JAPAN : รีวิวเที่ยว “ญี่ปุ่น” (TOKYO – NAGANO) ตะลุยกินโตเกียว / ชมธรรมชาติคามิโคจิ / เก็บผลไม้สดๆ จากสวน
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4619.jpg)
Ohayo! ได้เวลาออกเดินทางเที่ยว “ญี่ปุ่น” กันอีกครั้ง ทริปนี้ เราจะพาไปเที่ยวในเส้นทางบินตรงสู่ โตเกียว – นาริตะ (NRT) ประเทศญี่ปุ่น กับสายการบิน Thai AirAsia X เดินทางสะดวกสบาย ราคาประหยัดคุ้มค่า ตารางเวลาดี เดินทางถึงปลายทางตอนเช้าก็พร้อมเที่ยวต่อได้เลย
บินตรงสู่ “โตเกียว” ญี่ปุ่น กับ Thai AirAsia X
เริ่มต้น ออกเดินทาง มาขึ้นเครื่องที่ “สนามบินสุวรรณภูมิ” หลังจากสำรองที่นั่งเรียบร้อย แนะนำให้ทำ Web Check in มาก่อนล่วงหน้า เมื่อมาถึงเคาน์เตอร์เช็คอินที่สนามบิน ก็จะมีช่องสำหรับคนที่ทำ Web Check in มาแล้ว ก็แค่มาตรวจเอกสาร และโหลดสัมภาระเท่านั้น เดินทางช่วงหน้าร้อนแบบนี้ คนน้อยดี ไม่แออัดมาก ในขั้นตอนการตรวจสัมภาระ หรือผ่าน ตม. ก็ใช้เวลาไม่นาน
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4669.jpg)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4668.jpg)
ในระหว่างเดินทาง บนเครื่องก็จะมีพนักงานต้อนรับมาคอยให้บริการอย่างดี มีบริการจำหน่ายอาหารหลากหลายเมนู อย่างเช่น ข้าวหน้าไก่เทอริยากิ (Chicken Teriyaki with Rice), ข้าวกะเพราไก่หม่อมหน่อย(Ml. Noi Basil Fried with Chicken) เป็นต้น รวมถึงเครื่องดื่มบนเที่ยวบินที่ห้ามพลาดในช่วงนี้ อย่าง “น้ำลำไยสด” เมนูใหม่จากแอร์เอเชีย ชิมแล้ว รู้สึกสดชื่นดี โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องเดินทางตอนเช้าๆ ได้ดื่มน้ำลำไยเย็นๆ แบบนี้ เรียกความสดชื่นได้อย่างดีเลย แถมมีเนื้อลำไยให้ได้เคี้ยวเล่นหนึบๆ อีกด้วย
● น้ำลำไยสด (120 บาท)
● อเมริกาโน่น้ำลำไยสด (120 บาท)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4667.jpg)
จาก กรุงเทพฯ(BKK) เดินทางมาถึงปลายทางที่โตเกียว(NRT) ได้อย่างปลอดภัย ตามเวลาที่กำหนด ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง มาถึงโตเกียวในช่วงเช้า ก็พร้อมเที่ยวต่อได้เลย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4671.jpg)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4666.jpg)
ตารางบิน Thai AirAsia X เส้นทางบินตรงจาก “กรุงเทพฯ” (BKK) สู่ “โตเกียว” (NRT) ประเทศญี่ปุ่น เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย และบินตรงเวลา
(ขาไป)
● BKK – NRT : XJ 602 : 05.05 – 13.30
● BKK – NRT : XJ 600 : 23.55 – 08.00
(ขากลับ)
● NRT – BKK : XJ 601 : 09.15 – 14.00
● NRT – BKK : XJ 603 : 14.45 – 19.35
จองได้ที่ : https://www.airasia.com/th/th
เที่ยว “ญี่ปุ่น” ด้วย JR East Nagano-Niigata Area Pass
การเดินทางมาเที่ยว “โตเกียว” ในทริปนี้ เรามีแผนเดินทางท่องเที่ยวในโตเกียว และจังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียง จึงได้เลือกใช้บัตรพาสรถไฟของ JR East Pass ในการเดินทาง โดยเลือก JR East Nagano-Niigata Area Pass (5 Days) สำหรับท่องเที่ยวใน Tokyo, Nagano, Matsumoto, Niigata, Nikko เป็นต้น สามารถใช้บัตรใบนี้ในการเดินทางด้วยรถไฟสาย JR East, Yamanote Line รวมถึงรถไฟชินคันเซ็น ในพื้นที่ที่กำหนดได้อย่างไม่จำกัด ในระยะเวลา 5 วัน ซึ่งก่อนเดินทาง เราก็ได้ทำการซื้อออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์มาก่อนล่วงหน้า ซื้อง่าย และสะดวกสบายมาก
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4665.jpg)
วิธีการซื้อบัตร JR East Nagano-Niigata Area Pass (5 Days) หรือบัตรอื่นๆ ของ JR East Pass ผ่านเว็บไซต์
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4673.jpg)
1.เข้าเว็บไซต์ eki-net
2.ลงทะเบียน ด้วยอีเมล์และตั้งรหัสผ่าน จากนั้น เข้าสู่ระบบเพื่อทำรายการ
3.เลือกซื้อบัตรของ JR East Pass ตามที่ต้องการ โดยเลือกเมนู Purchase a pass เลือกพื้นที่ของพาสที่จะใช้งาน ระบุวันใช้งาน และสถานที่ในการรับบัตร พร้อมชำระเงิน
4.ในวันเดินทาง เมื่อเดินทางถึง สนามบินนาริตะ(NRT) แสดงหนังสือเดินทางตัวจริง ที่จุดจำหน่ายในสถานีรถไฟ โดยใช้ QR Code ไปกดรับบัตรได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วที่นั่งแบบจองล่วงหน้า (Reserved Seat Ticket) แบบมีเครื่องอ่านหนังสือเดินทาง จะต้องใช้หนังสือเดินทางที่มีชิป IC ด้วย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4664.jpg)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4663.jpg)
นอกจากนี้ ก็ยังสามารถจองที่นั่งบนรถไฟผ่านเว็บไซต์ ล่วงหน้าได้เช่นกัน โดยเลือกเมนู “Seat Reservation” เลือกขบวนหรือเส้นทางรถไฟ ระบุวันเวลาที่เดินทาง จากนั้น ก็กดเลือกที่นั่งตามที่ต้องการ ก็เป็นอันเรียบร้อย เป็นการจองที่นั่งบนรถไฟ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง สะดวกสบายมากๆ เลย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4672.jpg)
การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง “โตเกียว” ด้วย Narita Express
เนื่องจากใช้บัตร JR East Nagano-Niigata Area Pass (5 Days) จึงสามารถใช้โดยสารรถไฟ Narita Express (N’EX) ได้ ซึ่งเป็นรถไฟด่วนพิเศษที่เชื่อมตรงระหว่างสนามบินนาริตะ (Narita Airport) กับเมือง Tokyo เดินทางได้อย่างรวดเร็ว
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4662.jpg)
ภายในตู้โดยสาร มีที่นั่งที่สบาย มีที่สำหรับวางสัมภาระและกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ เป็นการเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองได้อย่างสะดวกสบายมาก ใช้เวลาเดินทางเร็วสุดเพียง 53 นาที เท่านั้น
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4661.jpg)
และ สำหรับผู้ที่ใช้บัตรของ JR East Pass ก็จะได้รับส่วนลดและสิทธิพิเศษ จากร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในสถานีรถไฟ (&EKINAKA) อีกด้วย โดยสามารถดูร้านค้าที่ร่วมรายการเพิ่มเติม ได้ที่นี่
เราเลยถือโอกาสนี้ ใช้ส่วนลดของร้านค้าในสถานีรถไฟ Tokyo Station ซึ่งจะมีศูนย์รวมร้านค้ามากมายในสถานีรถไฟ อย่าง GRANSTA
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4660.jpg)
และ เราได้ลองมาใช้บริการที่ร้าน Kakunoshin Hamburg Steak & Bar อีกหนึ่งร้านอาหารที่อยู่ใน GRANSTA ภายในสถานีรถไฟ Tokyo Station เป็นร้านที่มีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อ วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อ แนะนำให้แวะมาลองชิมที่ร้านนี้เลย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4659.jpg)
เมนูแนะนำ จะเป็น Hamburg Steak เนื้อนุ่มอร่อย ทานเข้ากันดี ซึ่งผู้ที่ใช้ JR East Pass สามารถแสดงบัตรเพื่อรับเพิ่ม Free soft-boiled egg or cheese topping with a Hamburg steak order เป็นสิทธิพิเศษสำหรับผู้ใช้งาน JR East Pass อีกด้วย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4658.jpg)
นอกจากในส่วนของร้านอาหารแล้ว ก็ยังมีร้านค้าอื่นๆ ที่ร่วมรายการเช่นกัน อย่างเช่น TRAINIART TOKYO ร้านที่รวมของที่ระลึกเกี่ยวกับรถไฟ JR East ไม่ว่าจะเป็น โมเดลรถไฟชินคังเซ็น พวงกุญแจ ตุ๊กตา โปสการ์ด และของที่ระลึกต่างๆ น่าสะสม
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4657.jpg)
โดยผู้ที่ใช้ JR East Pass สามารถแสดงบัตรเพื่อรับ Free Shinkansen ballpoint pen เมื่อใช้จ่ายที่ร้านค้า ตั้งแต่ 1,500 เยนขึ้นไป ใครชอบสะสมไม่ควรพลาดนะ!
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4656.jpg)
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมร้านค้า ของ &EKINAKA เพิ่มเติม ได้ที่นี่
จาก Tokyo ไป Nagano ด้วยรถไฟ Shinkansen
Matsumoto ประเดิมเที่ยวที่แรก!! กับปราสาทเก่าแก่แห่งเมืองมัตสึโมโต้
หลังจากรับบัตร JR East Nagano-Niigata Area Pass เรียบร้อย เราก็นั่งรถไฟชินคังเซ็นยาวจาก สถานีรถไฟ Tokyo Station ขึ้นรถไฟสาย Hokuriku-Shinkansen มาลงที่สถานีรถไฟ Nagano Station จากนั้น เปลี่ยนมาขึ้นสาย JR Shinano Line มาลงที่สถานีรถไฟ Matsumoto Station ที่เมือง Matsumoto อีกเมืองประวัติศาสตร์ที่มีความน่าสนใจ
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4655.jpg)
เมื่อมาถึง Matsumoto สถานที่แรก ก็ต้องไม่พลาดมาเที่ยวที่ “ปราสาทมัตสึโมโต้” แม้เราจะเคยมาที่นี่บ้างแล้ว(ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี) แต่ได้มาในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ก็ถือว่า ได้อีกบรรยากาศดีนะ
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4654.jpg)
ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle) ปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2135 ตัวปราสาทสร้างขึ้นด้วยไม้ โดยการสร้างจะไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว มีการออกแบบให้ดูจากภายนอกเหมือนมี 5 ชั้น แต่ภายในมีทั้งหมด 6 ชั้น เพื่อเป็นการลวงตาศัตรู และเนื่องจากตัวปราสาทมีสีดำ ปราสาทนี้จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ปราสาทอีกา” ที่มีความสวยงาม สีดำทะมึนดูน่าเกรงขาม
ภายใน “ปราสาทมัตสึโมโต้” (Matsumoto Castle) จะมีการจัดแสดงนิทรรศการทางประวัติศาสตร์ รวมถึง ข้าวของเครื่องใช้ในอดีต อาวุธ เกราะซามูไร ฯลฯ สามารถเดินชมไปในแต่ละชั้น และชั้นบนก็ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้อย่างสวยงามอีกด้วย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4653.jpg)
ในช่วงปลายปี(เดือนพฤศจิกายน) บริเวณรอบปราสาทจะรายล้อมด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี และช่วงฤดูใบไม้ผลิ(เดือนมีนาคม) ก็จะมีดอกซากุระบานสะพรั่งสวยงาม เป็นอีกจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีและดอกซากุระยอดนิยมของเมืองนี้
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมปราสาทได้โดยรอบ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ถ้าจะเข้าไปชมภายในตัวปราสาท ก็จะมีค่าเข้าชม ดังนี้
● ผู้ใหญ่ 700 เยน
● เด็ก(ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา) 300 เยน
● เด็กเล็กและเด็กอนุบาล เข้าฟรี
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4652.jpg)
ไม่ไกลจาก “ปราสาทมัตสึโมโต้” (Matsumoto Castle) จะมี “ถนนนาวาเตะ” (Nawate Street) หรือ “ถนนกบ” เป็นถนนโบราณเส้นเล็กๆ ยาวประมาณ 300 เมตร ที่สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมัตสึโมโต้ อยู่ไม่ไกลจากปราสาทมัตสึโมโต้(Matsumoto Castle) สามารถแวะมาเดินเล่นที่นี่ต่อได้
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4651.jpg)
จุดเด่น ของ “ถนนนาวาเตะ” แห่งนี้ ก็คือ “กบ” โดยจะเห็นกบอยู่ในทุกที่ของถนนสายนี้ ไม่ว่าจะเป็นอนุสาวรีย์กบ ศาลเจ้ากบ รูปปั้นกบ รวมไปถึงของที่ระลึกต่างๆ ก็จะเป็นสัญลักษณ์รูปกบ ซึ่งชาวญี่ปุ่นจะมีความเชื่อว่า “กบ” เป็นสัญลักษณ์ที่จะนำพาโชคลาภมาให้ เงินทองไหลมาเทมา
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4650.jpg)
ภายใน “ถนนนาวาเตะ” จะมีร้านค้าที่น่าสนใจอยู่หลายร้าน อย่างเช่น ร้านขายแคร็กเกอร์ที่ทำจากข้าว(หรือ ขนมเซ็มเบะ), Furusato TAIYAKI ร้านไทยากิ ขนมหวานญี่ปุ่นรูปปลา สอดไส้หลากหลายรสชาติให้ได้ลองชิม เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีร้านของเก่า ของสะสมโบราณ ให้ได้เดินชม รวมไปถึงร้านจำหน่ายของที่ระลึก(แบบอ๊บอ๊บ) ให้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากอีกด้วยนะ เราชอบมาเดินเล่น หาขนมกิน ฟีลอะไรแบบนี้ ได้บรรยากาศชิลๆ ดี
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4649.jpg)
และ ก็ต้องไม่ลืมแวะสักการะขอพรที่ ศาลเจ้าโยฮะชิระ (Yohashira Jina Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ของเมืองมัตสึโมโต้ อีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่อยู่ติดกับถนนนาวาเตะ ในบรรยากาศที่ดูสงบเงียบและร่มรื่น
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4648.jpg)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4647.jpg)
คามิโคจิ (Kamikochi) สัมผัสธรรมชาติ สูดความสดชื่นจากป่า
Highlight ของการมาเที่ยว “ญี่ปุ่น” ทริปนี้ ก็คือการได้มา “คามิโคจิ” (Kamikochi) อีกครั้ง ซึ่งในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ได้บรรยากาศความเขียวของต้นไม้ ท้องฟ้าสดใส ได้ฟิลธรรมชาติแบบสุดๆ เดินเล่นชมวิวได้ทั้งวันเลยแหละ
จากที่พักในเมืองมัตสึโมโต้(Matsumoto) เราออกจากที่พักตั้งแต่เช้า ไปที่สถานีรถไฟมัตสึโมโต้(Matsumoto Station) โดยซื้อตั๋วแบบรวมรถไฟและรถบัส (ราคา 2,710 เยน/เที่ยว) เป็นรถไฟสายคามิโคจิ (Kamikochi line) ที่วิ่งระหว่าง Matsumoto Station ไปสุดสายที่ Shin-Shimashima Station ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที จากนั้น ต่อรถบัสไปยังคามิโคจิ ใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง โดยจะมีรอบรถไฟและรถบัสออกทุกๆ ชั่วโมง แนะนำรีบไปตั้งแต่รถรอบช่วงเช้า แล้วกลับช่วงเย็นๆ ได้เที่ยว “คามิโคจิ” แบบเต็มๆ วัน อิ่มกับบรรยากาศแน่นอน
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4646.jpg)
“Kamikochi” แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของจังหวัด Nagano ตั้งอยู่บนความสูง 1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเลบรรยากาศโอบล้อมด้วยภูเขาและป่าไม้ เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินป่า โดยจะมีเส้นทางเดินป่าซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาวให้เลือกเดินกัน มีความสวยงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล โดยที่นี่จะเปิดตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี(ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน จนถึง 15 พฤศจิกายน)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4645.jpg)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4644.jpg)
และ เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งของ “คามิโคจิ” อยู่กึ่งกลางระหว่างเมือง Matsumoto และ Takayama ทำให้สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริป จากทั้งสองเมืองนี้ได้แบบสบายๆ
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4643.jpg)
จุดท่องเที่ยว น่าสนใจ ใน “Kamikochi”
● บึงไทโช(Taisho Pond) บึงที่เกิดจากการระเบิดเมื่อประมาณ 100 ปีก่อนของภูเขาไฟยาเกะ(Mt. Yake) ชมบรรยากาศของบึงน้ำที่มีฉากหลังเป็นทิวเขา เป็นจุดเริ่มต้นยอดนิยมของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
● บึงทาชิโระ(Tashiro Pond) บึงน้ำที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ มีวิวที่สวยงามโดยเฉพาะช่วงเช้าอาจจะเห็นสายหมอกพาดผ่านทิวยอดไม้อีกด้วย
● แม่น้ำอาซุสะ(Azusa River) แม่น้ำสีฟ้าใสสวยงาม ซึ่งมีต้นน้ำมาจากภูเขายาริ(Mt. Yari) ไหลผ่านกลางหุบเขาคามิโคจิ สามารถแวะชมวิวริมแม่น้ำได้ตลอดแนวทางเดินเลียบแม่น้ำ
● สะพานคัปปาบาชิ(Kappa Bridge) จุดถ่ายภาพยอดนิยม แลนด์มาร์คของคามิโคจิ ที่สามารถชมวิวความสวยงามของเทือกเขาโฮทากะ(Hotaka) ได้แบบเต็มๆ
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4642.jpg)
ถ้าใครสนใจเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติแบบเรา แนะนำให้ลงรถบัสโดยสารที่ป้าย K-28 Taisho Pond ตรงบริเวณทางเข้า บึงไทโช(Taisho Pond) แล้วเดินชมธรรมชาติตามเส้นทางเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ ซึ่งจะมีจุดแวะพักชมวิวธรรมชาติระหว่างทาง จนไปสิ้นสุดยังจุดถ่ายภาพยอดนิยมที่ สะพานคัปปาบาชิ(Kappa Bridge) รวมระยะทางประมาณ 3.7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินและแวะถ่ายภาพ 2-3 ชั่วโมง
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4641.jpg)
ตลอดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ วิวสวยมาก ใช้คำว่าสวยได้แบบเปลืองสุดๆ เป็นสถานที่ที่อยากแนะนำให้ทุกคนมาเยือนให้ได้นะ
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4640.jpg)
วัดเซ็นโคจิ(Zenkoji Temple) วัดพุทธเก่าแก่ของจังหวัด Nagano
ยังคงอยู่ที่เมือง Nagano ต้องไม่พลาดมาเที่ยวสถานที่สำคัญอย่าง วัดเซ็นโคจิ(Zenkoji Temple) ที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดพุทธเก่าแก่ และมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ศาสนาพุทธในประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดที่ไม่มีการแบ่งแยกนิกาย โดยใครๆ ก็สามารถมาเคารพสักการะได้ จึงมีผู้เลื่อมใสทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ เข้ามาเที่ยวชมที่วัดแห่งนี้อย่างมากมาย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4639.jpg)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4637.jpg)
และ บริเวณหน้าวัดจะมีถนนที่จะพาเข้าไปสู่วัดที่ชื่อว่า “ถนนนากามิเซะ-โดริ” เป็นถนนที่เรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารและร้านขนมญี่ปุ่นมากมายให้ได้ลองชิม รวมไปถึงร้านของฝากของที่ระลึกจากจังหวัด Nagano อีกด้วย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4638.jpg)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4636.jpg)
ชิมน้ำพีช 100% เก็บผลไม้สดจากสวน
จังหวัด Nagano เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องสวนผลไม้หลากหลายชนิด มีสวนผลไม้มากมายกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ และบางสวนก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสวน และมีคอร์สให้เก็บผลไม้กินสดๆ จากต้น แบบไม่อั้นกันเลยทีเดียว
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4635.jpg)
เราได้เดินทางมาที่สวน Shiozaki ในเมือง Iiyama จังหวัด Nagano ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับการเก็บแอปเปิ้ลและองุ่น และยังมีลูกพีชหวาน ลูกพลัม รวมถึงผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้แปรรูปต่างๆ อีกด้วย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4632.jpg)
และ อีกเมนูเครื่องดื่มแนะนำห้ามพลาด ก็คือ “น้ำพีช 100%” (350 เยน/แก้ว) คั้นสดทั้งลูก รสชาติ หวาน หอม อร่อย ที่มีจำหน่ายในช่วงเวลาจำกัด(หน้าร้อน) เท่านั้น
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4633.jpg)
ค่าธรรมเนียมเก็บ “แอปเปิ้ล”
● คอร์สทานได้ไม่อั้น : 800 เยน (ตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป)
● ช่วงเวลาเก็บ : ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ถึง กลางเดือนพฤศจิกายน เวลา 09.00 น. – 16.30 น.
ค่าธรรมเนียมเก็บ “องุ่น”
● คอร์สทานได้ไม่อั้น : เริ่ม 2,000 เยน
● ช่วงเวลาเก็บ : ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ถึง กลางเดือนตุลาคม เวลา 09.00 น. – 16.30 น.
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4634.jpg)
“สวน Shiozaki” เป็นสวนผลไม้ที่เดินทางมาได้ง่าย เพราะอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Iiyama Station 飯山駅 ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่มีทั้งชินคังเซ็นและรถไฟธรรมดา ทำให้เดินทางมาได้อย่างสะดวก จาก “โตเกียว” นั่ง Hokuriku-Shinkansen มาที่นี่ ก็ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที และยิ่งมี JR Pass ที่ครอบคลุมพื้นที่นี้ (เราใช้ JR East Nagano-Niigata Area Pass) ยิ่งสบายเลย นั่งชินคังเซ็น มาลงที่สถานีรถไฟปลายทาง เดินต่ออีก 400 เมตร ก็ถึงสวนแล้ว!
Yanaka Ginza ย่านตลาดเก่าแก่แห่งโตเกียว
เดินทางกลับเข้ามาสู่เมืองหลวง “โตเกียว” เรามากันที่ Yanaka Ginza ตลาดเก่าแก่บรรยากาศย้อนยุคในธีมเหมียวๆ และจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกของโตเกียว ที่สามารถนั่งรถไฟ YAMANOTE Line มาลงที่ Nippori Station ได้อย่างสะดวกมาก
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4631.jpg)
ยานากะ กินซ่า(Yanaka Ginza) เป็นย่านถนนคนเดินเก่าแก่ มีระยะทางเกือบ 200 เมตร โดยสองข้างทางจะเรียงรายไปด้วยร้านค้าที่เปิดมาอย่างยาวนาน ได้บรรยากาศย้อนยุค ซึ่งในบรรดาร้านค้าจะประกอบไปด้วย ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายอาหาร ร้านขนม ร้านขายของที่ระลึก รวมไปถึงคาเฟ่น่ารักๆ ที่ตกแต่งขึ้นมาได้อย่างน่านั่ง
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4630.jpg)
จุดน่าสนใจ คือ ตลอดถนนทั้งเส้นนี้ จะพบกับรูปปั้นแมวที่หลบซ่อน และแอบมองอยู่ตามจุดต่างๆ ให้เราได้ถ่ายรูปเล่น มีคาเฟ่แมว และร้านขนมที่ออกแบบในสไตล์เหมียวๆ อย่างเช่น “โดนัทหางแมว” ให้ได้ลองชิมอีกด้วย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4629.jpg)
นอกจากนี้ “Yanaka Ginza” ยังมีจุดชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ อีกแห่งหนึ่งของเมืองโตเกียว ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ตรงบันไดที่มีชื่อว่า ยูยาเกะดันดัน(Yuyake Dandan) โดยในช่วงยามเย็นจะมีผู้คนมารอชมพระอาทิตย์ตกเยอะเหมือนกัน บรรยากาศดีมากๆ ใครมาเที่ยว “โตเกียว” อย่าลืมแวะมาเดินเล่นที่นี่กันนะ
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4628.jpg)
Sensoji Temple วัดเก่าแก่เมืองโตเกียว
วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) หรือ วัดโคมแดง หรือวัด Asakusa ที่คนไทยรู้จักกันดี วัดเก่าแก่และมีชื่อเสียงของเมืองโตเกียว มีประตูคามินาริมง(Kaminarimon Gate) กับโคมแดงขนาดยักษ์ตั้งโดดเด่นตรงบริเวณทางเข้าวัด
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4627.jpg)
ได้มาเยือนที่นี่ กี่ครั้ง ก็จะได้เจอกับนักท่องเที่ยวไทยเยอะเป็นพิเศษ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ซึ่งถ้าใครมาเที่ยว #โตเกียว ทั้งที ก็ต้องมาที่วัดนี้กันอย่างแน่นอน มาสักการะขอพรเพื่อความโชคดี และถ่ายรูปเช็คอินกับโคมแดงใบใหญ่เป็นที่ระลึกกัน
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4626.jpg)
หลังจากได้สักการะขอพร เรียบร้อยแล้ว บริเวณหน้าวัดก็จะเป็น ถนนช้อปปิ้งนากามิเสะ (Nakamise) ซึ่งจะมีร้านค้าขายสินค้าต่างๆ ตลอดความยาว 200 เมตร พวกอาหาร ขนมหวานญี่ปุ่นนานาชนิด ที่ทำกันแบบร้อนๆ สามารถมาเดินหาซื้อขนมอร่อยๆ ลองชิม หรือจะซื้อกลับไปเป็นของฝากก็ได้
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4624.jpg)
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4625.jpg)
ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market) แหล่งรวมอาหารทะเลแห่งเมืองโตเกียว
เที่ยว “โตเกียว” ทริปนี้ ก็ต้องตื่นเช้ามาหาอะไรอร่อยๆ กินที่ตลาดปลาชื่อดังของเมืองโตเกียว อย่าง “ตลาดปลาซึกิจิ” (Tsukiji Fish Market) มีอาหารทะเลให้เลือกชิมอย่างมากมาย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4623.jpg)
“ตลาดปลาซึกิจิ” (Tsukiji Fish Market) แหล่งรวมอาหารทะเลสดๆ ตั้งอยู่กลางเมืองโตเกียว ภายในมีร้านค้ามากมาย ที่จำหน่ายอาหารทะเลแบบสดๆ ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา ที่นำมาทำสารพัดเมนูให้ได้ลองชิม โดยเราสามารถกินอาหารทะเลแบบสดๆ กันที่หน้าร้านได้เลย หรือ บางร้านก็มีบริการโต๊ะ ที่นั่ง ให้นั่งกินได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4622.jpg)
นอกจาก อาหารทะเล แล้วก็ยังมีอาหารประเภทอื่นๆ อย่างพวกผัก ผลไม้ อาหารแปรรูป ขนม ของฝาก ให้ได้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4621.jpg)
และ ในบรรดาร้านค้าต่างๆ เมนูยอดนิยมอีกหนึ่งเมนู ก็คือ “ไข่หวานม้วน” Tamagoyaki (ราคา 150 เยน/ไม้) ที่ทำกันแบบสดๆ ร้อนๆ สามารถมองเห็นขั้นตอนวิธีการทำอย่างใกล้ชิด ชวนให้อยากลองชิม ซึ่งก็อร่อยดีนะ ยิ่งกินตอนร้อนๆ สุดยอดเลย
![](https://chailaibackpacker.com/wp-content/uploads/2023/09/img_4620.jpg)
ใครมีโอกาสมาเที่ยว “โตเกียว” ก็ห้ามพลาดมาเที่ยวที่ “ตลาดปลาซึกิจิ” (Tsukiji Fish Market) แห่งนี้ ของกินเพียบ เพลินกับการกินแน่นอน!
#ไปโตเกียวไปกับไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์
#AirAsia #บินตรงสู่โตเกียว
#AirAsiaTravels #JREastPass