#กัมพูชา : อันซีน “เสียมเรียบ” ~ ล่องเรือโตนเลสาบ เที่ยวนครวัด เกาะแกร์ พนมกุเลน!
ทริปนี้.. ได้มีโอกาสเยือน #SiemReap อีกครั้ง แต่ครั้งนี้.. พิเศษกว่าเดิมหน่อย เพราะได้ออกไปเที่ยวในแบบฉบับ Unseen Cambodia แบบ 3 วัน 2 คืน ซึ่งก็ได้ไปเก็บที่เที่ยวใน เสียมเรียบ มาหลายที่เลย นับว่า.. เป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ ขอบอกว่า ที่นี่.. มีอะไรให้เที่ยวเยอะจริงๆ …ลองตามมาเที่ยวกันครับ!
Video : UNSEEN CAMBODIA
DAY #1 : SIEM REAP, CAMBODIA.
ผมเริ่มต้นออกเดินทาง จาก กรุงเทพฯ ที่ สนามบินดอนเมือง มุ่งหน้าสู่ เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเมื่อเดินทางถึง เสียมเรียบ แล้ว.. ก่อนอื่นก็ต้องไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร(ANGKOR NATIONAL) กันเสียก่อน เพื่อจะได้ทราบประวัติความเป็นมาคร่าวๆ ก่อนที่จะไปเที่ยวสถานที่อื่นๆ ต่อไปครับ
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร(ANGKOR NATIONAL) เป็นพิพิธภัณฑ์ทางโบราณคดีที่มีการเก็บสะสมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เขมร ซึ่งมีทั้งพระพุทธรูป รูปปั้น ศิลปะ และวัฒนธรรมของอารยธรรมเขมรในช่วงประมาณศตวรรณที่ 9 ถึงศตวรรษที่ 14 ที่นี่.. เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2550 ซึ่งใครที่ได้เข้ามาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แล้ว จะรู้สึกหลงใหลในประวัติศาสตร์ต่างๆ ของเขมร
- ศาลองค์เจกองค์จอม เป็นศาลขนาดเล็กที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ 2 องค์ องค์สูงมีชื่อว่า องค์เจก องค์เล็กมีชื่อว่า องค์จอม โดยมีตำนานเล่าว่า มีพี่น้องสองคนชื่อ เจกและจอม เป็นผู้ที่มีความสามารถในการรบ และมีความเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก จนกระทั่งวันหนึ่ง ทั้งสองนอนหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย.. บิดามารดาจึงสร้างพระพุทธรูปขึ้นมา 2 องค์ เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้บุตรีทั้งสอง
นอกจากนี้ ยังมีตำนานเล่าขานว่า.. ในยุคของเขมรแดง ทหารเขมรแดงต้องการทำลายพระพุทธรูปที่เป็นที่เคารพทางพระพุทธศาสนา จึงได้เดินทางมาที่องค์เจกองค์จอมเพื่อจะยกไปทำลาย แต่ยกเท่าไรก็ยกไม่ขึ้น จึงละความพยายามไป ทำให้องค์เจกองค์จอมได้ประดิษฐานอยู่ที่ศาลเจ้าแห่งนี้จนถึงปัจจุบัน และทั้งสององค์นับเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเสียมเรียบ ในการสักการะองค์เจกองค์จอม จะใช้ดอกบัว 2 กำ พร้อมธูปและเทียน สามารถหาซื้อได้ที่หน้าศาลเลยครับ..
- โตนเลสาบ หรือ ทะเลสาบโตนเล ยามเย็นผมมาล่องเรือที่นี่.. บรรยากาศดีมากๆ ครับ ซึ่ง โตนเลสาบ แห่งนี้ ตั้งอยู่ตรงกลางของประเทศกัมพูชา เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด ของ กัมพูชา ได้แก่ กำปงธม กำปงชนัง โพธิสัตว์ พระตะบอง และ เสียมราฐ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาน 7,500 ตาราง และมีความลึก 10 เมตร เลยทีเดียว!
โตนเลสาบ ถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของชาวกัมพูชา เพราะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีพันธุ์ปลามากถึง 200 ชนิด
ระหว่างทางที่เรือกำลังล่องไป จะได้สัมผัสกับภาพวิถีชีวิตของผู้คนที่นิยมอาศัยอยู่ในเรือนแพ ซึ่งมีการย้ายถิ่นฐานตามการขึ้นลงของน้ำ ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพประมง แต่ในช่วงที่น้ำแล้งจะไม่สามารถทำประมงได้ ชาวบ้านก็จะเปลี่ยนมาทำนา และทำเกษตรกรรมแทน
- ระบำอัปสรา เป็นโชว์สุดพิเศษในช่วงรับประทานอาหารอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เป็นเมนูพิเศษ บุฟเฟ่ต์นานาชาติ ได้ลองชิมอาหารหลากหลายเมนู พร้อมชมการแสดง ระบำพื้นบ้านและระบำอัปสรา ดูสวยงามดีครับ
- ตลาดซาจ๊ะ หรือ ตลาดไนท์มาร์เก็ต (NIGHT MARKET) ช้อปปิ้งซื้อของฝาก ของที่ระลึกมากมาย อาทิเช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า พวงกุญแจ เครื่องเงินต่างๆ
- ถนนคนเดิน(Pub Street) สีสันยามราตรีใน เสียมเรียบ ที่มีร้านค้าร้านอาหารมากมาย บรรยากาศคึกคัก
สำหรับ ที่พัก ใน เสียมเรียบ ผมได้มาเข้าพักที่ TARA ANGKOR HOTEL โรงแรมระดับ 4 ดาว ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน กินอิ่ม นอนหลับ พักสบายเลยครับ..
DAY #2 : UNSEEN CAMBODIA!
ช่วงเช้า ออกเดินทางไปยัง พนมกุเลน อาณาจักรขอมโบราณ ที่มีแหล่งโบราณคดีมากมายซ่อนอยู่ในป่าทึบ และกำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวกัมพูชา ซึ่งมีความโดดเด่นทางธรรมชาติและมีความอุดมสมบูรณ์ล้อมรอบด้วยภูเขา และน้ำตก
- หน้าผาลานหินพนมกุเลน จุดถ่ายภาพหน้าผาสูงที่เห็นวิวที่ล้อมรอบไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ เห็นวิวธรรมชาติของพนมกุเลน
ลำธารสหัสลึงค์ ศิวลึงค์ในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ด้วยคติไศวนิกายที่บูชาพระศิวะเป็นเทพสูงสุด ศิวลึงค์ จึงเป็นตัวแทนของพระศิวะ ซึ่งบวงสรวงด้วยการใช้น้ำรดไปยังศิวลึงค์ ผ่านฐานโยนีที่เป็นตัวแทนของพระแม่อุมา น้ำที่ไหลลงมาจึงถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น เมื่อพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 สถาปนามหนทรบรรพตขึ้นเป็นศูนย์กลางของอาณาจักร พนมกุเลนจึงเป็นตัวแทนของเขาไกรลาส อันเป็นที่สถิตแห่งองค์พระศิวะ ภายใต้ลำน้ำในเทือกเขาแห่งนี้ จึงมีการสลักภาพศิวลึงค์จำนวนนับร้อยพัน เพื่อให้สายน้ำที่ไหลผ่านเสมือนดั่งการบวงสรวงองค์พระศิวะและพระแม่อุมา รวมถึงสร้างความศักดิ์สิทธิ์ให้สายน้ำที่จะไหลลงไปหล่อเลี้ยงผู้คนภายในราชอาณาจักร
สถานที่แห่งนี้ จึงได้ชื่อว่าเป็นต้นน้ำที่รับน้ำจากฟ้า ไหลเป็นลำธารผ่านแผ่นทับหลังรูปสลัก “ศิวลึงค์” นับ 1,000 องค์ ทอดยาว 400 เมตร ซึ่งชาวกัมพูชาเชื่อกันว่าที่นี่เป็น “แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์” เพราะหากท่านใดที่ได้มาที่นี่ และได้นำน้ำในแม่น้ำแห่งนี้กลับไปบูชาหรือชำระล้างร่างกาย จะทำให้พบแต่ความสุขไปตลอด
- วัดพระองค์ธม เป็นวัดที่อยู่ใน พนมกุเลน เป็นสถานที่แสวงบุญของชาวกัมพูชา โดยมีโบสถ์ลอยฟ้า ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธไสยาสน์ ขนาดใหญ่ หรือ พระนอน ที่ถูกแกะสลักจากส่วนยอดของก้อนหินขนาดใหญ่
กลุ่มปราสาทเกาะแกร์ หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ นครโฉกครรคยาร์ หมายถึง เกาะแห่งความรุ่งโรจน์ และปัจจุบันถูกจัดตั้งให้เป็น อุทยานแห่งชาติ เป็นที่ตั้งกลุ่มปราสาทเก่าโบราณมากมาย แต่ปัจจุบันมีหลงเหลือให้เห็นไม่มากนัก โดย 3 ปราสาทที่ไม่ควรพลาด คือ ปราสาทปรัม ปราสาทลึงค์ และ ปราสาทธม
- ปราสาทปรัม ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกลุ่มปราสาทเกาะแกร์ มีรากไม้ปกคลุม เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน
- ปราสาทธม เป็นปราสาทหินทรายที่ตั้งอยู่ในเกาะแกร์ ถูกสร้างด้วยเทคนิคการเรียงหินขึ้นประกอบฐานและสร้างให้เป็นรูปทรงพีระมิดขั้นแบบขั้นบันไดสูง 7 ชั้น สามารถขึ้นไปถ่ายรูปบนจุดสูงสุดได้อีกด้วยนะ..
DAY #3 : ANGKOR PASS!
วันสุดท้ายของการเดินทาง .. วันนี้จะเที่ยวปราสาททั้งวันครับ โดยทำบัตร ANGKOR PASS เพื่อใช้เข้าชมปราสาทต่างๆ ซึ่งมี ดังนี้
- ปราสาทบายน ปราสาทแห่งนี้ตั้งใจกลางนครธม ซึ่งห่างจาก ปราสาทนครวัด เพียงเล็กน้อย ปราสาทบายน ถูกสร้างขึ้นในสมัยของ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นศาสนสถานในพุทธศาสนนิกายมหายานตามที่ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงเลื่อมใส ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงธรรมเนียมครั้งใหญ่ของอาณาจักร จากการสร้างเทวาลัยให้เหล่าทวยเทพในศาสนาฮินดู มาเป็นพุทธศาสนสถานใจกลางเมืองพระนคร
ตัวปราสาทจะมีลักษณะพิเศษ โดยยอดปราสาทจะเต็มไปด้วยรูปแกะสลักพระพักตร์ซึ่งมีทั้งหมด 54 ยอด แต่ได้พังทลายเหลือ 37 ยอด นักโบราณคดีต่างถกเถียงเกี่ยวกับพระพักตร์เหล่านี้ บ้างก็ว่า.. เป็นพระพักตร์ของพระพรหม บ้างก็ว่า.. เป็นของท้าวจตุโลกบาล หรือ บ้างก็ว่า.. เป็นของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่กำลังจ้องมองรอบทิศเพื่อดูแลอาณาประชาราษฎร์
นอกจากนี้ ปราสาทแห่งนี้จะประกอบด้วย ระเบียงคต 2 ชั้น คือ ชั้นนอกและชั้นใน ซึ่งชั้นนอกจะถูกสร้างก่อนชั้นใน ตามเสาหินจะมีรูปแกะสลักของเหล่านางอัปสร
- ปราสาทตาพรหม แห่งนี้เป็นปราสาทยุคท้ายๆ ของอาณาจักรเขมร ตามหลักศิลาจารึกปรากฏชื่อของปราสาทแห่งนี้ว่า “ราชวิหาร” แต่ชื่อตาพรหมถูกสันนิษฐานว่าตั้งตามชื่อของคนแก่ที่เป็นคนเฝ้าปราสาท เมื่อเริ่มมีการบูรณะ ปราสาทตาพรหม ถูกสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแห่พระมารดาของพระองค์ และเป็นพุทธศาสนสถาน ซึ่งยังได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งอีกด้วย
ปราสาทแห่งนี้ เหมือนเป็นปราสาทที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ภายในปราสาทมีความซับซ้อน ความมีเสน่ห์และความพิศวงด้วยรากไม้ ที่ขึ้นปกคลุมปราสาทเอาไว้ยาวนานกว่า 400 ปี นอกจากนี้ ปราสาทตาพรหม ยังถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในฉากของหนังภาพยนตร์เรื่อง TOMB RAIDER อันโด่งดังอีกด้วย
- ปราสาทบันทายสรี ถูกขนานนามว่าเป็นปราสาทที่งดงามที่สุดใน ประเทศกัมพูชา สร้างขึ้นในช่วงตอนปลายของสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 และสร้างแล้วเสร็จในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 โดยผู้ที่สร้างปราสาทแห่งนี้คือ พราหมณ์ยัชญวราหะ เป็นปราสาทที่มีขนาดเล็ก ประกอบด้วยปราสาท 3 หลัง ได้แก่ ปราสาททางทิศใต้สร้างถวายพระพรหม ทิศเหนือถวายพระวิษณุ และตรงกลางใหญ่ที่สุดถวายพระศิวะ
ตัวปราสาท สร้างจาก หินทรายสีชมพู ที่หายาก ลวดลายที่ประดับปราสาทนี้ถูกแกะสลักไว้อย่างวิจิตรบรรจง ทำให้ภาพดูสง่างามและมีชีวิตจิตใจ จึงเปรียบปราสาทแห่งนี้ว่างดงาดดั่งอิสตรี จึงเป็นที่มาของชื่อ บันทายสรี
- ปราสาทนครวัด (ANGKOR WAT) ปิดท้ายทริปนี้ ณ สถานที่ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก “ปราสาทนครวัด” สิ่งปลูกสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่หลายๆท่านให้คำจำกัดความว่า You must see ANGKOR WAT before you die. ปราสาทแห่งนี้ สร้างในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เพื่อเป็นปราสาทประจำรัชกาล โดยสร้างขึ้นตามความเชื่อของลัทธิไวษณพนิกาย ที่บูชาพระวิษณุหรือพระนารายณ์ ใช้ระยะเวลาในการสร้างประมาณ 100 ปี โดยใช้ช้างเป็นพาหนะหลักในการลากหินมาเพื่อสร้างปราสาทแห่งนี้
ภายในปราสาท เต็มไปด้วยภาพแกะสลักที่เกี่ยวกับพระนารายณ์และองค์อวตารของพระองค์ ใช้ช่างในการแกะสลักลวดลายของตัวปราสาทมากถึง 5,000 คน ศิลปะตามผนังกำแพงในปราสาทจะถูกบอกเล่าเรื่องราวจากการแกะสลัก ..ไว้อย่างมากมาย!
สอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติม และ จองทัวร์ ได้ที่ :
สนับสนุนการเดินทางโดย :
- Nid Noi Travel
- UNSEEN CAMBODIA
การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER
Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
E-mail : chailaibackpacker@gmail.com
Website : www.chailaibackpacker.com