#รีวิว สิงคโปร์ : 2 วัน 1 คืน ..มีเวลาน้อยก็เที่ยวได้!(ตอนที่ 2)
DAY #2 : SINGAPORE
06.00 น. ยามเช้าที่.. Marina Park
วันนี้..ตื่นเช้ามาก เพื่อที่จะไป Merlion แลนด์มาร์ก ของสิงคโปร์ แบบคนน้อยๆ หน่อย.. ซึ่งเดินมาในตอนเช้าๆ แบบนี้ บรรยากาศดี และคนก็น้อยจริงๆ ครับ สามารถเดินเล่น ถ่ายรูปเล่นได้อย่างสบาย..
Merlion รูปปั้นสิงโตทะเล สัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ ที่ Marina Park ซึ่งใครมาเยือนสิงคโปร์ก็ต้องไม่พลาดมาถ่ายรูปกับสิ่งนี้ เป็นรูปปั้นที่มีลักษณะส่วนหัวเป็นสิงโต และส่วนล่างเป็นหางปลา ตั้งอยู่บนยอดคลื่นทะเล
มานั่งเล่นในช่วงเวลาแบบนี้ มันรู้สึกชิลดีเหมือนกัน อากาศก็สบายๆ ไม่ร้อนมาก คนก็ไม่เยอะ หามุมถ่ายรูปเล่นได้ตามใจเลย คุ้มแล้วกับการตื่นแต่เช้า 55+(หลังจากนี้ ผ่านไปประมาณ ครึ่งชั่วโมง คนมาเพียบเลย ยังกะทัวร์ลงเลยล่ะ)
เดินเล่นไปบริเวณใกล้ๆ กัน ที่ Cavenagh Bridge สะพานเก่าแก่ที่ใช้ข้ามแม่น้ำสิงคโปร์
และ บริเวณนี้ ก็จะมีปฏิมากรรม “People Of the River” ซึ่งเป็นรูปหล่อทองแดง ที่มีขนาดเท่ากับคนจริง เป็นงานอาร์ตเท่ๆ อยู่ริมแม่น้ำสิงคโปร์
08.00 น. แวะถ่ายรูป Street Arts ชิคๆ ที่.. Haji Lane
- Haji Lane
เช้าๆ คนน้อยๆ แบบนี้ รีบไปอีกสถานที่หนึ่ง กันต่อ โดยนั่งรถไฟ ไปลง สถานี MRT Bugis(DT14) แล้วเดินต่ออีกหน่อย มายัง Haji Lane สถานที่ยอดฮิตอีกที่ที่ต้องมาเยือน
ตรอกฮาจิ(Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้า และร้านคาเฟ่ ชิคๆ เหมาะสำหรับมาเดินเล่นดูสินค้าอาร์ตๆ หรือ มานั่งชิลจิบกาแฟ และเครื่องดื่มต่างๆ รวมไปถึงการมาถ่ายรูปกับ งาน Street Arts เก๋ๆ ที่อยู่ตามตึกต่างๆ ของที่นี่ด้วย..
ผลงาน Street Arts ที่โดดเด่นมากที่สุด ในย่านนี้ คือ ผนังด้านนอกของร้านอาหารเม็กซิกัน Piedra Negra ที่เต็มไปด้วยผลงานภาพวาดสีสันสดใสสไตล์ฮิปปี้และชนเผ่า ฝีมือศิลปินชาวโคลอมเบีย Jaba ซึ่งมาแต่เช้าแบบนี้..ไม่มีคนเลย ถ่ายรูปกับ งาน Street Arts ได้สบายครับ
- Arab Street
ถนนอาหรับ(Arab Street) อยู่ใกล้กัน กับ ตรอกฮาจิ(Haji Lane) ถนนเส้นนี้จะเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม และวิถิชีวิตของชาวอาหรับ จึงพบเห็นสินค้าส่วนใหญ่ จะเป็นพวก ผ้า พรม น้ำหอม และสินค้าอื่นๆ และบนถนนเส้นนี้ยังมีสถานที่สำคัญ คือ มัสยิดสุลต่าน มัสยิดเก่าแก่ และสำคัญของชาวมุสลิมในสิงคโปร์ เป็นมัสยิดที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม โดดเด่นด้วยโดมสีทองด้านบนขนาดใหญ่
แถวนี้ มีร้านอาหารอินเดียชื่อดัง อย่าง Singapore Zam Zam ด้วย
- The Kwan Im Thong Hood Cho Temple
วัดกวนอิมตงฮุดโช (The Kwan Im Thong Hood Cho Temple) เป็นวัดพุทธที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของสิงคโปร์ นักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะเจ้าแม่กวนอิม และขอพรให้สมปรารถนา อยู่ไม่ไกลกับ สถานี MRT Bugis(DT14)
- Bugis Village
บูกิส วิลเลจ(Bugis Village) เป็นอาคารสไตล์โคโรเนียล ที่อยู่ระหว่าง สถานี MRT Bugis(DT14) กับ วัดกวนอิมตงฮุดโช (The Kwan Im Thong Hood Cho Temple) ซึ่งความสวยงามที่โดดเด่นจะอยู่ที่ ด้านหลังอาคารจะมีบันไดวนสีสันสดใส เรียงรายต่อกันเป็นแนวยาว
10.00 น. อาหารมื้อเช้า Ya Kun Kaya Toast (Far East Square)
เดินทางมาหาอาหารเช้ากินกันต่อที่ ร้าน Ya Kun Kaya Toast (Far East Square) โดยมาลงที่ สถานี MRT Telok Ayer (DT18) แล้วเดินต่อ มาอีก 240 เมตร เท่านั้น ซึ่ง ร้าน Ya Kun Kaya Toast นี้มีหลายสาขาทั่วสิงคโปร์ แต่..พอดีผมอยากลองมาชิมสาขาแรก ก็เลยต้องมาที่ Far East Square อยู่ไม่ไกลจากย่าน Chaina Town
ร้าน Ya Kun Kaya Toast เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่เหมาะสำหรับมากินในยามเช้า แบบเบาๆ (สไตล์ ขนมปัง ไข่ลวก และ กาแฟ อะไรทำนองนั้น) แต่ความพิเศษอยู่ที่ความอร่อย หอม มัน ของขนมปัง ที่เข้ากับไข่ลวกได้เป็นอย่างดี ถือว่า.. Kaya Toast เป็นมื้อเช้ายอดนิยมของคนสิงคโปร์ และนักท่องเที่ยว เลยก็ว่าได้..
ร้าน Ya Kun Kaya Toast มีโต๊ะไว้สำหรับบริการทั้งภายในร้านและนอกร้าน ถ้าอยากนั่งแบบเย็นสบายหน่อย ก็เลือกนั่งในร้าน หรือ ถ้าอยากชมบรรยากาศจิบกาแฟยามเช้าก็เลือกนั่งนอกร้านก็ได้ .. เมื่อได้โต๊ะแล้วก็จะมีพนักงานนำเมนูอาหารมาให้เลือก ซึ่งขอแนะนำให้สั่งเป็น Set รวมขนมปัง ไข่ลวก และเครื่องดื่ม ครบ จบในเซตเดียว ซึ่งเมื่ออาหารมาเสิร์ฟครบที่โต๊ะ พนักงานก็จะเก็บเงินทันที
การทาน Kaya Toast ที่ถูกต้อง ก็ต้องเหยาะซอส โดยพริกไทย ลงไปบนไข่ลวก คนให้เข้ากัน.. จากนั้นจึงใช้ขนมปังจิ้มลงไปในไข่ลวก ก่อนทาน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันได้ดี และก็อร่อยมากๆ (หรือว่า.. หิวก็ไม่รู้55+) อาจจะดูว่าราคาสูงสักหน่อย แต่คุ้มครับ!
Ya Kun Kaya Toast (Far East Square)
- ADDRESS : 18 China Street #01-01 Singapore 049560
- OPENING HOURS : Monday to Friday – 7.30am to 7.00pm / Saturday – 7.30am to 4.30pm / Sunday – 8.30am to 3.00pm / Public Holiday – Closed
- PRICE : 5 SGD/PAX
- PHONE : +65 64383638
หลังจากจัดการกับมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อย ก็ขอกลับที่พัก 5footway Inn Project (Boat Quay) ก่อน เพื่อไปพักหลบร้อน อาบน้ำ อาบท่า และ เก็บของเตรียมเช็คเอาท์ ครับ
12.00 น. มื้อเที่ยง.. ลองชิม “บักกุ๊ดเต๋” ที่ Song Fa Bak Kut The
ตอนแรก.. คิดว่า จะเช็คเอาท์ ฝากกระเป๋าไว้กับที่พัก แล้วออกไปเที่ยวในช่วงบ่าย แต่คิดไปคิดมา.. ขี้เกียจย้อนกลับมาเอาอีกรอบ และดูจะเสียเวลา ก็เลย..แบกเป้ไปเที่ยวด้วยซะเลย ของไม่ค่อยเยอะอยู่แล้ว..
และ เนื่องจากต้องเดินไป สถานีรถไฟ MRT Clarke Quay (NE5) อยู่แล้ว ก็เลยถือโอกาสลองชิม “บักกุ๊ดเต๋” เจ้าดัง ที่ ร้าน Song Fa Bak Kut The(Clarke Quay)
ร้าน Song Fa Bak Kut The คนจะเยอะอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะในช่วงหัวค่ำนั้นจะรอคิวนานมากๆ แนะนำว่า.. ให้ลองไปใช้บริการในช่วงเวลากลางวัน จะรอคิวไม่นาน .. ต่อแถวสักพักก็ได้เข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้ว ซึ่งระหว่างรอคิว พนักงานก็จะนำเมนูมาให้สั่งอาหาร พอถึงคิว ไปนั่งที่โต๊ะ ก็จะมีอาหารมาเสิร์ฟ พร้อมชำระค่าอาหาร ทันที
ร้านระดับ Bib Gourmand’s list ของ Michelin Guide
Groundnuts 1.50 SGD
ความพิเศษของร้านนี้ คือ จะมีพนักงานคอยเติมน้ำซุป บักกุ๊ดเต๋ ให้อยู่ตลอดเวลา แบบไม่อั้นเลยทีเดียว ซึ่งทีเด็ดของเขาก็อยู่ที่น้ำซุปกระดูกที่กลมกล่อมเผ็ดร้อนนี่แหละครับ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ แจ่มเลย!
Song Fa Bak Kut Teh (Clarke Quay)
- ADDRESS : 17 New Bridge Rd, Singapore 059386
- OPENING HOURS : 10.00am – 10:00pm
- PRICE : 10 SGD/PAX
- PHONE : +65 64382858
13.00 น. Fort Canning Park แวะถ่ายรูปที่มุมยอดฮิต!
บ่ายนี้.. ก็เที่ยวไปเรื่อยๆ ครับ โดยเลือกนั่งรถไฟมาลง ที่ สถานี MRT Dhoby Ghaut(CC1) เพื่อมายัง Fort Canning Park จุดถ่ายรูปยอดฮิต ซึ่งเดินมาไม่ไกลจากสถานี MRT ตรงทางเข้าก็จะเป็นอุโมงค์เล็กๆ แบบนี้
สวนสาธารณะ Fort Canning Park สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ เพราะว่า เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จึงสามารถพบเห็นป้อมปราการเก่า ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ สภาพบรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่น และมีต้นไม้เยอะ ดูเขียวขจี เหมาะแก่การมาพักผ่อน และ ที่แห่งนี้ก็ยังมีมุมถ่ายภาพยอดฮิตแบบนี้อีกด้วย..
14.00 น. Sentosa Island
ยังพอมีเวลาเหลือให้ข้ามไปเที่ยวเล่น ที่ เกาะเซ็นโตซ่า นั่งรถไฟมาลงที่ สถานี MRT HarbourFront (NE1/CC29)
เกาะเซ็นโตซ่า เป็นเกาะที่รวมความสนุก และกิจกรรมความบันเทิงต่างๆ อย่างครบครัน สามารถเดินทางข้ามไปเกาะเซ็นโตซ่าได้หลายวิธี ทั้งการนั่ง รถเมล์ หรือ ที่นิยมสุดก็ รถไฟ Monorail(4 SGD) หรือ เคเบิ้ลคาร์ ที่ราคาค่อนข้างจะแพงหน่อย แต่ถ้าหากอยากประหยัดก็สามารถที่จะเดินข้ามเกาะไปก็ได้ในระยะทางราว 700 เมตร สามารถข้ามไปได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย..
บน เกาะเซ็นโตซ่า จะเป็นที่ตั้งของ Universal Studios Singapore สวนสนุกระดับโลก นับเป็นสถานที่ในฝันของใครหลายๆ คน สำหรับผู้ที่ต้องการเข้า Universal Studios เพื่อความคุ้มค่า ก็ควรที่จะเดินทางมาแต่เช้าหน่อย เพราะจะได้เล่นเครื่องเล่นได้อย่างครบถ้วน และราคาตั๋วค่าเข้าที่ค่อนข้างสูง แนะนำว่าควรหาซื้อตั๋วมาล่วงหน้า ผ่านทาง Agent จะได้ราคาที่ถูกกว่าซื้อข้างหน้าตรงทางเข้าครับ ซึ่ง ณ จุดนี้ ไม่ได้เข้าไปเที่ยวข้างในนะครับ..55+ เพราะมาซะบ่ายขนาดนี้ ก็คงจะไม่คุ้มค่าตั๋วอย่างที่บอกไป แต่..ที่แวะมาเที่ยว ก็เพราะ อยากจะมาถ่ายรูปข้างหน้า แค่นี้ก็โอเคแล้ว 55+
การเดินทางภายใน เกาะเซ็นโตซ่า วิธีที่สะดวก ก็คือ ด้วย Monorail(4 SGD) แต่ขอแนะนำว่า.. ขาไป จากฝั่ง ให้เดินไปจะดีกว่า พอเมื่อถึงเกาะแล้ว ภายในเกาะจะสามารถใช้บริการ Monorail ได้ฟรี ทั้งเดินทางไปยังสถานีต่างๆ ภายในเกาะเอง หรือว่า.. ตอนนั่ง ขากลับ ก็นั่งกลับมาฟรี ช่วยประหยัดไปได้เยอะเลย
The True Merlion Tower – Merlion อีกตัวบน เกาะเซ็นโตซ่า ตัวนี้เป็นตัวที่ใหญ่ สูงถึง 37 เมตร
Monorail สิ้นสุดสถานีสุดท้ายที่ สถานี Beach ซึ่งเป็นสถานีที่ติดกับชายหาดสามารถเดินลงไปเที่ยวเล่นริมชายหาดได้
ชายหาดบนเกาะเซ็นโตซ่า จะมีอยู่ 3 ชายหาด ด้วยกัน คือ Siloso Beach, Palawan Beach และ Tanjong Beach ซึ่งทั้ง 3 หาด ก็เป็นสถานที่พักผ่อน มีกิจกรรมริมชายหาด ร้านอาหารต่างๆ เหมาะสำหรับมาพักผ่อน (แต่ตอนนี้ ฝนดันตกพอดี..)
ร้านขายของที่ระลึก สำหรับหาซื้อของฝากกลับไป
เที่ยวภายใน เกาะเซ็นโตซ่า จนสมควรแก่เวลาแล้ว ก็ขึ้น Monorail ออกจากเกาะ ซึ่งสามารถขึ้นได้ฟรี ดีจริงๆ เลย..
17.30 น. ไม่ชิม ไม่ได้ กับ “โจ๊กกบ” (Eminent Frog Porridge)
ส่งท้าย มื้อสุดท้าย.. ถือว่าเป็นเมนูเด็ดอีกอย่างที่ต้องลองชิม เมื่อมาเยือนสิงคโปร์ นั่นก็คือ โจ๊กกบ ซึ่ง ร้านโจ๊กกบ ที่อร่อย เขาว่ากันว่า.. ต้องมาหากินที่ ย่าน Geylang โดยมาที่ ร้าน Eminent Frog Porridge (Lor 19) โดยร้านจะเปิดในช่วงเย็น ไปจนถึงตี 4 สามารถมาใช้บริการได้เกือบตลอดทั้งคืนเลยทีเดียว
จาก สถานี MRT Aljunied (EW9) เดินมาประมาณ 700 เมตร ก็จะมาถึงร้าน โดยคนจะเยอะตั้งแต่เริ่มเปิดร้านในช่วงเย็นเลย
เมนูที่แนะนำ จะถูกติดดาวเอาไว้ และ กบผัดพริกแห้งในหม้อดิน ก็เป็นหนึ่งในเมนูแนะนำ..
มาร้านโจ๊ก ก็ต้องสั่งโจ๊กเปล่ามาด้วย สำหรับมาทานคู่กันกับกบผัดพริกแห้ง ที่ส่งควันโขมง พร้อมกลิ่นหอมโชยออกมาเป็นระยะ
กบผัดพริกแห้ง (กบ 3 ตัว = 2 แถม 1) = 16 SGD
โจ๊กเปล่า(ขนาดกลางสำหรับทาน 2 คน) = 3 SGD
เนื้อกบแน่นอร่อย และไม่มีกลิ่นคาวใดๆ ทั้งสิ้น ไม่น่าเชื่อว่าจะทานกับโจ๊กเนื้อเนียนนุ่มลิ้น ได้อย่างลงตัว.. และอร่อยติดใจจริงๆ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด ซึ่งถึงแม้จะดูราคาสูงไปนิด แต่นานๆ ทีได้มาลองกินกบตัวใหญ่ๆ เนื้อแน่นๆ และอร่อยแบบนี้ ก็คุ้มค่าอยู่นะครับ!
Eminent Frog Porridge (Geylang)
- ADDRESS : 323 Geylang Road Singapore 389359
- OPENING HOURS : 05:00pm – 04:00am
- PRICE : 10 SGD/PAX
- PHONE : +65 98422941
20.00 น. เตรียมเดินทางกลับ!
อิ่มจากมื้อเย็น.. “โจ๊กกบ” แล้ว.. ก็นั่งรถไฟ MRT กลับมายังสนามบิน มาลงที่ สถานี MRT Changi Airport(CG2) จากนั้น ก็รีบไปเช็คอิน และ เข้าไปรอใน Gate เพื่อเตรียมเดินทางกลับครับ ซึ่งภายใน Gate ก็มี.. เครื่องนวดเท้าไฟฟ้า ที่สามารถใช้บริการได้ฟรี มันช่างเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ดีมากครับ ช่วยผ่อนคลายได้เยอะเลย.. เพราะตอนนี้ มันรู้สึกเมื่อยขามากๆ ในระยะเวลาแค่ 2 วันนี้ รู้สึกว่า.. เดินกันหนักมากจริงๆ เดินโคตรเหนื่อยเลย ตามสภาพ 55+
ระยะเวลาในการเที่ยวแค่ 2 วัน 1 คืน ฟังดูอาจจะน้อยไปสักหน่อยครับ แต่..ด้วยเวลาที่มีเพียงเท่านี้ ก็สามารถมาเที่ยวได้คุ้มค่าดีเหมือนกัน
ทริปนี้.. ก็เป็นทริปสั้นๆ ที่สนุก และใช้เวลาได้คุ้มค่าดี ได้ลองกินเมนูของอร่อยต่างๆ ที่อยากลองมานาน ได้มาเที่ยว “สิงคโปร์” กับเขาสักที เพราะ นี่ก็เป็นครั้งแรกจริงๆ 55+ ก็ประทับใจอะไรหลายๆ อย่าง ครับ โดยเฉพาะระบบขนส่งสาธาณะที่เข้าถึงสถานที่เที่ยวสำคัญ เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย และในหลายสถานที่ก็สามารถที่จะเข้าได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทำให้การเดินทางไปเที่ยว สิงคโปร์ เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็ไปเที่ยวได้..
สำหรับ “สิงคโปร์” แล้ว.. เดี๋ยวยังไง.. ได้กลับมาเจอกันใหม่อีกแน่นอนครับ!
การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER
Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
E-mail : chailaibackpacker@gmail.com
Website : www.chailaibackpacker.com