“ส ะ บ า ย ดี วั ง เ วี ย ง” ซัมเมอร์สำราญ ชวนไปโดดน้ำให้หายร้อนกันที่ วังเวียง ประเทศลาว
“หน้าร้อนไปไหนกันดี?” คำถามหนึ่งได้เด้งขึ้นมา จากบทสนทนาแชทกลุ่มบน Facebook ที่คุยกันอยู่เป็นประจำตามประสาของกลุ่มเพื่อนผู้ชาย ที่คุยติดต่อกันอยู่เสมอๆ ในเมื่ออยากออกไปเที่ยวช่วงหน้าร้อนนี้ ตัวเลือกต่างๆ ก็ผุด ขึ้นมาให้เลือกอย่างมากมาย ราวกับดอกเห็ด ทั้ง เที่ยวทะเล เที่ยวเกาะ แต่สุดท้ายแล้ว ก็มาจบลงที่ .. “วังเวียง”เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน (2553) เป็นครั้งแรก ที่ ไฉไลแบ็คแพ็คเกอร์ เราได้ไปเยือน “วังเวียง” เมืองที่ถูกขนานนามว่าเป็น “กุ้ยหลินเมืองลาว” “ทริปวังเวียง” ทริปนั้นเป็นทริปที่เราต่างลงความเห็นว่า รู้สึกประทับใจ และจะกลับมาเยือนอีกให้ได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุ ที่พวกเราอยากจะออกไปเยือนเมืองนี้กันอีกครั้ง โดยทริปนี้ พวกเราไม่ได้วางแผนอะไรกันมากมายนัก เนื่องจาก เคยได้มาเที่ยวแล้ว และ ตามอ่านรีวิวจากกระทู้ต่างๆ อัพเดตข้อมูลวังเวียงอยู่ตลอด ทริปนี้จึงเหมือนเป็นการออกไปพักผ่อน สบายๆ ปลดปล่อยความเครียด เสียมากกว่า 55+ และยังคงเน้นการไปแบบประหยัดๆ ครับ
ทริปนี้ ไฉไลแบ็คแพ็คเกอร์ ออกเดินทางกันทั้งหมด 3 คน เหมือนเดิมครับ เมื่อคุยกันเป็นที่เรียบร้อย ก็เตรียมออกเดินทางกัน โดยเราต่างตกลงกันว่า ทริปนี้จะไปแบบประหยัดๆ กันเช่นเคย เหมือนไปเที่ยวกันขำๆ ไม่ให้กระทบกับเงินในกระเป๋ามากนัก จึงจำกัดงบอยู่ที่คนละไม่เกิน 3000 บาท ประกอบกับช่วงนั้น Thai Lion Air ได้ออกโปรโมชั่นมาพอดี ทำให้เราได้จองตั๋วบินไปลงที่อุดรธานีเที่ยวบินละ 395 บาท ออกเดินทางช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ ใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน
สรุปการเดินทาง โดยคร่าวๆ ดังนี้
วันแรก – เดินทางถึงอุดรฯ นั่งรถโดยสารระหว่างประเทศ ไปวังเวียง
วันที่สอง – เที่ยวในเมืองวังเวียง
วันที่สาม – เดินทางกลับ
(ซึ่งจะมีเวลาอยู่ในวังเวียง 1 วันเต็มๆ กับ 2 คืน)รีวิวนี้จึง เป็นรีวิวสั้นๆ.. เหมือนย้อนกลับไปเที่ยว “วังเวียง” อีกครั้งของพวกเรา อาจจะพาไปเที่ยวไม่ครบทุกที่นะครับ เพราะครั้งแรกได้เคยไปมาบ้างแล้ว จึงเป็นการเก็บตกที่เที่ยว ที่เหลือในครั้งนี้เสียมากกว่า เที่ยวพักผ่อนชิลล์ๆ สบายๆ มีไปผ่อนคลาย Sakura Bar บาร์ในตำนานบ้าง ก็หวังว่าจะเป็นข้อมูล เล็กๆ น้อยๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจไปล่ะกันนะครับ ดังนั้น.. เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา… แบกเป้ ออกเดินทาง ไปกับพวกเรา กันเลยครับ.. !!!
วันแรก – เดินทางถึงอุดรฯ นั่งรถโดยสารระหว่างประเทศ ไปวังเวียง
วันที่สอง – เที่ยวในเมืองวังเวียง
วันที่สาม – เดินทางกลับ
(ซึ่งจะมีเวลาอยู่ในวังเวียง 1 วันเต็มๆ กับ 2 คืน)รีวิวนี้จึง เป็นรีวิวสั้นๆ.. เหมือนย้อนกลับไปเที่ยว “วังเวียง” อีกครั้งของพวกเรา อาจจะพาไปเที่ยวไม่ครบทุกที่นะครับ เพราะครั้งแรกได้เคยไปมาบ้างแล้ว จึงเป็นการเก็บตกที่เที่ยว ที่เหลือในครั้งนี้เสียมากกว่า เที่ยวพักผ่อนชิลล์ๆ สบายๆ มีไปผ่อนคลาย Sakura Bar บาร์ในตำนานบ้าง ก็หวังว่าจะเป็นข้อมูล เล็กๆ น้อยๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจไปล่ะกันนะครับ ดังนั้น.. เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา… แบกเป้ ออกเดินทาง ไปกับพวกเรา กันเลยครับ.. !!!
“วังเวียง” เป็นเมืองที่อยู่ตอนภาคเหนือของประเทศลาว เป็นเมืองที่เป็นทางผ่านสู่เหมืองหลวงพระบาง ด้วยบรรยากาศ และภูมิประเทศ ของวังเวียง ที่มีความสวยงาม จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว มีน้ำซอง ไหลผ่าน มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงทอดตัวเป็นแนวยาว เหมาะที่จะมาพักผ่อนสักครั้ง สิ่งที่เราชอบคือ ความเป็นธรรมชาติ และได้ใกล้ชิดธรรมชาติ และกิจกรรมสนุกๆ ต่างๆ นี่แหละครับไฉไลแบ็คแพ็คเกอร์ เคยมาเยือนที่ “วังเวียง” แห่งนี้ มา 2 ครั้งแล้วครับ ครั้งนี้จึงเป็น ครั้งที่ 3 ที่ได้มาเยือนอีกรอบ ซึ่งครั้งแรกก็เมื่อ 5 ปีก่อน ในทุกๆ ครั้งเราจึงเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปของ “วังเวียง” วังเวียง ค่อยๆ เปลี่ยนไปทุกครั้ง ที่เรามา สิ่งแรกที่สังเกตได้ คือ ตึก และ อาคารต่างๆ ผุดขึ้นมาอย่างมากมาย รองรับนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นทุกวัน ทั้งอาคารที่เป็นโรงแรม หรือ แม้กระทั่งร้านสะดวกซื้อ ที่มีให้เห็นตามมุมถนน พร้อมกิจกรรม แอดเวนเจอร์ ต่างๆ ที่มีเพิ่มขึ้นมาอย่างมากมาย เช่นกัน และ จำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว แม้แต่คนไทยก็มาเที่ยวที่นี่มากขึ้น (ในครั้งแรกที่มา พวกเราแทบจะไม่เห็นคนไทยเลย แต่มาครั้งนี้ คนไทยเพียบเลย 55+) และ เมื่อก่อนที่นักท่องเที่ยวมีแต่พวกฝรั่งเกือบ 100% เดี๋ยวนี้ มีมาจากโซนเกาหลี จีน มากขึ้น นักท่องเที่ยวฝรั่ง ดูบางตาลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงกระนั้น.. “วังเวียง” ก็ยังคงมีเสน่ห์ สำหรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอนะครับ รวมไปถึงพวกเราด้วย ที่หลงเสน่ห์ และกลับมา “วนเวียน” ที่ “วังเวียง” กันอีกสักรอบ..!! อิอิ
ก่อนเดินทาง ภายใน 24 ชม. Thai Lion Air สามารถเข้าไปเช็คอิน และ เลือกที่นั่งได้ฟรีนะครับ.. เลือกนั่งมันท้ายสุดนี่แหละ แคบหน่อย แต่ดูโล่งๆ 55+
1 = เฮือนพักแกรนด์วิว -ที่เราพักในทริปนี้
2 = บรรดาร้านอาหารริมน้ำซอง
3 = บรรดาร้านโรตี+ข้าวจี่ลาว
4 = SAKURA BAR -ในตำนาน
5 = Other Side Bar – บาร์ห้อยขาริมน้ำซอง
จากนั้นก็ อาบน้ำอาบท่า เตรียมไปท่องราตรี ที่วังเวียงครับ ไปกันที่ “Sakura Bar” สนุกสนานเฮฮามาก..(บรรยากาศเดี๋ยวขอไว้เล่าช่วงท้ายๆ รวบ 2 คืนเลยนะครับ เพราะไปจัดหนักกันทั้ง 2 คืน เลย55+)
มาลาวทีไร ไม่เคยพลาด “เบยลาว” กันเลย..
ตบท้ายด้วย.. เครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้ครับ.. “เบยลาว” มีทั้งแบบ ออริจินัล / Black / Gold ครับ ลองสั่ง Gold ขวดเล็กมาลองด้วยหน่อย.. ขวดเดียวพอ แพง..ได้น้อย เพราะ เราชอบเน้นปริมาณ 55+
ปล. ขอค่าตัวให้พรีเซนเตอร์ “เบยลาว” ด้วยครับ 55+
ขาไป กรุงเทพฯ > วังเวียง = ตั๋วเครื่องบิน 395 + รถลีมูซีนเข้าเมืองอุดรฯ 70 + รถอุดรไปวังเวียง 320 = 785 บาท
ขากลับ วังเวียง > กรุงเทพฯ = รถวังเวียงกลับอุดร 400 + รถกลับสนามบิน 70 + ตั๋วเครื่องบิน 395 = 865 บาท
สรุป เสียค่าใช้จ่าย ในส่วนของการเดินทาง คนละ ประมาณ 1650 บาท
ค่าที่พักเฮือนพักแกรนด์วิว 2 คืน = 700×2 /3 = คนละ 470 บาท
ค่าเครื่องดื่ม(+เบียร์) = อันนี้เน้นจัดเต็มตอน Happy Hour อย่างเดียว ซื้อกินเพิ่มเองต่างหากน้อย ฮ่าๆก็เป็น..ทริปสั้นๆ เที่ยว “วังเวียง” 3 วัน 2 คืน ในช่วงหน้าร้อน วันหยุดสุดสัปดาห์ แบบสบายๆ ครับ เป็นทริปที่สนุกสนานเฮฮาเหมือนเดิมครับ.. ( แม้จะมาเป็นรอบที่สาม แล้วก็ตาม 55 ) ได้โดดน้ำเล่น เย็นสบายชื่นใจ ได้พบปะเพื่อนใหม่ มิตรภาพระหว่างทางมากมายครับ มีโอกาส..เมื่อไร คงได้ ไปเยือน “วังเวียง” อีกครั้ง ..เป็นรอบที่ 4 อีกแน่นอน.. อิอิ ^^