สุราษฎร์ธานี : เที่ยวใต้ เที่ยวง่าย (3 วัน 2 คืน)

SHARE!

Once in a Lifetime @ Surat Thani สุราษฎร์ธานี เที่ยวใต้ เที่ยวง่าย ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้สัมผัสวิถีถิ่นแดนใต้ เส้นทาง กรุงเทพฯ – สุราษฎร์ธานี (3 วัน 2 คืน)

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวพิเศษ “Once in a Lifetime @ Surat Thani” ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้สัมผัสวิถีถิ่นแดนใต้ เที่ยวภาคใต้ เส้นทาง กรุงเทพฯ – สุราษฎร์ธานี (3 วัน 2 คืน) สำหรับสมาชิก บัตรเครดิตท่องเที่ยว ธนาคารกรุงเทพ ที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรในระดับสูง (Top Spender) เดินทางแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ผู้ร่วมทริปจะได้รับบริการ และการดูแลอย่างดีตลอดการเดินทาง

ในเส้นทางท่องเที่ยว “สุราษฎร์ธานี” จะได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบ Local Experience ที่จะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนในชุมชน ลองชิมอาหารเมนูท้องถิ่น ร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และร่วมสนุกไปกับงาน Night Party สุดประทับใจ

สำหรับทริปสุดพิเศษในครั้งนี้ ผมก็ได้ร่วมเดินทางด้วยครับ โดยได้รับการดูแลอย่างดีจาก ทีมงาน Staff ที่คอยให้ข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยว และคอยอำนวยความสะดวก ดูแลให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดตลอดการเดินทางในเส้นทาง

โดยกิจกรรมท่องเที่ยวในครั้งนี้ ให้ความสำคัญและคำนึงถึงสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวได้รับมาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐาน Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) ที่ผู้ร่วมเดินทางสามารถมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว และมาตรฐาน Thailand Tourism Awards (TTA) ที่คำนึงถึงคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวด้วยมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

Top Spender Trip : “Once in a Lifetime @ Surat Thani” กิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก บัตรเครดิตท่องเที่ยว ธนาคารกรุงเทพ ที่มาร่วมทริปออกเดินทางไปเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ๆ และ มีช่วงเวลาดีๆ อันน่าจดจำไปด้วยกัน

 

DAY 1

เริ่มต้น ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ สนามบินดอนเมือง ผู้ร่วมทริปได้รับการต้อนรับแบบเอ็กซ์คลูซีฟ จาก ทีมงาน Staff ที่มาคอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

ผู้ร่วมทริปได้รับ อาหารว่าง และชุด Travel Kit ซึ่งภายในมี ร่มกันแดด, หน้ากากอนามัย, ชุดตรวจ ATK, สเปรย์แอลกอฮอล์ เพื่อสุขอนามัย

จาก สนามบินดอนเมือง ออกเดินทางสู่ สุราษฎร์ธานี ด้วยสายการบิน Thai Lion Air เดินทางสะดวกสบาย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

เมื่อมาถึง สนามบินสุราษฎร์ธานี ก็เดินทางต่อด้วยรถตู้ H1 (1 คัน ต่อ 4 ท่าน) ที่นั่งสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในรถครบ มีบริการ ของว่าง เครื่องดื่ม ผ้าเย็น เจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ ฯลฯ พร้อม ทีมงาน Staff คอยดูแลอย่างใกล้ชิดประจำรถทุกคัน เหมือนมี Butler ดูแลตลอดการเดินทาง

นอกจากนี้ ผู้ร่วมทริปยังได้รับของที่ระลึกสุดประทับใจอีกด้วย อย่างเช่น “กระเป๋าผ้าปาเต๊ะ” ผลิตภัณฑ์ Handmade ที่ตัดเย็บอย่างพิถีพิถันด้วยวิธีแบบโบราณ เพื่อความแข็งแรงทนทาน โดดเด่นด้วยลวดลาย และ สีสันสไตล์ชาวเกาะทะเลใต้ เนื้อผ้าจะนิ่มยิ่งขึ้นเมื่อผ่านการซัก สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย ช่วยลดโลกร้อน

และ “ชุดน้ำมันมะพร้าว” จาก สวนลุงสงค์ แห่งบางใบไม้ ซึ่งประกอบไปด้วย สบู่มะพร้าว บอดี้โลชั่น และน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวของชุมชน ภายใต้แบรนด์ “Prow Thai by สวนลุงสงค์” โดยใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นสารตั้งต้น ซึ่งเป็นการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ

 

ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี

สถานที่แรก เดินทางมาที่ “ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี” ซึ่งถ้าได้มาเยือน “สุราษฎร์ธานี” ทั้งที ก็ต้องแวะมาสักการะขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล

“ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง สุราษฎร์ธานี ตัวศาลสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรมุขย่อมุม มณฑปสร้างเป็นเจดีย์ องค์ประธาน มียอดฉัตร 5 ชั้น เป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัย ล้อมรอบด้วยสนามหญ้าบรรยากาศสงบ

ภายในมี องค์หลักเมือง ที่แกะสลักจากไม้ราชพฤกษ์ขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นเสากลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 20 นิ้ว ความสูง 108 นิ้ว โดย แกะสลักแบบศิลปะศรีวิชัย บนยอดมีพระพักตร์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสี่หน้า หันไปทั้งสี่ทิศ และตรงมวยพระเกศาสลักเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ พร้อมลงรักปิดทองสวยงาม

ผู้ร่วมทริป ได้รับ ชุดสำหรับไหว้ศาลหลักเมือง อันประกอบไปด้วย ดอกไม้ ธูป เทียน แผ่นทองคำเปลว และผ้าแพร สำหรับไหว้ผูกที่องค์พระหลักเมืองจำลอง เพื่อสักการะขอพรให้สมความตั้งใจ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี

  • ที่อยู่ : ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี 84000
  • เวลาเปิด : 06.00 น. – 20.00 น.
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/3J3zHGDWH1v2iC7B6

 

ร้านอาหารชมบาง

ได้เวลารับประทานอาหารกลางวัน แวะมาชิมความอร่อยกันที่ “ร้านอาหารชมบาง” ร้านขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของ สุราษฎร์ธานี ร้านอาหารใต้แท้ๆ ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก ชุมชนบางใบไม้ อยู่ติดริมคลอง บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย

เมนูอาหาร ใช้วัตถุดิบที่เป็นอาหารทะเล สด ใหม่และใช้วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น มาประกอบอาหาร ด้วยความตั้งใจ จากฝีมือแม่ครัวที่เป็นเจ้าของร้านเอง โดยมี เมนูแนะนำ อย่างเช่น แกงส้มออดิบปลากะพง, น้ำพริกกุ้งสด-ผักสด, ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา, ยำมะม่วง, หมูผัดกะปิ เป็นต้น ซึ่งรสชาติจัดจ้านแบบฉบับปักษ์ใต้ อร่อยทุกเมนู โดยเฉพาะ น้ำพริกกุ้งสด ถูกใจมากๆ เลยครับ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม ร้านอาหารชมบาง

  • ที่อยู่ : ตำบล คลองน้อย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี 84000
  • เวลาเปิด : 10.00 น. – 21.00 น.
  • โทร : 081 539 2860
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZZhAmEck3rxYGpX5A

 

วัดบางใบไม้

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเป็นที่เรียบร้อย ก็เดินทางมาที่ “วัดบางใบไม้” วัดที่ตั้งอยู่ในชุมชนบางใบไม้ สร้างขึ้นเมื่อสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ใน ชุมชนบางไม้ไผ่ ชุมชนเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี มีลำคลองสายเล็กๆ ไหลผ่าน เป็นสถานที่ศูนย์รวมจิตใจของผู้คนในชุมชนแห่งนี้

ภายในวัด มีวิหารที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อข้าวสุก” พระพุทธรูปปางสมาธิ ที่ปั้นจากข้าวก้นบาตร โดย หลวงพ่อขำ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางใบไม้ โดยสร้างขึ้นเพื่อขับไล่ภูตผี และสิ่งชั่วร้าย หลังจากนั้น เมื่อหลวงพ่อข้าวสุกองค์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้มีการหล่อทองแดงหุ้มองค์พระ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้ศรัทธาได้สักการะมาจนถึงปัจจุบัน

บริเวณใกล้เคียงกับวัดมีพื้นที่ของ “ตลาดบางใบไม้” ที่เปิด ทุกวันอาทิตย์ โดยจะมีร้านค้าชุมชน ตั้งเรียงรายในบรรยากาศริมคลองอันร่มรื่น มีทั้งอาหาร ของฝาก ของที่ระลึก สินค้าท้องถิ่น ให้ได้เลือกซื้อ เลือกชม กันอีกด้วย

 

ข้อมูลเพิ่มเติม วัดบางใบไม้

  • ที่อยู่ : ตำบล บางใบไม้ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี 84000
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/dgarDuZPmaPetDJu5

 

ล่องเรืออุโมงค์ต้นจาก

ท่าเรือของวัดบางใบไม้ เป็นจุดเริ่มต้นของ การล่องเรืออุโมงค์ต้นจาก กิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่ได้ชมธรรมชาติ และวิถีชีวิตของคนในชุมชน

“อุโมงค์ต้นจาก” เป็นลักษณะของต้นจากที่ขึ้นอยู่มากในบริเวณนี้ มีส่วนของใบที่โค้งเข้าหาลำคลองทั้งสองฝั่ง เหมือนเป็นอุโมงค์ทอดตัวยาว ให้เรือค่อยๆ ลอดเข้าไป ได้บรรยากาศความเป็นธรรมชาติ

บรรยากาศในการล่องเรือ จะพบกับลำคลองที่แตกสาขา เป็นคลองน้อยใหญ่หลายสาย ได้ชมธรรมชาติ ได้เห็นสัตว์น้ำตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ตามลำคลอง นับได้ว่าเป็นกิจกรรมไฮไลท์ ของการมาเยือนชุมชนแห่งนี้

 

สวนลุงสงค์

ล่องเรือผ่าน อุโมงค์ต้นจาก มาสิ้นสุดที่ “สวนลุงสงค์” สวนมะพร้าวริมคลอง

“สวนลุงสงค์” แหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตชาวสวนมะพร้าว ที่เป็นผลผลิตในชุมชน ตั้งอยู่ริมคลอง บรรยากาศร่มรื่น ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงผู้ร่วมทริปก็ได้รับการต้อนรับด้วย ขนมโค ขนมท้องถิ่นหาทานยาก ทำมาจากมะพร้าวคล้ายขนมต้ม และ น้ำมะพร้าว เย็นชื่นใจ

ภายใน สวนมะพร้าว มีการสาธิต ลิงเก็บมะพร้าว ที่สามารถให้ลิงทำตามคำสั่ง เก็บมะพร้าวได้ตามความต้องการ

และ ยังมีการสาธิต การทำสบู่มะพร้าว ที่ผู้ร่วมทริปจะได้มีส่วนร่วมในการลองทำ ผ่านขั้นตอนต่างๆ จากวิทยากรที่มาให้ความรู้ และแนะนำอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ก็สามารถหาเลือกซื้อสินค้าแปรรูปจากมะพร้าว อย่างเช่น น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น, เครื่องสำอางต่างๆ ไว้กลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วยครับ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม สวนลุงสงค์

  • ที่อยู่ : บางใบไม้ เมือง สุราษฎร์ธานี 84000
  • เวลาเปิด : 08.30 น. – 17.00 น.
  • โทร : 081 589 8635
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/knATTgpSwjzcCy8N7

 

S.22 Hotel

ช่วงเย็น เดินทางเข้าสู่ S.22 Hotel ที่พักใจกลางเมืองสุราษฎร์ธานี ที่พร้อมให้บริการสุดพิเศษในช่วงเวลาของการพักผ่อน

S.22 Hotel ที่พัก เมืองสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เป็นที่พักที่ออกแบบสไตล์ Modern Loft ผสมผสานความเรียบง่ายและความทันสมัยไว้ด้วยกัน จนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ภายใน ห้องพัก สะอาด ตกแต่งและเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์อย่างลงตัว โทนสีห้องสบายตา เหมาะแก่การพักผ่อน มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น TV ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ พร้อมบริการ อาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ ซึ่งได้มาพักที่นี่ นอนหลับสบายมากเลยครับ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม S.22 Hotel

  • ที่อยู่ : เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี
  • โทร : 077 922 229
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/JixALyev7hUATqV59

 

Relaxing and Inspiring Night Party

ในค่ำคืนสุดพิเศษนี้ มีงานเลี้ยงสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับผู้ร่วมทริป ในธีม Relaxing and Inspiring Night Party โดยจัดที่ S.22 Hotel ที่จำลองบรรยากาศห้องจัดเลี้ยงให้เหมือนอยู่ใน ตลาดชุมชนใต้ ที่เรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า “หลาด” โดยจะนำเสนอด้วยของตกแต่งที่เป็นธรรมชาติ เพิ่มเติมสีสันที่เป็นของสวยงามของภาคใต้เช่น หนังตะลุง โนรา ซุ้มขนมท้องถิ่น และ ของเล่นพื้นบ้าน

เมื่อได้เวลาเริ่มงาน ผู้ร่วมทริปก็ทยอยเข้ามาในงานบริเวณจัดงานภายในโรงแรม มาถ่ายรูปกับ Photo Backdrop และร่วมรับประทานอาหารเย็น พร้อมกิจกรรมการประกวดการแต่งกายชุดท้องถิ่นภาคใต้ และกิจกรรมร่วมสนุกเล่นเกมแจกของรางวัลมากมาย

ชิมอาหารอร่อยขึ้นชื่อของ สุราษฎร์ธานี อย่าง “หอยนางรม” ตัวใหญ่ๆ สดๆ รวมถึงเมนูอาหารอื่นๆ อย่างเช่น หลนไตปลา ใบเลียงผัดกุ้งเสียบ แกงมัสมั่นไก่-โรตีกรอบ ปลากะพงทอดกระเทียม กุ้งเผา หมึกย่าง เป็นต้น

และที่ถือเป็นไฮไลท์ ก็คือ การได้ชมมินิคอนเสิร์ตจาก “แสตมป์ อภิวัชร์” ที่มาร้องเพลงเพราะๆ ให้ฟัง ช่วยสร้างสีสัน และความสนุกสนานให้กับผู้ร่วมทริปในค่ำคืนนี้ เก็บเป็นความประทับใจดีๆ กลับไป

 

DAY 2

จุดชมวิวเขื่อนรัชชประภา

เข้าสู่วันที่ 2 ของการเดินทาง หลังจากรับประทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อย ก็ออกเดินทางสู่ “จุดชมวิวเขื่อนรัชชประภา” มาชมวิวมุมสูงของสันเขื่อนที่โอบล้อมด้วยแนวทิวเขาสวยงาม

“เขื่อนรัชชประภา” มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “เขื่อนเชี่ยวหลาน” เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761 เมตร มีพื้นที่ส่วนใหญ่ติดอุทยานแห่งชาติเขาสกเกือบทั้งหมด

มีประโยชน์ ด้านการผลิตไฟฟ้า, การชลประทานเพื่อการเพาะปลูก, ช่วยบรรเทาอุทกภัย, การประมง และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกด้วย

จุดชมวิวเขื่อนรัชชประภา จะมองเห็นวิวของเขื่อนในมุมสูง ทั้งแนวสันเขื่อน ผืนน้ำ ที่โอบล้อมด้วยภูเขารอบด้าน สวยงาม เป็นจุดเช็คอินที่ต้องมาเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม จุดชมวิวเขื่อนรัชชประภา

 

แพพันวารีย์

จากนั้น ผู้ร่วมทริปได้ลงเรือพร้อมสวมเสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัย และมี Staff คอยดูแลประจำบนเรือทุกลำ โดยเรือจะล่องออกไปชมบรรยากาศรอบ เขื่อนรัชชประภา ซึ่งระหว่างทางก็จะได้พบกับวิวธรรมชาติที่สวยงาม และจะแวะขึ้นไปพักผ่อนที่ แพพันวารีย์

แพพันวารีย์ เป็นแพที่พักที่อยู่ใน เขื่อนรัชชประภา บริการที่พักสำหรับผู้ที่อยากมาพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติสงบเงียบ โอบล้อมด้วยผืนน้ำและทิวเขาหินปูน ตัวที่พัก ด้านหลังติดกับหน้าผาเขาสูง เบื้องหน้ามองเห็นวิวทิวทัศน์สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อน

แวะพักผ่อนรับประทานอาหารกลางวันกันที่ “แพพันวารีย์” แห่งนี้ โดยมี เมนูอาหารแนะนำ อย่างเช่น ปลาทอด แกงส้ม ผัดผักรวมมิตร น้ำพริกกะปิ – ผักสด เป็นต้น

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ก็เป็นเวลาของการพักผ่อน นั่งเล่นชมบรรยากาศ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ลงเล่นน้ำ หรือ จะลองพายเรือคายัคก็เป็นกิจกรรมที่สนุกดีนะ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม แพพันวารีย์

  • ที่อยู่ : เขื่อนรัชชประภา เขาพัง บ้านตาขุน สุราษฎร์ธานี 84250
  • โทร : 090 991 5995
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZdukWnD9P6wdUxEFA

 

ควนคางคก

“ควนคางคก” จุดแวะเช็คอินน่าสนใจของ เขื่อนรัชชประภา ที่อยู่ไม่ห่างจาก แพพันวารีย์ เท่าใดนัก ลักษณะเป็นเหมือนเนินดินริมเขาที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของ เขื่อนรัชชประภา ได้อย่างสวยงาม

ด้านบน “ควนคางคก” มีระเบียงไม้ทางเดินสำหรับชมวิวมุมสูง และมีที่นั่งสำหรับไว้นั่งพักผ่อนชมบรรยากาศ พร้อมมุมถ่ายรูปไว้บริการ

 

เขาสามเกลอ

จาก “ควนคางคก” ล่องเรือมาต่ออีกไม่ไกล ก็จะพบกับ “เขาสามเกลอ” ที่ถือเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยว เขื่อนรัชชประภา แห่งนี้ครับ

“เขาสามเกลอ” เป็นลักษณะของภูเขาหินปูน 3 ลูก ตั้งเด่นอยู่กลางน้ำใน เขื่อนรัชชประภา เป็นสถานที่ที่นิยมล่องเรือเข้ามาแวะถ่ายรูปกัน

โดยมีมุมยอดฮิต คือ เรือนำเที่ยวจะหันหัวเรือเข้าไปทาง “เขาสามเกลอ” และเราสามารถเข้าไปนั่งตรงหัวเรือ เพื่อถ่ายภาพโดยมีเขาสามเกลอเป็นฉากหลังได้ ซึ่งผู้ร่วมทริปก็ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างสนุกสนานครับ

 

เชี่ยวหลานแค้มป์รีสอร์ท

หลังจากล่องเรือเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก็มารับประทานอาหารเย็น พร้อมชมวิวธรรมชาติที่ เชี่ยวหลานแค้มป์แอนด์รีสอร์ท ร้านอาหารติดแม่น้ำ โอบล้อมด้วยป่าเขาเขียวขจี ซึ่งช่วงเวลายามเย็นแบบนี้ บรรยากาศชิลมาก

“เชี่ยวหลานแค้มป์แอนด์รีสอร์ท” เป็นร้านอาหารที่มีเมนูอาหารใต้รสชาติจัดจ้านให้ได้ลองชิม โดยมี เมนูแนะนำ อย่างเช่น แกงคั่วปลากด ปลากะพงราดพริก ผัดผักกูดกุ้งสด แกงเลียงกุ้งสด เป็นต้น

 

ข้อมูลเพิ่มเติม ร้านอาหารเชี่ยวหลานแค้มป์รีสอร์ท

 

Belong Jin The Dam Resort

เข้าสู่ที่พักในคืนที่ 2 มาพักที่ Belong Jin The Dam Resort ที่พักหรูบนเนินเขาของ บ้านตาขุน สุราษฎร์ธานี ที่อยู่ไม่ไกลจากเขื่อนรัชชประภา

Belong Jin The Dam Resort บรรยากาศภายในบริเวณที่พักโปร่งสบาย อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ได้บรรยากาศของการผ่อนคลาย สามารถมองเห็นวิวทิวเขาที่อยู่เบื้องหน้า พร้อมบริการห้องอาหาร บาร์ และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง

ห้องพัก กว้างขวาง สะอาด พักสบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน มีระเบียงที่สามารถออกไปสูดอากาศและชมวิวธรรมชาติได้ ซึ่งจากห้องพัก ก็สามารถมองเห็นวิวทิวเขาและสายหมอกในยามเช้าได้อีกด้วย เป็นที่พักที่ผู้ร่วมทริปได้มาพักผ่อน Relax ได้อย่างสบายเลยครับ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม Belong Jin The Dam Resort

ที่อยู่ : เขาพัง อำเภอบ้านตาขุน สุราษฎร์ธานี 84230
โทร : 077 380 439
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/uxMADiYMzrFMLCXm6

 

DAY 3 

สะพานแขวนเขาพัง และ เขารูปหัวใจ

ช่วงเช้า ตื่นขึ้นมาพร้อมกับบรรยากาศเขียวสดชื่น เดินทางออกจากที่พักไม่ไกล มาชมธรรมชาติเขียวขจีริมแม่น้ำ ที่ สะพานแขวนเขาพัง แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

สะพานแขวนเขาพัง หรือ สะพานแขวนเขาเทพพิทักษ์ เป็นสะพานแขวนขึงสลิงขนาดใหญ่ ยึดกับเสาคอนกรีต พื้นเป็นโครงเหล็ก มีความยาว 120 เมตร ทอดตัวข้ามคลองพระแสง ซึ่งสามารถรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 20 คน

บรรยากาศโดยรอบ โอบล้อมด้วยทิวเขา และธรรมชาติอันเขียวขจี อากาศบริสุทธิ์สดชื่น

ใกล้กับ “สะพานแขวนเขาพัง” จะมองเห็น “เขารูปหัวใจ” ภูเขาสูงที่ตั้งอยู่ด้านหลังของสะพาน มีรูปร่างคล้ายกับ หัวใจ เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม และเป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินที่น่าสนใจ

และ ถ้าข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของ สะพานแขวน จะเป็นส่วนของ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านเขาเทพพิทักษ์ และ ตลาดคลองแสง ให้ได้เข้าไปเที่ยวชมอีกด้วยครับ

 

ศูนย์บริการวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านเขาเทพพิทักษ์

เดินข้าม สะพานแขวนเขาพัง มาอีกฝั่งซึ่งเป็นพื้นที่ของ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านเขาเทพพิทักษ์ ท่ามกลางบรรยากาศของสวนผลไม้

ชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านเขาเทพพิทักษ์ เป็นชุมชนที่ขึ้นชื่อเรื่องสวนผลไม้ โดยจะเปิดบริการให้ได้เที่ยวชมสวน และลองรับประทานผลไม้แบบสดๆ จากสวน ซึ่งเป็นผลไม้ตามฤดูกาล อย่างเช่น ทุเรียน มังคุด ลองกอง เป็นต้น แต่ที่ขึ้นชื่อ ก็คือ ทุเรียนคลองแสง ทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง ที่มีเนื้อสีทองสวย รสชาติหวาน ไม่เหมือนที่ใด

ผู้ร่วมทริป ได้ร่วมเดินชมสวนผลไม้ ซึ่งภายในสวนก็จะมีการปลูกผลไม้หลากหลายชนิด ที่น่าสนใจก็จะเป็นต้นทุเรียนที่มีอายุกว่า 200 ปี ที่มีลำต้นสูงใหญ่มาก

สำหรับอาหารมื้อกลางวัน ได้ลองชิมเมนูอาหารท้องถิ่นของชุมชน ที่ใช้วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นเป็นหลัก อย่างเช่น แกงกะทิหน่อไม้ไก่ ใบเหลียงผัดไข่ ผักผลไม้รวมทอด-น้ำพริกกะปิ เป็นต้น ซึ่งต้องบอกว่ารสชาติจัดจ้านทุกเมนู อาหารแบบพื้นบ้านอย่างนี้ อร่อยจริงๆ ครับ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม ชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านเขาเทพพิทักษ์

  • ที่อยู่ : ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน สุราษฎร์ธานี 84230
  • โทร : 084-843-7924
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/hqVVMVcmBFLQShNu7

 

ตลาดคลองแสง

เมื่อได้เวลาอันพอสมควร ก็ถึงเวลาที่จะต้องเดินทางกลับแล้ว แต่ก่อนกลับก็ต้องมาแวะช้อปปิ้ง ซื้อของฝาก ของที่ระลึก กันที่ ตลาดคลองแสง กันก่อนครับ

ตลาดคลองแสง ตลาดกลางป่าที่อยู่ใกล้กับ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านเขาเทพพิทักษ์ เป็นตลาดเล็กๆ ที่ชาวบ้าน จะมาตั้งร้านขายของกิน ของใช้ ได้บรรยากาศแบบน่ารักเป็นกันเอง ท่ามกลางบรรยากาศของป่าเขียวๆ ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เป็นของฝาก อย่างเช่น ปลาส้ม, ผ้าทอ, ลูกหวือ ให้ได้เลือกชม เลือกซื้อกัน

นอกจากนี้ ยังได้ชมวิธีการสาธิตการทำ “ลูกหวือ” (ของเล่นที่ทำจากลูกยางพารา และไม้ไผ่) ซึ่งเป็นของเล่นพื้นบ้านโบราณที่หาชมยากอีกด้วยครับ

หลังจากเลือกซื้อของฝากกันเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เดินทางกลับสู่ สนามบินสุราษฎร์ธานี และเดินทางกลับถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Top Spender Trip: “Once in a Lifetime @ Surat Thani” สำหรับการเดินทางในทริปนี้ ผมและผู้ร่วมทริปก็ได้รับประสบการณ์ที่ดี รู้สึกสนุก ได้ความรู้ และความประทับใจ จากการเดินทางในเส้นทาง สุราษฎร์ธานี ตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน

ถ้าใครอยากร่วมเดินทาง เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดพิเศษแบบนี้บ้าง ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงสมัครเป็นสมาชิก บัตรเครดิตท่องเที่ยว ธนาคารกรุงเทพ และใช้จ่ายผ่านบัตรตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดต่อปี ไม่ว่าจะเป็นมียอดใช้จ่ายสะสมสูงสุด (Top Spender) หรือมีจำนวนรายการใช้จ่ายสูงสุด (Top Transaction) 20 ท่านแรก ก็มีโอกาสได้รับสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมสุดพิเศษแบบนี้แล้วครับ

หมายเหตุ : การจัดกิจกรรมอยู่ภายใต้มาตรการ D –M – H – T – T – A และเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับมาตรฐาน SHA / SHA Plus