NAGASAKI : เที่ยว นางาซากิ เมืองประวัติศาสตร์สุดคลาสสิค

SHARE!

นางาซากิ (NAGASAKI) เมืองประวัติศาสตร์สุดคลาสสิค ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกระเบิดปรมาณูถล่มในสมัยสงครามโลก

เที่ยวญี่ปุ่น ทริปล่าสุดผมได้มีโอกาสไปเที่ยว เมืองนางาซากิ จังหวัดทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เป็นจังหวัดที่เคยตั้งใจอยากไปเที่ยว เพราะชอบบรรยากาศของเมือง ดูคลาสสิคดี แต่ก็ถูกสถานการณ์ปิดยาวไปเสียก่อน พอ “ญี่ปุ่น” เปิดประเทศให้เที่ยวได้อีกครั้ง ก็ไม่พลาดที่จะไปเยือนครับ

นอกจากเรื่องราว ทางประวัติศาสตร์แล้ว Nagasaki คิวชู ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และคลาสสิค รวมถึงเมนูอาหารอร่อยที่ไม่พลาดต้องลองชิมอีกด้วย

 

PASS ที่เกี่ยวข้องสำหรับท่องเที่ยวใน KYUSHU

 

จุดเช็คอิน กิน เที่ยว ในเมือง นางาซากิ

  • พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ(Nagasaki Atomic Bomb Museum)
  • สวนสันติภาพนางาซากิ(Nagasaki Peace Park)
  • สะพานแว่นตาเมกาเนะบาชิ (Meganebashi Brigde)
  • เกาะเดจิมะ(Dejima Island)
  • Hamanmachi Shopping Street
  • Nagasaki Shinchi Chinatown
  • มันจูไส้หมูสามชั้น(Kakuni Manju)
  • ซาระอุด้ง(Sara Udon)
  • ซาชิมิเนื้อม้า(炭火焼鳥 すずらん)
  • Dormy Inn Nagasaki(ที่พัก)

พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ(Nagasaki Atomic Bomb Museum) พิพิธภัณฑ์ที่ได้รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ ระเบิดปรมาณูที่เกิดขึ้นในนางาซากิ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย วีดีทัศน์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ มาจัดแสดงให้ได้ชม เพื่อให้ตระหนักถึงภัยสงคราม และรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น

เมื่อ วันที่ 6 สิงหาคม 1945 สหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดปรมาณู ที่มีชื่อว่า “ลิตเติ้ลบอย” (Little Boy) ที่ เมืองฮิโรชิม่า และหลังจากนั้นเป็นเวลา 3 วัน ใน วันที่ 9 สิงหาคม 1945 ก็ได้ทิ้งระเบิดปรมาณู ที่มีชื่อว่า “แฟตแมน” (Fat Man) ถล่มลงที่ เมืองนางาซากิ ใน เวลา 11.02 น. โดยระเบิดถูกจุดชนวนที่ความสูง 500 เมตรเหนือพื้นดิน แรงระเบิดคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 75,000 คน และยังมีผู้ที่ถูกผลกระทบจากกัมตภาพรังสีอีกเป็นจำนวนมาก

สำหรับ พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ ภายในจะแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่

  • โซน A – August 9, 1945. จัดแสดงภาพถ่าย สถานที่ บ้านเรือน ของ เมืองนางาซากิ ก่อนที่จะโดนระเบิดปรมาณู โดยมีไฮไลท์ที่นาฬิกาแขวนผนังที่เวลาอยู่ที่ 11.02 น. ซึ่งเป็นเวลาของการระเบิด
  • โซน B – จัดแสดงภาพถ่าย และสิ่งของที่ถูกทำลายจากระเบิดปรมาณู
  • โซน C – จัดแสดงนิทรรศการ วิวัฒนาการของระเบิดนิวเคลียร์
  • โซน D – Video Room จัดแสดงภาพยนตร์สารคดีที่เกี่ยวข้องกับระเบิดปรมาณูให้ผู้สนใจได้รับชม

ในแต่ละโซนที่ค่อยๆ เดินเที่ยวชม จะรับรู้ได้ถึงความโหดร้ายของภัยสงคราม ที่สร้างความสูญเสีย และทำร้ายผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก เป็นสถานที่ที่ช่วยเปิดประสบการณ์ และถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดี ถ้าใครได้มีโอกาสมาเยือน “นางาซากิ” แนะนำควรมาเที่ยวชมที่นี่ครับ

สวนสันติภาพนางาซากิ(Nagasaki Peace Park) สวนสาธารณะบนเนินเล็กๆ ที่มีงานประติมากรรมจัดแสดงอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อสื่อถึงความปรารถนาในสันติภาพ ซึ่งสวนสาธารณะแห่งนี้ เป็นจุดศูนย์กลางของระเบิดปรมาณู

ภายใน สวนสันติภาพ มีรูปปั้นขนาดใหญ่ “รูปปั้นอนุสาวรีย์แห่งสันติภาพ” (Peace Statue) ความสูง 9.70 เมตร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรารถนาของชาวเมืองนางาซากิเพื่อสันติภาพ ลักษณะของรูปปั้นมือขวาชี้ไปยังสวรรค์สื่อความหมายถึง “ภัยจากระเบิดปรมาณู” และมือซ้ายเหยียดยาวในแนวราบสื่อความหมายถึง “สันติภาพ” ส่วนตาที่ปิดลง คือ “การอธิษฐานให้กับผู้ที่สูญเสีย”

“น้ำพุแห่งสันติภาพ” (Fountain of Peace) หน้าบริเวณทางเข้า สวนสันติภาพ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหยื่อระเบิดปรมาณูที่กระหายน้ำจนเสียชีวิตน้ำพุถูกออกแบบเป็นรูปปีกนกพิราบ สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ

“ระฆังแห่งสันติภาพ” (Nagasaki Peace Bell) สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่เด็กที่ได้รับผลกระทบจากภัยระเบิดปรมาณู ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ขาดแคลนน้ำ และกระหายน้ำจนเสียชีวิต

นอกจากนี้ ยังมีงานประติมากรรมรูปปั้นอื่นๆ ที่สื่อความหมายถึง สันติภาพ และ ความสงบสุข ให้ได้เดินชม ในบรรยากาศที่ดูสงบเงียบ

สะพานแว่นตาเมกาเนะบาชิ (Meganebashi Brigde) เป็นสะพานหินที่มีรูปทรงโค้ง สร้างข้ามแม่น้ำ Nakajima River ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเล็กๆ ทอดตัวผ่านเมือง โดยลักษณะเด่นของสะพานแห่งนี้ คือ รูปทรงที่โค้งเหมือนครึ่งวงกลมติดกัน ซึ่งเมื่อมองที่ผิวน้ำจะสะท้อนมองเห็นคล้ายกับแว่นตา จึงเป็นที่มาของชื่อ “สะพานแว่นตา” นั่นเอง ถือเป็น จุดเช็คอินแลนด์มาร์ค ของเมือง นางาซากิ (Nagasaki) ที่ใครมาเยือนที่เมืองนี้ ก็ต้องมาเที่ยวชมกัน

บรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำ Nakajima River น้ำในแม่น้ำใสสะอาด มองเห็นฝูงปลาคาร์ฟที่ว่ายวนเวียนไปมา

นอกจากนี้ บริเวณริมแม่น้ำก็สามารถมาลองเดิน “ตามหาหัวใจ” กับ Heart Stone หินรูปหัวใจที่ซ่อนตัวอยู่ตามแนวริมฝั่งของแม่น้ำ โดยมีความเชื่อว่า.. ถ้าได้อธิษฐานกับหินรูปหัวใจ จะส่งผลให้ สมหวังในเรื่องความรัก อีกด้วยนะ

เกาะเดจิมะ(Dejima Island) เป็นเกาะเทียมที่มนุษย์สร้างขึ้น เมื่อปี 1634 โดยการถมทะเลใน อ่าวนางาซากิ ตัวเกาะมีรูปร่างเหมือนพัดแบบพับ โดยมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 15,000 ตารางเมตร

การเดินทาง มาเที่ยว “เกาะเดจิมะ” ก็ต้องเดินข้ามสะพาน Dejimaomotemon Bridge ที่เชื่อมต่อไปสู่เกาะ ซึ่งเมื่อผ่านประตูเข้าไปแล้ว ก็จะพบกับอาคารบ้านเรือนแบบโบราณ เหมือนได้ย้อนกลับไปสู่ยุคเอโดะ ซึ่งอาคารเหล่านี้ เมื่อก่อนเคยเป็นคลังเก็บสินค้าต่างๆ ในการค้าขายระหว่างประเทศ

สาเหตุในการสร้าง “เกาะเดจิมะ” ขึ้นมาก็เพื่อป้องกันการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในญี่ปุ่นโดยชาวโปรตุเกส และเพื่อเป็นการสอดส่องการค้าขายในช่วงที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ โดยกีดกันให้ชาวโปรตุเกสไปอาศัยอยู่ได้เฉพาะบนเกาะแห่งนี้เท่านั้น ถือเป็นสถานที่เดียวที่ญี่ปุ่นจะสามารถทำการค้าขายแลกเปลี่ยน และรับวิทยาการวัฒนธรรมแบบตะวันตก

อาคารของ Kapitan(หัวหน้าพ่อค้า) เป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดใน เกาะเดจิมะ มีรูปแบบการตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก พร้อมจำลองวิถีชีวิตในยุคสมัยนั้น

เดินเล่นชมอาคารเก่าแก่ก็สวยงามคลาสสิคดีนะ มีมุมให้ถ่ายรูปเล่น และในแต่ละอาคารก็เหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อมๆ ที่มีการจัดแสดงนิทรรศการเอาไว้ภายใน เป็นแหล่งเรียนรู้ได้อย่างดีเลยครับ

ย่าน Hamanmachi Shopping Street แหล่งรวมร้านอาหารมากมาย

ย่าน Nagasaki Shinchi Chinatown อีกแหล่งของกินที่มีร้านอาหารมากมายเช่นกัน เมนูแนะนำของเมืองนางาซากิ ก็อย่างเช่น จัมปง, ซาระอุด้ง เป็นต้น

ในช่วงที่เพิ่งเปิดประเทศให้เที่ยวแบบนี้ บรรยากาศออกจะเงียบเหงาสักหน่อย

Dormy Inn Nagasaki ที่พักนางาซากิ ตั้งอยู่ใกล้ย่าน Chinatown ใกล้แหล่งร้านค้า ร้านอาหาร และมีร้านสะดวกซื้ออยู่ที่ชั้นล่าง

ภายใน ห้องพัก ที่ผมได้เข้าพักเป็นห้องแบบส่วนตัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้ง ทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ พักผ่อน เปิดแอร์เย็นๆ นอนได้อย่างสบาย

และมี ห้องน้ำ ในตัว ที่มี อ่างอาบน้ำ สำหรับแช่น้ำร้อนได้อย่างฟินๆ พร้อมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ สบู่ แชมพู มีให้ครบทุกอย่าง แบบว่า..แทบไม่ต้องพกอะไรมามากมายเลยครับ

บรรยากาศความสงบเงียบในยามเช้าของเมือง Nagasaki

“ซาระอุด้ง” (Sara Udon) เมนูขึ้นชื่อของนางาซากิ

“Kakuni Manju” (มันจูไส้หมูสามชั้น) เมนูเด็ด “นางาซากิ” หมูสามชั้นตุ๋นมาแบบนุ่มๆ หุ้มด้วยแป้งซาลาเปา เข้ากันได้อย่างดี!

1 ในเมนูแนะนำ ที่ต้องลองชิมเมื่อมาเที่ยว นางาซากิ ครับ กับ Kakuni Manju ที่มีร้านขายอยู่มากมายภายในเมือง จุดเด่น ก็คือ ความนุ่มของหมูสามชั้นชิ้นโต ที่ผ่านการตุ๋นอย่างดีจนเปื่อยนุ่ม พอกัดเข้าไปแล้วแทบละลายในปาก บวกกับแป้งเนื้อนุ่ม กินตอนร้อนๆ อร่อยสุดๆ จนขอจัดไปสองชิ้น แนะนำว่า.. ห้ามพลาดครับ!

มาแวะหาของอร่อยท้องถิ่นชิมสักหน่อย

เมนู “ซาชิมิเนื้อม้า” ของดี ของขึ้นชื่อ ได้มาเที่ยวภูมิภาคคิวชูทั้งที ..ต้องไม่พลาด!

ซาซิมิเนื้อม้า เนื้อม้าดิบ มันจะนิ่มๆ หนึบๆ คล้ายกับเนื้อไก่นะ แต่..เนื้อม้า รู้สึกว่ามันดี ตรงที่จะไม่มีกลิ่นคาวเลย นำมาจิ้มกับซอสโชยุ พร้อมเครื่องเคียงหน่อย แล้วรสชาติใช้ได้ รู้สึกกินเพลินเลยนะครับ ยิ่งตามด้วยเครื่องดื่มท้องถิ่นสักกรึ๊บ มันช่าง.. เข้ากันดีมากๆ ฟินนนน..

 

ท่องเที่ยวทั่ว ประเทศญี่ปุ่น ด้วยบัตร JR Pass สำหรับทุกภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่น (7, 14 หรือ 21 วัน) คลิกซื้อที่นี่!

พาสสุดคุ้มที่จะพาไปท่องเที่ยวทั่วญี่ปุ่น สามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ตามลิงค์ด้านบน ได้เลยครับ!