ทริปนี้ เราจะพาไปเที่ยว ฟุกุโอกะ (Fukuoka) กันอีกสักครั้ง ในช่วงเวลาที่เข้าสู่หน้าร้อนพอดี อากาศกำลังสบายๆ บรรดาสวนดอกไม้ต่างๆ ก็เริ่มบานและอวดสีสันต้อนรับหน้าร้อน รวมถึงมีการจัดงานเทศกาลดอกไม้ เป็นช่วงที่มีจุดเช็คอินและมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8515.jpg)
และ ข้อดีของหน้าร้อนแบบนี้ ก็คือ ไม่ต้องเตรียมตัวเยอะ เสื้อผ้าน้อย ไม่มีเสื้อกันหนาวให้เปลืองพื้นที่ จัดกระเป๋าได้อย่างสบายๆ ไม่หนัก เที่ยวได้อย่างชิลเลย
จองตั๋วรถไฟ JR KYUSHU PASS ได้ที่นี่!
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8522.jpg)
การเดินทาง ครั้งนี้ เราออกเดินทางไปเที่ยว Fukuoka ด้วยสายการบิน Vietjet บินตรง จาก กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) สู่ ฟุกุโอกะ(Fukuoka) ประเทศญี่ปุ่น ประตูสู่ภูมิภาคคิวชู(Kyushu) เดินทางได้อย่างสะดวก ในราคาที่ประหยัดคุ้มค่า ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 5 ชั่วโมง 25 นาที เท่านั้น
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8556.jpg)
ซึ่งในระหว่างการเดินทาง ก็จะมีพนักงานมาคอยให้บริการ และมีบริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน(Sky Cafe’) ที่สามารถเลือกเมนูอาหารได้ตามความชอบ เดินทางถึงจุดหมายได้อย่างสะดวกสบาย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8523-1.jpg)
ตารางบิน เส้นทาง กรุงเทพฯ(BKK) สู่ Fukuoka(FUK) ทำการบินทุกวัน ตลอดทั้งสัปดาห์
● VZ810 : BKK – FUK : 00.30 – 07.55
● VZ811 : FUK – BKK : 08.55 – 12.35
จอง ได้ที่ : https://th.vietjetair.com/
(*ตารางบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบจากเว็บไซต์อีกครั้ง)
PASS ที่เกี่ยวข้องสำหรับท่องเที่ยวใน FUKUOKA(KYUSHU)
- JR Pass สำหรับทุกภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่น (7, 14 หรือ 21 วัน) ซื้อ JR Pass คลิกเลย!
- Kyushu Rail Pass (ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งเหนือ/ฝั่งใต้/ทั้งหมดในคิวชู) ซื้อ JR Kyushu Rail Pass คลิกเลย!
- Sanyo-San’in-Northern Kyushu Area Pass (7 วัน) ซื้อ JR Sanyo-San’in-Northern Kyushu Area Pass คลิกเลย!
สำหรับการเดินทางในเมือง “ฟุกุโอกะ” เราจะเน้นเที่ยวไปตามเส้นทางรถไฟใต้ดิน กับ ตั๋วแบบเหมา 1 วัน (640 เยน) สามารถขึ้นรถไฟใต้ดินวนเที่ยวได้แบบไม่อั้น!
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8520.jpg)
วนเที่ยวในเมืองตามเส้นทางรถไฟใต้ดิน(Subway) จะใช้แบบตั๋ว 1 วัน(One Day Ticket = 640 เยน) ตกวันละประมาณ 162 บาทเอง ขึ้นได้ไม่อั้น ไม่จำกัดเที่ยว ขึ้นผิดลงผิดสถานี ก็ไม่ต้องกังวล ใช้เดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวในเส้นทาง Subway ก็ช่วยประหยัดค่าเดินทางดี สามารถซื้อได้ที่ที่จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติของสถานีรถไฟใต้ดินทุกสถานีได้เลย
“Kushida Shrine” ศาลเจ้าเก่าแก่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ
ศาลเจ้าคูชิดะ (Kushida Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ของเมืองฟุกุโอกะ(Fukuoka) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นศาลเจ้าที่มีการออกแบบและตกแต่งอย่างสวยงามน่าเลื่อมใส ในแบบของศาสนาชินโต
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8554.jpg)
บรรยากาศภายในศาลเจ้าช่วงหน้าร้อนแบบนี้ จะมีดอกไม้มาช่วยเพิ่มสีสันอยู่ตามจุดต่างๆ อย่างเช่น “ดอกอาจิไซ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ดอกไฮเดรนเยีย” ที่ขณะนี้กำลังบานสวยงาม
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8553.jpg)
ในแต่ละวันศาลเจ้าแห่งนี้ จะมีผู้คนแวะเวียนเข้ามาไหว้ขอพร ให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง และอายุยืนยาว
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8552.jpg)
ถ้าได้มาเที่ยว “ฟุกุโอกะ” ต้องหาโอกาสแวะมาไหว้ขอพรศาลเจ้ากันสักครั้งนะ ไม่มีค่าเข้าสถานที่ เดินทางมาง่าย สะดวก ด้วยรถไฟใต้ดิน
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่ สถานี Kushida Shrine Station 櫛田神社前駅 แล้วเดินต่ออีกประมาณ 150 เมตร
“Hakozaki Shrine” เทศกาลดอกอาจิไซ(ไฮเดรนเยีย)
ในช่วงหน้าร้อน เป็นช่วงเวลาฤดูกาลของ “ดอกอาจิไซ” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ดอกไฮเดรนเยีย” กำลังเบ่งบานอวดสีสันต้อนรับหน้าร้อนเดือนมิถุนายนพอดี ซึ่งในเมือง “ฟุกุโอกะ” ก็มีจุดชมดอกอาจิไซ(ไฮเดรนเยีย) อยู่หลายจุด และหนึ่งในนั้นก็คือ ศาลเจ้าฮาโกซากิ(Hakozaki Shrine) ที่จะพามาเที่ยวชมกัน
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8551.jpg)
ศาลเจ้าฮาโกซากิ(Hakozaki Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ เป็นศาลเจ้าที่ใหญ่เป็น 1 ใน 3 ของศาลเจ้าฮาจิมัน ซึ่งบูชาเทพเจ้าฮาจิมัน
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8550.jpg)
ภายในบริเวณ “ศาลเจ้าฮาโกซากิ” จะมี “สวนดอกไฮเดรนเยีย” ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี จะมี “เทศกาลดอกอาจิไซ” (アジサイ祭り) โดยจัดแสดงดอกอาจิไซไว้กว่า 100 สายพันธุ์ จำนวนกว่า 3,500 ต้น ให้นักท่องเที่ยวได้ชม ใครแพลนมาเที่ยว “ฟุกุโอกะ” ช่วงนี้ แนะนำให้มาที่นี่เลย เดินทางง่ายด้วยรถไฟใต้ดิน แวะมาถ่ายรูปเล่นๆ ก็เพลินดีนะ
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8548.jpg)
การเดินทาง : จาก Hakata Station นั่งรถไฟใต้ดินมาลง สถานี Hakozakimiya-Mae Station (ทางออก 1) แล้วเดินต่อประมาณ 200 เมตร
“Fukuoka Castle Ruin” จุดชมดอกไฮเดรนเยีย ณ สวนไมซุรุ
สวนไมซุรุ(Maizuru Park) และ สวนโอโฮริ(Ohori Park) สวนสาธารณะใจกลางเมืองฟุกุโอกะที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ภายในมีจุดท่องเที่ยวสำคัญ อย่างเช่น Fukuoka Castle Ruin ซากปรักหักพังที่หลงเหลืออยู่ของ ปราสาทฟุกุโอกะที่เคยถูกทำลายจนปัจจุบันเหลือเพียงซากของกำแพงและฐานของหอคอย, Ohori Park Japanese Garden สวนญี่ปุ่นที่ตกแต่งได้อย่างสวยงามร่มรื่น
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8547.jpg)
ในช่วงฤดูกาลต่างๆ ภายในสวน ก็จะมีบรรยากาศที่แตกต่างกันไป อย่างช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ก็จะได้ชมสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะมีซากุระให้ชม ส่วนในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ก็จะมี “ดอกไฮเดรนเยีย” กำลังบานให้ชมอีกด้วย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8519.jpg)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8546.jpg)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8545.jpg)
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Ohori Park(Fukuoka Art Museum) 大濠公園駅(福岡市美術館口)
“Momochi Beach” ชิลยามเย็นริมชายหาด
เที่ยว #ฟุกุโอกะ ในโหมดยามเย็น ก็ต้องมาเดินเล่นชมบรรยากาศดีๆ ริมทะเล ณ Momochi Beach ที่ผู้คนในเมืองมักใช้เวลาในช่วงเย็นแบบนี้ มาพักผ่อน เดินเล่น ออกกำลังกาย และชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ กัน ซึ่งบริเวณนี้ก็มีจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ อย่างเช่น
● Fukuoka Tower : หอคอยสูงที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฟุกุโอกะ มีความสูง 234 เมตร ด้านบนหอคอยก็สามารถขึ้นไปชมวิวบรรยากาศมุมสูงเมืองฟุกุโอกะ แบบ 360 องศา
● Momochi Seaside Park : สวนสาธารณะริมทะเล พื้นที่แห่งการพักผ่อนริมทะเล โดยมีการจัดสวน และเส้นทางเดินริมชายหาด เหมาะที่จะมาเดินเล่นตากลมริมทะเลในช่วงยามเย็น
● Marizon : แหล่งรวมร้านค้าริมชายหาด ที่เป็นเหมือนเกาะยื่นลงไปกลางทะเล ภายใน มีร้านอาหาร ร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางทะเล ร้านขายของต่างๆ และยังเป็นสถานที่ไว้สำหรับจัดงานแต่งงานอีกด้วย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8544.jpg)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8543.jpg)
ไฮไลท์ คือ ช่วงเย็น บรรยากาศจะดีมาก มานั่งเล่นกินลมชมวิวริมหาด Momochi Beach อากาศสบายๆ ดี มีร้านอาหารให้ซื้อขนม ของว่าง เครื่องดื่ม มาจิบพร้อมชมบรรยากาศ ได้มาชมวิวพระอาทิตย์ตกที่นี่ มันชิลดีจริงๆ นะ
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8539.jpg)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8542.jpg)
การเดินทาง : จาก สถานีรถไฟใต้ดิน Nishijin เดินเล่นไปเรื่อยๆ 20 นาที ก็จะถึงชายหาด หรือ ถ้าไม่อยากเดินไกล จะนั่งรถบัสมาลงที่ป้าย Fukuoka Tower(TNC Hoso Kaikan)(bus) 福岡タワー(バス) ก็ได้ ถึงจุดหมายเลย สะดวกและรวดเร็วกว่าด้วย
“ศาลเจ้าดาไซฟุ” (Dazaifu Tenmangu Shrine)
ศาลเจ้าเก่าแก่และมีชื่อเสียงใน จังหวัดฟุกุโอกะ สร้างขึ้นตั้งแต่ในยุคเฮอัน ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการเคารพในฐานะเทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ วัฒนธรรม และศิลปะตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีชื่อเสียงเกี่ยวกับการศึกษา ผู้คนที่มาเยือนที่นี่ส่วนใหญ่มักจะมาขอพรกันเรื่องการเรียน จึงพบเห็น วัยรุ่น วัยเรียน วัยนักศึกษา เข้ามาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้กันอย่างมากมาย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8540.jpg)
มาเที่ยว “ศาลเจ้าดาไซฟุ” รอบนี้ อาจจะดูแปลกตาไปสักหน่อย เพราะมีการซ่อมแซมตัวศาลเจ้า โดยมีการสร้างอาคารศาลเจ้าชั่วคราวไว้เป็นที่สักการะขอพร
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8537.jpg)
สำหรับศาลเจ้าชั่วคราวนี้ ออกแบบโดยสถาปนิก Sousuke Fujimoto แนวคิดเหมือนป่าลอยน้ำ สื่อถึงความเป็นธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์รอบๆ ศาลเจ้าดาไซฟุ โดยบนหลังคามีการปลูกต้นไม้ รวมถึงต้นบ๊วยและพืชจากพื้นที่รอบๆ บริเวณศาลเจ้า เมื่อการซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อย ต้นไม้ต่างๆ ก็จะย้ายกลับไปยังป่าในบริเวณศาลเจ้าตามเดิม ซึ่งการซ่อมแซมจะใช้ระยะเวลา 3 ปี
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8541.jpg)
ช่วงเข้าสู่หน้าร้อนแบบนี้ (เดือนมิถุนายน – กรกฏาคม) จะเป็นช่วงเวลาที่ ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea) หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ดอกอาจิไซ (Ajisai) เบ่งบานอวดสีสันสวยงามให้ได้ชมอีกด้วย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8538.jpg)
การเดินทาง : จาก สถานีรถไฟ Nishitetsu – Fukuoka ไปลงที่สถานี Nishitetsu-Futsukaichi จากนั้น เปลี่ยนสายไปลงที่สถานี Dazaifu Station ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง รวมใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 26 นาที (ค่าโดยสาร 420 เยน)
“Nanzoin Temple” พระพุทธรูปนอนสัมฤทธิ์ใหญ่อันดับ 1 ของโลก
มาไหว้พระขอพรที่ Nanzoin Temple อีกหนึ่งวัดขึ้นชื่อของจังหวัดฟุกุโอกะ ที่ภายในวัด มีพระพุทธรูปนอน ความสูง 11 เมตร ยาว 41 เมตร และหนักถึง 300 ตัน สวยงามอลังการมาก แวดล้อมด้วยต้นไม้เขียวๆ กำลังสดชื่นเลยทีเดียว
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8536.jpg)
“Nanzoin Temple” สามารถเดินทางมาไหว้พระขอพรกันได้อย่างสะดวก เดินทางด้วยรถไฟมาอย่างง่ายมากๆ จากสถานีรถไฟ แล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงแล้ว เป็นอีกสถานที่ที่ควรจดไว้ในลิสเมื่อมาเยือน “ฟุกุโอกะ” เลย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8535.jpg)
มาถึงที่วัดแห่งนี้ทั้งที อย่าลืมชิม ซอฟท์ครีม (300 เยน) ด้วยนะ
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8534.jpg)
ระหว่างทางเดิน จาก สถานีรถไฟ ไป Nanzoin Temple จะมีสะพานดนตรี The melody bridge ซึ่งตรงราวสะพานจะมีแป้นตัวโน้ต เราสามารถเอาไม้มาเคาะเกิดเป็นเสียงเมโลดี้ของเพลง
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8518.jpg)
การเดินทาง : จาก เมือง “ฟุกุโอกะ” ขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟ Hakata Station สาย JR Fukukita Yutaka Line มาลงที่ สถานี Kido-Nanzōin-mae Station ใช้เวลาเดินทาง 26 นาที (ค่าโดยสาร 380 เยน) จากนั้น เดินต่ออีกประมาณ 300 เมตร
Yanagibashi Rengo Market ตลาดเช้าอาหารทะเล
ตลาดเช้าอาหารทะเลใจกลางเมืองฟุกุโอกะ(Fukuoka) เดินทางสะดวกด้วยรถไฟใต้ดิน แหล่งที่กินอย่างดีสำหรับคนชอบอาหารทะเล แนะนำเลย!
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8527.jpg)
ภายใน ตลาดปลา Yanagibashi Rengo Market จะเป็นซอยเล็กๆ มีความยาวแค่ 100 เมตรเท่านั้น แต่ก็มีร้านอาหารทะเลสดๆ กุ้ง หอย ปู ปลา ให้เลือกซื้อหลายร้าน และก็มีบางร้านที่สามารถนั่งทานในร้านได้
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8529.jpg)
อย่างร้านแนะนำที่มีโอกาสได้มาลองชิมในครั้งนี้ ชื่อร้าน 古賀鮮魚 เปิดขายอาหารทะเลสดๆ และมีส่วนของร้านอาหารที่ให้นั่งทานได้ ซึ่งแม้จะอยู่ในตลาด แต่ร้านก็สะอาดดี มีเมนูอาหารทะเลให้ลองชิมมากมาย สด และอร่อยจริงๆ ใครมาย่านนี้ห้ามพลาดเลยนะ!
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8528.jpg)
การเดินทาง : จาก สถานีรถไฟใต้ดิน Watanabe-Dori Station เดินประมาณ 300 เมตร
Marugetta Tojinmachi ร้านพาสต้าเมนไทโกะ
“ไข่ปลาเมนไทโกะ” อีกหนึ่งเมนูเด็ดของ ฟุกุโอกะ ที่ต้องมาลองชิม ซึ่งร้านนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องการนำเมนไทโกะมาประกอบเป็นเมนูอาหาร ดูน่าสนใจดี
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8526.jpg)
เมนูหลักของ Marugetta Tojinmachi จะเป็น “พาสต้า” รสชาติเข้มข้น เสิร์ฟมาร้อนๆ ตัวซอสของพาสต้าเข้ากันกับเมนไทโกะได้อย่างดี อร่อยมาก ใครชอบเมนไทโกะหรืออยากลองชิม ก็ไปแวะร้านนี้กันได้นะ
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8525.jpg)
การเดินทาง : จาก สถานีรถไฟใต้ดิน Tojinmachi Station เดินประมาณ 100 เมตร
“ปีกไก่ทอด” ร้านเด็ดฟุกุโอกะ
ร้านปีกไก่ทอด 博多手羽先横丁 薬院店 อยู่ในย่าน Yakuin เป็นร้านแนวอิซากายะ ที่มีเมนูหลัก คือ ปีกไก่ทอด ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ ปีกไก่กรอบฉ่ำ และมีให้เลือกถึง 6 รส อย่างเช่น รสดั้งเดิม สาหร่ายรสเค็ม รสธรรมดา รสแกงกะหรี่ เป็นต้น (ทางร้านแนะนำรสชาติดั้งเดิม) เริ่มต้นที่ 5 ชิ้น = 462 เยน
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8532.jpg)
สำหรับใครอยากกินแบบจุใจ ก็เลือกแบบกินไม่อั้นได้ (อย่างคุ้ม!) ซึ่งจะรวมทั้งปีกไก่ทอด เครื่องเคียง และเครื่องดื่มไม่อั้นกว่า 30 ชนิด รวมทั้งหมดทุกอย่าง(รวมภาษี) = 2,750 เยน/คน (120 นาที)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8531.jpg)
“ปีกไก่ทอด” จะทยอยทอดตามจำนวนที่สั่งไป ทำให้ได้ปีกไก่ทอดเสิร์ฟมาแบบร้อนๆ กินอร่อยดี กินได้ไม่อั้น มีหลายรสให้เลือก ค่อยๆ แทะกินไปเพลินมาก แถมได้เครื่องดื่มเย็นๆ ดื่มตามเข้าไปด้วย อย่างฟินเลย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8530.jpg)
การเดินทาง : จาก สถานีรถไฟใต้ดิน Watanabe-Dori Station เดินประมาณ 250 เมตร
“ฟุกุโอกะ” เที่ยวชิลดี ไว้มาเที่ยวกันนะ!
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/06/img_8524.jpg)