TOKYO : เที่ยว “โตเกียว” ช้อป ชิม ชิล ใช้จ่ายด้วยบริการ Krungsri QR Japan สแกนผ่าน กรุงศรีโมบายแอป(KMA) สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย
เที่ยวญี่ปุ่น อีกครั้ง! ทริปนี้ ได้กลับมาเยือน โตเกียว เมืองหลวงที่เต็มไปด้วย สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่เดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะครอบคลุมทุกพื้นที่ และมี ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งที่มีให้ ช้อปกันได้อย่างจุใจเลยทีเดียวครับ
จุดเช็คอิน ช้อป ชิม ชิล เที่ยววนไปใน “โตเกียว” ตามเส้นทางรถไฟใต้ดิน ด้วยตั๋วรถไฟใต้ดิน Tokyo Subway Ticket ใช้สำหรับโดยสารรถไฟใต้ดิน ได้ไม่จำกัด ในระยะเวลาที่กำหนด
- Asakusa Station : Sensoji Temple
- Shinjuku Station : Godzilla Road, Cross Shinjuku Vision
- Akihabara Station : Shopping Edion AKIBA
- Naka-Okachimachi Station : Shopping Takeya
- Mitsukoshimae Station : HARIO Lampwork Factory Muromachi
- Ueno-Hirokoji Station : Ameyoko Shopping Street
- Shibuya Station : Shibuya Crossing, Statue of Hachikō
- Roppongi Station : Tokyo Midtown Illumination 2022
สำหรับเรื่องการใช้จ่ายในประเทศญี่ปุ่น ก็มีบริการใหม่จาก “Krungsri QR Japan” เป็นบริการชำระเงินในประเทศญี่ปุ่นผ่านการสแกนคิวอาร์ด้วย กรุงศรีโมบายแอป(KMA) ใช้ง่าย จ่ายคล่อง สามารถช้อป และจ่ายค่าสินค้าหรือบริการต่างๆ ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และ โรงแรม หลากหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่น
#เรื่องญี่ปุ่นต้องกรุงศรี Krungsri QR Japan สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เพียงแค่มีบัญชีธนาคารและ กรุงศรีโมบายแอป(KMA) ก็สามารถใช้บริการนี้ได้แล้วครับ
- สะดวก : สแกนจ่ายด้วยวิธีการที่คุ้นเคยกันดี เพียงเข้า กรุงศรีโมบายแอป(KMA) บนมือถือ กด “สแกน” กด “จ่าย” จะขึ้น QR เพื่อให้ร้านค้าสแกน ก็สามารถชำระเงินระหว่างประเทศได้ง่ายๆ เหมือนกับการชำระเงินภายในประเทศ
- รวดเร็ว : รู้ผลการชำระเงินทันที โดยธนาคารจะหักเงินในบัญชีเป็นสกุลเงินบาท(อัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะที่ทำรายการ)
- ปลอดภัย : ลดความเสี่ยงจากการพกเงินสดจำนวนมาก
- อัตราแลกเปลี่ยนพิเศษ
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการชำระเงิน
ร้านค้าที่ร่วมรายการ อย่างเช่น ร้าน TAKEYA(ตึกม่วง) ที่รู้จักกันดี / ร้าน EDION ที่มีหลากหลายสาขา นอกจากนี้ ยังมี ร้านค้า ร้านอาหาร ในเมืองต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
- รายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3j63XFq
Tokyo Subway Ticket : เที่ยว “โตเกียว” นั่งรถไฟไม่อั้น!
ทุกครั้งในการมาเที่ยว “โตเกียว” ผมก็มักจะใช้ Tokyo Subway Ticket ครับ สามารถใช้ขึ้น รถไฟใต้ดินได้ทุกสายในโตเกียว ได้อย่างไม่จำกัด จะขึ้นกี่ครั้งก็ได้ เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว และย่านช้อปปิ้งต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย โดยตั๋วจะมีแบบ 24 ชั่วโมง, 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมง เลือกได้ตามเวลาที่จะใช้งานได้เลย
- Tokyo Subway 24-hour Ticket : ผู้ใหญ่ 800 เยน / เด็ก 400 เยน
- Tokyo Subway 48-hour Ticket : ผู้ใหญ่ 1,200 เยน / เด็ก 600 เยน
- Tokyo Subway 72-hour Ticket : ผู้ใหญ่ 1,500 เยน / เด็ก 750 เยน
Sensoji Temple (Asakusa Station)
วัดเซนโซจิ(Sensoji Temple) หรือ วัดโคมแดง หรือที่คนไทยมักจะคุ้นเคยในชื่อ “วัดอาซากุสะ” เป็นวัดที่มีความเก่าแก่และมีชื่อเสียงของโตเกียว ที่ใครมาเยือนโตเกียวแล้ว ต้องแวะมาเที่ยวชมที่วัดแห่งนี้
ตั้งแต่ ทางเข้าวัดจะเห็นโคมแดงขนาดยักษ์บริเวณ ประตูคามินาริมง (Kaminarimon Gate) ดูเด่นเป็นสวยงาม เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน ก่อนจะลอดซุ้มประตูเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด เพื่อขอให้ประสบแต่ความโชคดี
นอกจากนี้ บริเวณหน้า วัดเซนโซจิ(Sensoji Temple) ยังมี ถนนช้อปปิ้งนากามิเสะ (Nakamise) ความยาว 200 เมตร ที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของที่ระลึก ให้ได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากกันได้
Shinjuku (Shinjuku Station)
ย่านชินจูกุ(Shinjuku) แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโตเกียว ศูนย์รวมแฟชั่นและร้านค้ามากมาย บรรยากาศคึกคักไปด้วยผู้คน ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ชินจูกุ ก็มีจุดเช็คอินที่น่าสนใจอย่าง Cross Shinjuku Vision จอโฆษณา LED ขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าบริเวณ สถานีรถไฟชินจูกุ ที่ใครๆ ก็ต้องแวะหยุดชมกัน
- Cross Shinjuku Vision จะมีลักษณะเป็นจอโค้งไปมุมของตัวอาคาร สามารถแสดง ภาพแบบ 3 มิติ ขนาดใหญ่ ได้อย่างสมจริงเลยทีเดียว
เดินเล่นเข้ามาอีกหน่อย ก็จะเข้าสู่ Godzilla Road ซึ่งจะมี Godzilla ตัวใหญ่โผล่หัวออกมาจากข้างหลังตึก สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะมาถ่ายรูปเล่นกัน
Akihabara (Akihabara Station)
ย่านอากิฮาบาระ (Akihabara) แหล่งจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น มีร้านเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมาย หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งใครสนใจเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีต้องมาที่ย่านนี้เลย ซึ่งนอกจาก สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ แล้วก็ยังมีก็พวก เกมส์ การ์ตูนอะนิเมะ ฟิกเกอร์ โมเดล ของสะสมต่างๆ ให้เลือกซื้อหาอีกด้วย
Edion (AKIBA) เป็นร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ที่มีสาขาใหญ่อยู่ที่ Akihabara ด้วย เป็นตึกขนาดใหญ่สีฟ้ามองเห็นเด่นแต่ไกล ภายในแบ่งเป็นชั้นต่างๆ ที่แบ่งหมวดหมู่ของสินค้าซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
อย่างเช่น TV, ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, เครื่องดูดฝุ่น, อุปกรณ์เครื่องครัว, คอมพิวเตอร์, สินค้าที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์เกี่ยวกับสมาร์ทโฟน, ชุดหูฟัง เป็นต้น และ ยังมีสินค้าที่อื่นๆ อย่าง เครื่องสำอาง อาหารเพื่อสุขภาพ หรือ ขนมญี่ปุ่น ที่สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ ในราคาที่ย่อมเยา
มาถึงย่าน Akihabara ก็ต้องขอช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้ากันสักหน่อย ซึ่งที่ Edion ก็รองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย และสามารถใช้ Krungsri QR Japan สแกนจ่ายได้เลยครับ เพียงเปิด กรุงศรีโมบายแอป(KMA) บนมือถือ แล้วแสดง QR Code เพื่อสแกนจ่ายก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย
Takeya (Naka-Okachimachi Station)
Takeya หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ตึกม่วง” สถานที่จำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภทในราคาประหยัด ที่สายช้อปปิ้งต้องไม่พลาด
“ตึกม่วง” เป็นอาคารสีม่วงโดดเด่นในย่าน Ueno ภายใน ประกอบด้วยชั้นต่างๆ ที่จำหน่ายสินค้ามากมาย มีสินค้าทุกประเภทให้เลือกซื้อหาได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าแบรนด์เนม เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง ขนมญี่ปุ่น ของฝากต่างๆ ที่ต้องบอกว่ามีครบทุกอย่างจริงๆ มาที่นี่ที่เดียวได้ช้อปครบตามต้องการเลยครับ
สำหรับการชำระเงินใน Takeya ก็สามารถใช้ Krungsri QR Japan สแกนจ่ายได้เช่นกัน เพียงแสดง QR Code จากกรุงศรีโมบายแอป(KMA) บนมือถือ ใช้ง่าย จ่ายคล่อง
โปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ช้อปที่ร้าน TAKEYA(ตึกม่วง) และจ่ายด้วย KMA รับความคุ้ม 3 ต่อ ได้ทั้งส่วนลดและยอดเงินคืน ตั้งแต่ วันที่ 1 ธันวาคม 2565 – 30 เมษายน 2566 โดยความคุ้มค่า 3 ต่อ สำหรับลูกค้า KMA ประกอบด้วย
- ต่อที่ 1 รับส่วนลดทันที 5% จากร้าน TAKEYA เมื่อมียอดซื้อตั้งแต่ 5,000 เยน เป็นต้นไป
- ต่อที่ 2 รับคืนภาษีสูงสุด 10% (Tax Refund) เมื่อมียอดซื้อตั้งแต่ 5,000 เยน เป็นต้นไป
- ต่อที่ 3 รับเงินคืน 5% จากกรุงศรี หรือสูงสุดไม่เกิน 300 บาท/ท่าน/เดือน
HARIO Lampwork Factory (Mitsukoshimae Station)
พักจิบกาแฟในคาเฟ่สุดเก๋ HARIO Lampwork Factory พื้นที่ของการพักผ่อนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นของกาแฟ
HARIO Lampwork Factory เป็นแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น ที่เริ่มต้นมาจากการทำเครื่องแก้ว จนภายหลังพัฒนามาเป็นอุปกรณ์ในการชงกาแฟ พร้อมกับเปิดเป็นคาเฟ่ให้ผู้ที่ชื่นชอบในกาแฟ ได้มานั่งพักผ่อน ดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟ ที่ถูกชงมาอย่างพิถีพิถัน หรือ จะลองดริปกาแฟด้วยตัวเองก็ได้
ภายใน มีมุมจำหน่ายอุปกรณ์กาแฟแบบพรีเมียมในแบรนด์ HARIO อย่างครบครัน ที่คอกาแฟสามารถมาเลือกซื้อหาอุปกรณ์ทำกาแฟ ที่เหมาะกับรสนิยมตนเองได้จากที่นี่อีกด้วย
การใช้จ่ายสำหรับบริการใน HARIO Lampwork Factory ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของคาเฟ่ หรือ การซื้อสินค้าอุปกรณ์ทำกาแฟ ก็สามารถแสดง QR Code จากกรุงศรีโมบายแอป(KMA) บนมือถือสแกนจ่ายได้เช่นกัน
Ameyoko Shopping Street (Ueno-Hirokoji Station)
ตลาดอะเมโยโกะ(Ameyoko Shopping Street) ตลาดใจกลางโตเกียวใกล้กับ Ueno Station ที่รวมร้านค้าต่างๆ มากมาย อยู่ในตรอกที่มีความยาวประมาณ 500 เมตร บรรยากาศคึกคักไปด้วยผู้คน ที่มาเดินเล่น ช้อปปิ้ง และหาของอร่อยชิมกัน
ภายใน ตลาดอะเมโยโกะ มีร้านค้าและเมนูให้เลือกชิมอย่างหลากหลาย แต่ที่ดูน่าสนใจก็อย่างเช่น ข้าวหน้าปลาดิบ ที่มีวัตถุดิบให้เลือกได้ตามต้องการ และ ราคาก็ถือว่าไม่แพง
Shibuya (Shibuya Station)
แวะมาเช็คอินที่ แยกชิบูย่า Shibuya Crossing หลังจากการท่องเที่ยวกลับมา ที่นี่ก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง ภาพที่คุ้นเคยที่ผู้คนมากมายรอสัญญาณไฟข้ามถนนพร้อมกันกลางแยกใหญ่ใจกลางเมือง
ใกล้กับ แยกชิบูย่า มีรูปปั้นของ ฮาจิโกะ(Statue of Hachikō) สุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ไปเฝ้ารอเจ้านายที่จากไปแล้ว อยู่หน้าสถานีรถไฟตรงที่เดิมทุกวัน จนภายหลังมีการสร้างรูปปั้นนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความภักดี ถ้ามาเที่ยวย่าน Shibuya ก็แวะมาถ่ายรูปกับ ฮาจิโกะ เป็นที่ระลึกกันได้นะ
Tokyo Midtown Illumination 2022(Roppongi Station)
มาเที่ยว “โตเกียว” ช่วงหน้าหนาวแบบนี้ ในหลายจุดก็มีงานประดับไฟสวยๆ ให้ได้ชม ซึ่งกิจกกรมยามค่ำคืนก็ต้องออกมาเดินเล่นดูไฟประดับระยิบระยับ ได้บรรยากาศเข้ากับลมหนาวได้อย่างดี
Tokyo Midtown ก็เป็นจุดจัดงานไฟประดับฤดูหนาวอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ อยู่ใกล้กับ Roppongi Station เดินทางได้สะดวก เป็นสถานที่จัดงาน MIDTOWN CHRISTMAS 2022 ซึ่งมีผู้คนสนใจออกมาเดินเล่นเที่ยวชมงานกันอย่างมากมาย
ใครที่กำลัง คิดถึงญี่ปุ่น หนาวนี้ มาเที่ยว “โตเกียว” กันนะครับ