EP3/11 : เที่ยววนไปใน.. Aizu Wakamatsu ด้วย Loop Bus 1 วัน สุดคุ้ม!

SHARE!

เที่ยววนไปใน.. Aizu Wakamatsu ด้วย Loop Bus 1 วัน สุดคุ้ม!

 

Aizu Loop Bus 1 Day Pass..
นั่งรถเที่ยว Aizu Wakamatsu สุดคุ้ม ใน 1 วัน..

เข้าสู่วันที่ 2 ของการเดินทางท่องเที่ยวใน จังหวัดฟุคุชิมะ(Fukushima) ซึ่งวันนี้ผมมีโปรแกรมตะลอนเที่ยววนในเมือง Aizu Wakamatsu ทั้งวัน โดยจะใช้รถบัส Aizu Loop Bus ในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ของเมืองนี้ครับ

ผมเช็คเอาท์ออกจาก Motoyu Ariyama Ryokan ที่พักใน Higashiyama Onsen ที่ผมได้เข้าพักมาเมื่อคืน ซึ่งย่าน Higashiyama Onsen ที่ผมอยู่ ณ ตอนนี้ถือว่าเป็นแหล่งออนเซ็นขึ้นชื่อของเมือง Aizu Wakamatsu แห่งนี้เลยครับ มีที่พักที่ให้บริการแช่ออนเซ็นอยู่มากมาย และในหลายระดับราคา ถ้าใครชอบแช่ออนเซ็นไม่ควรพลาดมาที่นี่ครับ

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ในเมือง Aizu Wakamatsu สามารถนั่งรถ Aizu Loop Bus วนเที่ยวได้สบายๆ ครับ โดยมีจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle), คฤหาสน์ซามูไรบูเคยาชิกิ(Aizu Bukeyashiki), สุสาน 19 ซามูไรเสือขาว (Byakkotai) บนยอดเขา Iimoriyama, เจดีย์โบราณ (Sazaedo) เป็นต้น

ผมเดินมายังจุดรอรถบัส ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกันกับ ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว สามารถติดต่อซื้อตั๋ว Aizu Loop Bus แบบรายเที่ยว และแบบ 1 Day Pass จากที่นี่ได้เลย ราคาค่าโดยสาร รายเที่ยว จะอยู่ที่ 210 เยน/คน/เที่ยว (ผู้ใหญ่) และ 110 เยน/คน/เที่ยว (เด็ก) ถ้าคิดว่าต้องนั่งหลายเที่ยวซื้อแบบ 1 Day Pass ก็คุ้มดีครับ ราคา 600 เยน(ผู้ใหญ่) และ 300 เยน(เด็ก) นั่งวนเที่ยวได้ทั้งวัน และวันนี้.. ผมจะต้องใช้บริการรถ Aizu Loop Bus ทั้งวัน ก็จัดไป! แบบ 1 Day Pass แค่ขึ้นรถ 3 เที่ยว ก็คุ้มแล้ว!

ใน ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว มีโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์งาน Aizu Painted Candle Festival 2019 (เทศกาลเทียนประดับภาพวาด) ที่ ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle) ในเมือง Aizu Wakamatsu วันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2562 ก็คือ ในช่วงเย็นวันนี้ เดี๋ยวไว้จะพาไปชมครับ..

บริเวณจุดรอรถบัส จะมีที่นั่งรอพร้อมเปิดฮีทเตอร์ให้ความอบอุ่น ในระหว่างที่รอรถบัสมาเข้าป้ายด้วย

รถบัส(Aizu Loop Bus) ที่ให้บริการ จะเป็นรถบัสแนว Retro แบ่งออกเป็น 2 สาย คือ สายสีเขียว (H = Haikara-san) และ สายสีแดง (A = Akabe) ซึ่งทั้ง 2 สาย จะวิ่งวนเป็นวงกลมในทิศทางที่สวนกัน โดยสายสีเขียวจะวิ่งวนทวนเข็มนาฬิกา ส่วนสายสีแดงวิ่งตามเข็มนาฬิกา จะมีระยะห่างแต่ละเที่ยว 30 นาที

ผมรออยู่ที่ป้าย Higashiyama Onsen (H27, A14) อยู่ไม่นาน รถบัสก็เข้ามาจอดรับผู้โดยสาร ผมตั้งใจจะนั่งรถไปลงที่ สถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu ก่อน เพื่อไปหาที่ฝากกระเป๋า

บริเวณหน้า สถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu จะพบกับวัว Akabeko ตัวสีแดง สัญลักษณ์ของเมือง Aizu Wakamatsu สามารถกดปุ่มเพื่อให้หัววัวขยับ และส่งเสียงต้อนรับได้ครับ

ภายใน สถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu มี ที่ฝากสัมภาระแบบหยอดเหรียญ ไว้ให้บริการ ถ้าเดินออกมาจากตัวสถานีรถไฟ ให้เดินเลี้ยวซ้ายไปทางห้องน้ำนะครับ แถวนั้นค่าฝากจะราคาถูกกว่า

ถ้าใครเดินทางมาจากเมืองอื่น แล้วมาลงที่ สถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu ก็สามารถเดินออกมาซื้อตั๋วแบบ 1 Day Pass ที่ จุดจำหน่ายตั๋วที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟได้นะครับ ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จำหน่ายด้วย

เมื่อฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกเที่ยวเมือง Aizu Wakamatsu ใน 1 วัน โดยเริ่มขึ้นรถที่หน้า สถานีรถไฟ Aizu Wakamatsu อันเป็นที่ตั้งของป้าย Aizu Wakamatsu Station (H1, A1) ซึ่งการเที่ยวในเมือง Aizu Wakamatsu เป็นอะไรที่ง่ายมากๆ มีแผนที่ และ ตั๋ว 1 Day Pass ก็นั่ง Loop Bus วนเที่ยวได้ไปรอบเมืองแล้วครับ สามารถบริหารเวลาในการเที่ยวจุดต่างๆ ได้ตามสถานการณ์เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะขึ้นรถผิด เพราะรถมันก็วนๆ อยู่ในบริเวณนั้นแหละครับ.. และถึงจะขึ้นผิดก็ไม่เสียดายตังค์ เพราะเป็นตั๋วแบบ 1 Day Pass อยู่แล้วครับ..

 

สุสาน 19 ซามูไร กลุ่มเสือขาว Byakkotai (H36, A5)

ผมนั่ง Aizu Loop Bus มาที่ป้าย Iimoriyama Shita (H36, A5) ซึ่งมีจุดท่องเที่ยวสำคัญ คือ สุสาน 19 ซามูไรกลุ่มเสือขาว (Byakkotai) และ เจดีย์โบราณ (Sazaedo) หลังจากลงรถบัสแล้ว อย่าลืมเช็คเวลารถรอบถัดไปที่ป้ายไว้ด้วยนะครับ จะได้บริหารเวลาเที่ยวได้อย่างพอดี และกลับมารอรถได้ตรงเวลา ไม่ต้องเสียเวลาในการรอรถนาน

การขึ้นไปบนยอดเขาด้านบน นั้นมี 2 ทางเลือก คือ เดินขึ้นบันได หรือ จะยืนไปสบายๆ บนทางเลื่อน(ฝั่งขวา) ซึ่งอย่างหลังจะมีค่าใช้จ่าย 250 เยน รู้มั้ย.. ว่าผมเลือกขึ้นไปโดยวิธีไหน? แน่นอนครับ.. ผมเลือกยืนไปสบายๆ จ่าย 250 เยน อ๊ะ.. แต่ช้าก่อน แค่แสดงตั๋ว 1 Day Pass ก็ได้ส่วนลดเพิ่มอีก เหลือ 230 เยน เท่านั้น!

ได้ยืนสบายๆ หน่อย อากาศหนาวๆ หิมะตกที่ตกทำให้ขึ้นบันไดค่อนข้างลำบากพอสมควร มาทางเลื่อนแบบนี้สบายสุดแล้ว 55+

ขึ้นมาถึงด้านบนแล้วก็ต้องเดินต่ออีกหน่อย ซึ่งบริเวณนี้ สามารถเดินชมเป็นวงกลมได้โดยรอบครับ

สถานที่แห่งนี้ จะเป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้า และ สุสานของ 19 ซามูไร กลุ่มเสือขาว ซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่ว่า.. ในช่วงสงครามต่อต้านกองทัพของฝ่ายรัฐบาลที่ยกพลเข้ามาที่ปราสาทซึรุกะ มีเหล่านักรบซามูไรกลุ่มเสือขาวจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีอายุยังน้อยมาก รวมตัวกันสู้ในครั้งนั้น จนต้องล่าถอยหนีออกมาได้ 20 คน มายังบริเวณยอดเขา เเห่งนี้ แต่เมื่อได้ทั้งหมดได้มองไปยังตัวปราสาทก็พบว่า ถูกไฟไหม้ จึงเข้าใจว่า ถูกตีปราสาทจนแตกเสียแล้ว จึงตัดสินใจปลิดชีพตัวเองลง แต่มีหนึ่งในนั้นที่ทำไม่สำเร็จ และได้รับการช่วยเหลือ จนกลายเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวในเวลาต่อมา

สุสานของ 19 ซามูไร กลุ่มเสือขาว บรรยากาศโดยรอบดูสงบเงียบ

จากบริเวณสุสานบนยอดเขา สามารถมองเห็นวิวเมือง Aizu Wakamatsu ในมุมสูงได้

บริเวณจุดชมวิวเมือง Aizu Wakamatsu ที่ขณะนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ อยากบอกว่าอากาศข้างบนนี้หนาวสะท้านมาก เพราะลมหนาวโชยมาตลอดเวลาเลย..

แวะสักการะ ศาลเจ้า ที่อยู่บนยอดเขา เพื่อความเป็นสิริมงคล

บริเวณใกล้ๆ จะมีอีกจุดท่องเที่ยวสำคัญ คือ เจดีย์ Sazaedo เป็นเจดีย์ที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง มีความสูง 16.5 เมตร อายุกว่า 200 ปี เป็นเจดีย์ที่มีความน่าทึ่งทางสถาปัตยกรรมอย่างยิ่งเลยครับ โดยภายในเจดีย์จะมีบันไดวน ที่สามารถเดินขึ้นไปถึงด้านบนสุดยอดเจดีย์ และ เดินลงมาด้านล่างโดยไม่ต้องย้อนกลับมาทางเดิม เป็นภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณ (เปิดทุกวัน – ค่าเข้าชม 400 เยน)

มาถึงแล้ว.. ก็ต้องขอเข้าไปชมดูหน่อยครับ ซื้อตั๋วแล้วก็เข้าไปชมได้เลย

เดินเข้ามาภายในก็เป็นอาคารไม้ ที่สร้างไว้ค่อนข้างแข็งแรงมากเลยครับ แม้จะผ่านกาลเวลามานานมากแล้ว

ใช้เวลาในการเดินขึ้น-ลง ไม่เกิน 5 นาที ก็ลงมาข้างล่างเหมือนเดิม ก็รู้สึกทึ่งกับการออกแบบของคนสมัยก่อนจริงๆ ใครสนใจก็ลองเข้าไปเดินเล่นดูสักรอบนะครับ

 

คฤหาสน์ซามูไรบูเคยาชิกิ Aizu Bukeyashiki (H24, H30, A11, A17)

จุดท่องเที่ยวต่อไป.. ผมนั่ง Aizu Loop Bus มาลงที่ป้าย Aizu Bukeyashiki จะมาเที่ยวชม คฤหาสน์ซามูไรบูเคยาชิกิ ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของซามูไรขั้นสูงในอดีต โดยอาศัยอยู่ร่วมกัน ทั้งครอบครัวซามูไร ตลอดไปจนถึงคนรับใช้ อาคารปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในช่วงสมัยเอโดะ เพราะอาคารดั้งเดิมนั้นได้ถูกไฟไหม้ในช่วงสงครามโบชิน เมื่อปี 1868

ก่อนเข้าชมก็ต้องซื้อตั๋วเข้าก่อน ราคา 850 เยน แต่ช้าก่อน..! แสดงตั๋ว Aizu Loop Bus 1 Day Pass ลดเหลือ 750 เยน ครับ ได้ลดตั้ง 100 เยน!

ได้รับตั๋วมา ก็จะมีแผนที่มาให้ด้วยครับ แผนที่นี้จะช่วยได้มาก เพราะจะบอกเส้นทางในการเดินชม ให้ครบทุกจุด ซึ่งใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ก็น่าจะเดินครบจนทั่วครับ..

เดินเข้ามาภายใน บรรยากาศดูสงบเงียบมาก ค่อนไปทางวังเวงหน่อยๆ เพราะ วันนี้แทบไม่มีคนมาเที่ยวเลย แถมสภาพอากาศก็ครึ้มๆ อีก..

ผมเห็นเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตั้งโคมเทียนดินเผา ตามจุดต่างๆ คาดว่า.. คืนนี้น่าจะมีงานจุดเทียนเช่นกัน แต่คงไม่ได้มาชมที่นี่ เพราะเย็นนี้ผมจะไปดูเขาจุดเทียนกันที่ ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle)

ซามูไรที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ เป็นซามูไรที่มีฐานะ และมีข้าราชบริพารจำนวนมาก ทำให้ภายในคฤหาสน์ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมายหลายห้อง โดยแบ่งเป็นส่วนๆ เช่น ห้องพักสำหรับแขกผู้มาเยือน โรงน้ำชา โรงสีข้าว และสนามยิงธนู ปัจจุบันนี้คฤหาสน์แห่งนี้ กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงหุ่นคนตามฉากในชีวิตประจำวัน และแสดงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ในอดีต

บางห้องก็จะจัดแสดง เครื่องแต่งกาย เครื่องไม้เครื่องมือ ข้าวของเครื่องใช้ในยุคสมัยนั้น ที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี

ผมใช้เวลาเดินเล่น ชมห้องต่างๆ อยู่พอสมควร ก็เดินออกมาชมบรรยากาศภายนอก และก็มาพบกับช่องรูปสี่เหลี่ยมตรงนี้ ที่เขาบอกว่า.. สามารถมองไปเห็น ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle) ได้ แต่สภาพอากาศวันนี้ มีหิมะโปรยปราย มองไปก็ไม่เห็นอะไรเลย 55+

ชมครบจนทั่วแล้ว.. ก็พักเรื่องเที่ยว.. ไปหาอะไรกินต่อดีกว่า..

 

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

 

ชิม ซาซิมิเนื้อม้า ในตำนาน!

อยากลองกินเนื้อม้าแบบสดๆ มาก.. ผมรู้สึกอยากกินตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่มาเยือน Aizu Wakamatsu แล้ว แต่..ครั้งนั้นพลาด เพราะร้านปิด จึงต้องแก้ตัวใหม่ จัด ซาซิมิเนื้อม้า เป็นมื้อเที่ยงซะเลย.. โดยนั่งรถ Aizu Loop Bus มาลงป้ายแถวๆ Aizuwakamatsu City Hall แล้วเดินเข้าซอยที่อยู่ใกล้ๆ เข้าไปประมาณ 100 เมตร ก็จะเจอร้านนี้!

เดินเข้ามาในร้านบรรยากาศเงียบมาก ไม่มีลูกค้าท่านอื่นเลย คุณลุงเจ้าของร้านท่าทางใจดี ต้อนรับดีมากๆ

การสื่อสารในการสั่งอาหาร ค่อนข้างจะลำบากพอสมควร เพราะไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ และคุณลุงก็พูดอังกฤษไม่ได้เลย แต่โชคดีหน่อยที่ในเมนูมีรูปให้พอจิ้มเลือกได้อยู่ มีเมนูที่ทำจากเนื้อม้า เช่น หม้อไฟเนื้อม้า, ซาซิมิเนื้อม้า, ซูชิเนื้อม้า เป็นต้น

คุณลุงเจ้าของร้าน แนะนำให้ชิม หม้อไฟเนื้อม้า เพราะจากที่สังเกตุภาษากาย คุณลุงต้องการสื่อว่าข้างนอกมันหนาวหิมะตก กินอะไรร้อนๆ ก็น่าจะดีกว่า อะไรประมาณนี้ ก็จัดไปเลยครับลุง 1 ชุด(ราคา 1,500 เยน)

ชุดหม้อไฟเนื้อม้า ดูใหญ่กว่าที่คิดเลยครับ จะมีคุณป้า มาคอยต้ม และคอยดูไฟให้ในระหว่างที่กินด้วย บริการดีมากครับ

ในชุดก็จะมีข้าว น้ำซุป และเครื่องเคียงมาให้ ชุดเดียวอิ่มแน่นอน!

พอสุกได้ที่ก็ต้องลองชิมสักหน่อย รสชาติก็อร่อยใช้ได้เลยครับ กินร้อนๆ แก้หนาวได้อย่างดีตามที่ลุงบอกเลย อิอิ!

อยากลองกินเนื้อม้าแบบดิบๆ สดๆ บ้าง แม้จะรู้สึกอิ่มอยู่พอสมควร ตอนแรกก็ชั่งใจว่าจะสั่งแบบ ซูชิเนื้อม้า หรือ ซาซิมิเนื้อม้า ดี แต่..สุดท้ายก็ขอเลือกแบบ ซาซิมิเนื้อม้า แล้วกัน.. พอสั่งเสร็จ คุณลุงก็ยกเนื้อม้าสดๆ มาโชว์ให้ดูเลย..

จากนั้น.. คุณลุงก็ค่อยๆ แล่ เนื้อม้า อย่างปราณีต ทีละชิ้นๆ

เนื้อม้า ถือว่าเป็นของดี! เป็นอาหารขึ้นชื่อของเมือง Aizu Wakamatsu ที่ใครมาเยือนแล้วต้องลองให้ได้ครับ เดี๋ยวเรามาลองกันเลยยย..

ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า.. “เนื้อม้าดิบ” มันจะนิ่มๆ คล้ายกับเนื้อไก่นะ แต่เนื้อม้าจะไม่มีกลิ่นคาว พอจิ้มกับซอสโชยุ แล้วรสชาติใช้ได้เลยนะครับ รู้สึกกินเพลิน..

จะให้ดีต้องจัด Aizu Sake สาเกของเมือง Aizu Wakamatsu มาด้วย เข้ากันดีแน่นอนแบบนี้…

ผมชอบบรรยากาศร้านแบบนี้มาก ดูทีวีไป นั่งกิน นั่งดื่มไป มันก็ชิลดีเหมือนกันนะ!

 

รายละเอียดร้านอาหาร

  • ร้านอาหาร : ซาซิมิเนื้อม้า
  • เวลาเปิดบริการ : 11.00 น. – 14.00 น. และ 17.00 น. – 22.00 น.(ปิดวันอาทิตย์)
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/gUSgSwksyi22

โรงกลั่นสาเกซูเอฮิโระ Suehiro Sake Brewery

ไหนๆ ก็ได้ลิ้มรส Aizu Sake สาเกของเมือง Aizu Wakamatsu มาพอหอมปากหอมคอบ้างแล้ว ก็ขอมาชมโรงกลั่นสาเกของที่เมืองนี้กันบ้างครับ ซึ่งมีโรงกลั่นอยู่หลายที่เหมือนกัน แต่ผมเลือกมาที่ Suehiro Sake Brewery เพราะเดินทางมาสะดวก อยู่ใจกลางเมือง Aizu Wakamatsu เดินไม่ไกลจาก ร้านซาซิมิเนื้อม้า แต่ที่นี่จะเปิดให้เข้าชมเป็นรอบๆ นะครับ โดยมีไกค์(บรรยายภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น) พาเที่ยวชมภายใน ใช้เวลาทั้งสิ้นรอบละประมาณ 30 นาที(เข้าชมฟรี)

พอถึงรอบของผมก็เดินตามไกค์ไปตามจุดต่างๆ ครับ ซึ่งทั้งหมดจะบรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น รอบนี้ก็มีแต่คนญี่ปุ่น คงมีผมคนเดียวมั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย 55+ แต่ก็พออนุมานได้ว่า.. ไกค์เขากำลังให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ขั้นตอนต่างๆ ในการทำสาเก ตั้งแต่คัดเลือกวัตถุดิบ ไปจนถึงการบรรจุภัณฑ์

การคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีในการนำมาทำสาเก


ห้องนี้น่าจะเป็นการแสดงประวัติของบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้อง

ห้องนี้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในการทำสาเกในยุคสมัยต่างๆ

ถ้ามาเที่ยวเมือง Aizu Wakamatsu แล้วมีเวลาสักครึ่งชั่วโมง ก็ลองมาเรียนรู้วิธีการทำสาเกของที่นี่กันได้นะครับ แม้จะฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็รู้สึก.. สนุก และเปิดหูเปิดตาดี ที่สำคัญ เข้าชมฟรี อีกด้วย!

 

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

Aizu Sake สาเก ของฝากจาก Aizu Wakamatsu

สาเก ของเมือง Aizu Wakamatsu นับว่าเป็นของฝากขึ้นชื่ออีกอย่างเหมือนกันนะครับ สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในเมืองแห่งนี้ แต่ถ้าหากใครสนใจก็ขอแนะนำสักร้านนะครับ อยู่ไม่ไกลจาก สถานีรถไฟ Nanukamachi เป็นร้านของ Tsurunoe Shuzo Co.,Ltd.

ภายในร้าน มีสินค้าเกี่ยวกับสาเก รวมไปถึงสินค้าที่ระลึกมากมาย ให้ได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากกันครับ

ตอนนี้.. เวลาล่วงเลยเข้าสู่ช่วงบ่ายแก่ๆ แต่ในหน้าหนาวเช่นนี้ มันจะดูมืดค่ำเร็วกว่าปกติมาก ที่จริงยังขาดสถานที่สำคัญ ของ เมือง Aizu Wakamatsu ที่ผมยังไม่ได้ไป แต่จะเก็บเอาไว้ไปทีเดียวในช่วงเย็นๆ นี้เลย นั่นก็คือ ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle) แต่ที่ต้องรอไปเย็นๆ สักหน่อย เพราะว่าวันนี้ เป็นช่วงงานเทศกาล Aizu Painted Candle Festival 2019 (เทศกาลเทียนประดับภาพวาด) พอดี ซึ่งเดี๋ยวผมจะขอพาไปเที่ยวชมเทศกาลนี้ต่อในตอนหน้านะครับ!

 

>> 4/11 : Aizu Painted Candle Festival เดินชิลในเทศกาลเทียน นอน Tagoto Ryokan!

 

7 Days in Fukushima! | บันทึกการเดินทางเที่ยวฟุคุชิมะ 7 วัน

 


การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER

Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
E-mail : chailaibackpacker@gmail.com
Website : www.chailaibackpacker.com