่ สถานี Namba Station (ทางออก 14)

มาเที่ยว #โอซาก้า ก็ต้องมาเดินเล่นย่าน #Dotonbori เดินเล่นชมบรรยากาศ หาอะไรกินเพลินๆ แม้จะเคยมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่เบื่อเลยนะ (ญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ 55+) ห่างหายจากการมาเยือนที่นี่ร่วม 3 ปี กลับมาครั้งนี้ ก็ดูบรรยากาศคึกคักขึ้นเยอะเลย

ได้เดินผ่านมาย่านนี้ทีไร เป็นอันต้องได้เสียตังค์ทุกที เพราะมีแต่ของน่ากิน เห็นอะไร ก็อยากลอง..กินนะ

Strawberry Candy (いちご飴) สตรอว์เบอร์รี่เคลือบน้ำตาล(500 เยน)

สตรอว์เบอร์รี่ลูกโต มีความกรุบกรอบของน้ำตาลที่เคลือบ ข้างในได้รสชาติสตรอว์เบอร์รี่หอมหวาน

“Takoyaki Juhachiban” ร้านทาโกะยากิ ในย่าน Dotonbori ทำกันแบบสดๆ ร้อนๆ

Takoyaki Juhachiban ร้านนี้..ที่คุ้นเคย เมนูที่ต้องซื้อกินประจำ เมื่อไปย่าน #Dotonbori อาจเป็นเพราะกลิ่นที่โชยมาจากร้าน จนอดใจไม่ไม่ไหวทุกที ยิ่งเห็นคนต่อคิวเยอะๆ ยิ่งอยากไปยืนต่อแถวซื้อกับเขาด้วย

หลายคนที่เคยมา #โอซาก้า คงคุ้นเคยกับร้านนี้เป็นอย่างดี และ ไม่พลาดลองชิมกันแล้วเนอะ

วิธีการซื้อ : ต่อแถวเข้าคิวเพื่อซื้อคูปองที่ตู้อัตโนมัติ / เลือกเมนูที่ต้องการ / แล้วยื่นคูปองให้กับพนักงาน / จากนั้น ก็รอ Takoyaki ร้อนๆ ได้เลย ราคาเริ่มต้น ที่ 500 เยน

● 6 ชิ้น = 500 เยน

● 8 ชิ้น = 650 เยน

● 10 ชิ้น = 800 เยน

นอกจากนี้ ยังมีแบบเพิ่มท้อปปิ้งโรยหน้าต่างๆ ที่ราคาจะแตกต่างกันไปด้วยนะ อยากลองชิมแบบไหนก็เลือกได้ตามความชอบ

SHINSEKAI

Shinsekai ย่านร้านอาหาร Kushikatsu ใกล้กับหอคอย Tsukenkaku Tower มีเมนูคุชิคัตสึ เมนูเด็ดของเมืองโอซาก้า ที่ต้องมาลองชิม

Yokozuna Tsutenkaku shop ร้านคุชิคัตสึ (Kushikatsu) ใจกลางเมือง #โอซาก้า เมนูของทอดเสียบไม้สไตล์ญี่ปุ่น ที่จะใช้เนื้อสัตว์และผักชนิดต่างๆ มาหั่นเป็นชิ้นเสียบไม้ แล้วนำไปชุบแป้งทอดจนกรอบ เวลากินต้องจิ้มน้ำซอสที่มีรสชาติเข้มข้นด้วย(จิ้มได้แค่ครั้งเดียว) โดยจะเสิร์ฟมาพร้อมกับกะหล่ำปลีหั่นเป็นเครื่องเคียง

คุชิคัตสึ สามารถเลือกเนื้อสัตว์หรือผัก แบบสั่งเป็นไม้ก็ได้ หรือ ถ้าอยากลองแบบหลากหลายจะมาสั่งแบบเป็น Set ก็ได้ลองชิมหลายอย่างเหมือนกัน

นอกจากนี้ ก็ยังมีเมนูทานเล่นอื่นๆ และเมนูเครื่องดื่มแบบไม่อั้น อีกด้วย ใครพักแถว Shinsekai แล้ว หาร้านนั่งแบบปิดดึก ที่นี่ก็น่าสนใจดีนะ อย่างเพลิน

การเดินทาง จาก “โอซาก้า” กลับสนามบิน

วีธีการเดินทาง จาก “โอซาก้า” กลับสนามบิน Kansai Airport ไฟล์ทเช้า ด้วยรถไฟเที่ยวเช้าสุด(แบบไม่ต้องไปนอนรอที่สนามบิน)

สำหรับไฟล์ทเช้าที่เราเดินทางขากลับไทยเป็นเที่ยวบิน VZ823 โอซาก้า(KIX) – เชียงใหม่(CNX) เวลา 08.30 น. นอนในโอซาก้า แล้วตื่นเช้าหน่อย นั่งรถไฟเที่ยวแรก(Nankai Airport Line) ก็ทันสบายๆ นะ

ในส่วนของ ขากลับ โอซาก้า – เชียงใหม่ เป็นไฟล์ทเวลา 08.30 น. ซึ่งเวลาขากลับสนามบินเช้าๆ แบบนี้ หลายคนก็มักจะเลือกไปนอนที่พักใกล้ๆ สนามบิน หรือ ไปนอนสนามบินเลยก็มีเช่นกัน แล้วแต่ความสะดวก

แต่ถ้าใครไม่อยากรีบไปสนามบินก่อนล่วงหน้า อยากมีเวลาเที่ยวต่ออีกสักคืน(กินดื่มส่งท้ายทริป 55+) ก็เลือกกลับตอนเช้าก็ได้ เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

1. รถไฟที่ออกเช้าสุดจาก โอซาก้า ไปสนามบินนานาชาติคันไซ(Kansai International Airport) เป็นสาย Nankai Airport Line ออกจากสถานี Namba Station เที่ยวแรก 05.15 น. จะไปถึงสนามบิน 05.58 น.

2. คืนก่อนกลับสนามบิน จองที่พักใกล้กับสถานี Namba Station เพื่อความสะดวกในการเดินมาขึ้นรถไฟในตอนเช้า

3. เนื่องจาก Namba Station เป็นสถานีค่อนข้างใหญ่ อาจจะต้องใช้เวลาในการเดินหาชานชาลาขึ้นรถไฟ ผมเลยเลือกพักใกล้กับสถานี Shin-Imamiya Station ที่อยู่ถัดออกมา เป็นสถานีเล็ก ขึ้นรถไฟได้ง่ายกว่า ไม่สับสน ในช่วงเวลาที่เร่งรีบ

4. รถไฟเที่ยวแรกจะออกจาก สถานี Namba Station เวลา 05.15 น. และออกจาก Shin-Imamiya Station เวลา 05.17 น. ไปถึงสนามบิน เวลา 05.58 น. (ค่าโดยสาร 930 เยน)

5. สถานีรถไฟจะเปิดก่อนเวลา สามารถมาซื้อตั๋ว และไปรอที่ชานชาลาได้เลย(Nankai Airport Line ไปสนามบิน จะขึ้นรถไฟที่ชานชาลาหมายเลข 3)

เมื่อเดินทางมาถึง สนามบินนานาชาติคันไซ(Kansai International Airport) ก็เดินเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร ไปยังเคาน์เตอร์เช็คอินของ Vietjet ที่มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกอย่างดี เช็คอิน โหลดสัมภาระง่ายดีครับ ผู้โดยสารทยอยมาเรื่อยๆ ไม่แออัด และรอคิวไม่นาน แป้บเดียวก็ได้เข้าไปที่ Gate มีเวลาซื้อกาแฟนั่งจิบรอเวลาเครื่องออกเหลือๆ เลยนะ

สายการบิน Thai Vietjet เส้นทางบินตรงจาก “เชียงใหม่” (CNX) สู่ “โอซาก้า” (KIX) ประเทศญี่ปุ่น เริ่มบินเที่ยวบินแรกตั้งแต่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา ทำการบิน 3 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ใครอยู่เชียงใหม่ (หรือโซนภาคเหนือ) สามารถมาเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างสะดวกมาก

💻 จองได้ที่ : https://th.vietjetair.com