นั่ง Jeep เที่ยวทะเลทรายตามรอยหนัง “เราสองสามคน”

SHARE!

 พานั่ง Jeep เที่ยว ทะเลทรายมุยเน่ ตามรอยหนัง “เราสองสามคน”

 

.. บอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึก ดีใจสักเท่าไหร่..มากแค่ไหนก็ไม่รู้  .. 

ผมเปิดเพลงนี้ฟังระหว่างนั่งรถโดยสารในเมืองเวียดนาม มันเป็นเพลงคุ้นหู..ใครหลายคน ชวนให้นึกถึงหนังเรื่อง “เราสองสามคน” ที่เนื้อหาของหนังเป็นเรื่องราวของการออกเดินทางตามความฝัน ซึ่งครั้งนี้เอง ไฉไลแบ็คแพ็คเกอร์ ก็มีโอกาสได้ตามรอยหนังเรื่องนี้เช่นกัน (แม้ว่าจะตามรอยมาแค่เสี้ยวหนึ่งของหนังก็ตาม 55) กับฉากหนึ่งในหนังที่บางคนเห็นครั้งแรก ถึงกับอุทานออกมาว่า “เวียดนามมีทะเลทรายด้วยเหรอว่ะ!” ก็นั่นล่ะฮ่ะ! คือที่มาของความ “อยาก” ที่จะไปเยือนทะเลทรายมุยเน่ และจะขอนำเรื่องราวการเดินทางเที่ยวในมุยเน่ครั้งนี้มาให้ได้ชมกันครับ ก่อนอื่น..เรามาทำความรู้จักกับเมืองท่องเที่ยว เมืองนี้กันเสียก่อนเนอะ

 

พิเศษ!! แจก Code ส่วนลด Booking.com 550 บาท(เมื่อจองที่พักขั้นต่ำ 1,100 บาท ขึ้นไป) สามารถจองผ่านลิ้งค์นี้ เพื่อรับเครดิตเงินคืนได้เลย! >> https://www.booking.com/s/44_6/kowit999

 

นั่งเล่นริมชายหาด
เมืองมุยเน่อยู่ติดกับทะเลเหมาะกับการมาพักผ่อน

 

เมืองมุยเน่ (Muine) เป็นเมืองตากอากาศชายทะเลยอดนิยมเมืองหนึ่ง ของเวียดนาม เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความความเป็นมายาวนาน ปัจจุบันเป็นเมืองเศรษฐกิจทางด้านการทำประมง ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำประมงเป็นอาชีพหลัก รวมตัวกันเป็นหมู่บ้านชาวประมง มีท่าเรือ และเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอีกเมืองหนึ่งของเวียดนาม ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลกับโฮจิมินห์มากนัก ประมาณ 200 กิโลเมตร การเดินทางสะดวกสบาย เมืองมุ่ยเน่จึงเป็นอีกเมืองที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่ที่มาเยือนเมืองนี้ ก็เพราะต้องการการพักผ่อน เมืองมุยเน่มีชายหาดที่สวยงาม ทอดตัวยาวตลอดแนว จึงเป็นที่ตั้งของบรรดาโรงแรมที่พักต่างๆ ริมทะเล บรรยากาศดี ค่อนข้างที่จะสงบ จึงเหมาะแก่การมาพักผ่อนอย่างยิ่งครับ

สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมุยเน่ มีหลายสถานที่ที่น่าสนใจ โดยส่วนใหญ่นิยมที่จะซื้อแพ็คเกจทัวร์หนึ่งวัน เนื่องจากราคาถูก ประหยัดเวลา และสะดวกสบาย มีให้เลือกทั้งแบบนั่งมอเตอร์ไซค์เที่ยว หรือจะเป็นการเช่ารถ Jeep พร้อมคนขับ ในการเดินทาง ซึ่งตัวเลือกหลังมักจะได้ความสนใจมากกว่า อาจเป็นเพราะบรรยากาศ และ สภาพภูมิประเทศ ที่เหมาะแก่การนั่งรถ Jeep เพื่อการเข้าถึงอารมณ์การท่องเที่ยวเสียมากกว่า เหมือนตามรอยหนังเรื่อง “เราสองสามคน” ที่เป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนออกเดินทาง โดยคนขับจะเป็นไกค์ในตัว พาตระเวณท่องเที่ยว ตามสถานที่ท่องเที่ยวจุดต่างๆ ของเมืองมุยเน่

g4
Jeep คันนี้แหละครับที่จะพาเราไปเที่ยวทะเลทรายกัน

ทัวร์ของมุยเน่นั้น จะเป็นทัวร์ครึ่งวันใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ให้เลือก ระหว่าง..รอบเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้น(ออกเดินทางตอนตี 4) หรือรอบบ่ายไปดูพระอาทิตย์ตกครับ และเราก็เลยเลือกชมพระอาทิตย์ตกครับ เป็นรอบบ่ายออกจากตัวเมืองมุยเน่ตอนบ่าย 2 ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไกลสุด คือ ทะเลทรายขาว (ออกนอกเมืองไปประมาณ 40 Km.) เราสามารถติดต่อรถ Jeep ได้ที่ร้านทัวร์ที่เห็นได้ทั่วไปหรือจะติดต่อผ่านโรงแรมที่พักก็ได้สะดวกดี หลังจากติดต่อสอบถาม เขาคิดต่อคน คนละ 7 USD ประมาณ 200 บาทก็โอเคครับ ดูคุ้มค่ากับประสบการณ์ที่จะได้รับอยู่ คันนึงก็นั่งได้ 4-5 คน ลุยๆ สนุกสนานเฮฮาๆ ครับ

g15
การนั่งรถ Jeep ไปตามถนนริมชายหาดก็ชิลล์ดีเหมือนกัน

นั่งไม่ทันจะได้ขยับก้น ไม่เกิน 5 นาที ก็มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวแรก “แฟรี่ สตรีม (Fairy Stream)” หรือ แกรนด์แคนยอนเวียดนาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ดูแปลกตาของมุยเน่ แฟรี่ สตรีม เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและลมจึงก่อเกิดเป็นรอยกัดเซาะที่สวยงามคล้ายๆ แกรนด์แคนยอนขนาดเล็ก และมีลำธารเล็กๆ ระดับน้ำประมาณ 5-6 เซนติเมตร ไหลเอื่อยๆ พัดพาตะกอนทรายสีแดงไหลออกไปสู่ทะเล ที่เราสามารถลงไปเดินเท้าเปล่าตามธารน้ำไปเรื่อยๆ ได้สบายเลย ชมความงามของธรรมชาติ โดยไปสิ้นสุดที่ทางออกอีกด้าน ตรงนี้แดดค่อนข้างจะร้อนโคตรๆ ฝุ่น ทรายก็เยอะ มาเที่ยวแบบนี้ ติดหมวก และที่ปิดจมูก มาก็ดีครับ

g10
แฟรี่ สตรีม (Fairy Stream)

เดินทาง มาจุดต่อไป พี่โชเฟอร์ผู้พูดน้อยของเราก็ขับ รถ Jeep มาจอดที่ท่าเรือ อันเป็นที่ตั้งของ หมู่บ้านชาวประมงฟานเทียต” เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะไปถ่ายรูปเรือหาปลาของชาวประมง เป็นชายหาดที่มีเรือลอยลำอยู่กลางทะเลเยอะมาก ในบางเวลาก็จะเห็นชาวประมงขน กุ้ง หอย ปู ปลา ลงมาจากเรือ และนำมาซื้อขายกันที่ชายหาดแห่งนี้เลย แลดูคึกคักเหมือนเป็นตลาดย่อมๆ เลย

g6
รถ Jeep มาจอดแวะที่หมู่บ้านชาวประมง

และเอกลักษณ์สำคัญ ของหมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้ ก็คือ เรือกระด้ง ซึ่งเป็นเรือประมงพื้นบ้านของชาวบ้าน รูปร่างเป็นวงกลมคล้ายกระด้งก้นลึก สานด้วยไม้ไผ่ ทาทับด้วยชัน  หรือ ยางไม้เพื่อกันน้ำ โดยจะเห็นเรือกระด้งได้ทั่วไปที่เมืองนี้ แต่ในปัจจุบัน เรือกระด้ง ถูกเปลี่ยนมาทำด้วยวัสดุสังเคราะห์ เพราะให้ความทนทาน และใช้งานได้ยาวนานกว่า

g8
เรือกระด้งหลายลำเรียงรายริมหาด

มาตรงนี้แล้ว ก็ต้องไปถ่ายกับเรือกระด้งสิครับ.. เรือเต็มหาดไปหมดเลย เลือกลงไปถ่ายคนละลำได้เลย เราขอชาวประมงขอลองพายเรือกระด้งในน้ำดูบ้าง หลังจากลองดูแล้ว พูดได้คำเดียวว่า “ไม่เวิร์ค” เพราะ พายได้ไม่ถึง 5 วินาที เรือแทบจะ.. หงายเงิบ 55+

g2
พายเรือกระด้งได้ต้องทรงตัวเก่งๆ ไม่งั้นอาจมีเงิบ!

และตรงนี้แหละครับ ที่จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบชาวบ้านจริงๆ เรือประมงเยอะมากๆ เห็นชาวบ้านแยกปลา และสัตว์น้ำต่างๆ แยกไปขาย กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณหาด เข้าถึงอารมณ์มากมายครับ

ไปกันต่อ .. ออกจากตัวเมืองมุยเน่ไปอีกประมาณ 30 กม. ก็จะถึง “ทะเลทรายขาว” เป็นทะเลทรายที่ค่อนข้างมีอาณาเขตกว้างขวาง เป็นเนินทรายสีขาวทอดตัว  สลับไปมา ตามสภาพกระแสลมในฤดูนั้นๆ นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างได้สวยงามอลังการ เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูป และ มีบริการให้เช่า รถ ATV ไว้ขับเล่นในทะเลทรายคิดค่าเช่าเป็นรายชั่วโมงอีกด้วย

g11
นักท่องเที่ยวขับ ATV กลางทะเลทราย

 

นับเป็นสถานที่เด็ดของการตามรอยหนัง “เราสองสามคน” เลยล่ะ .. กับทะเลทราย ที่มีลมพัดโชยมาตลอด ได้อารมณ์ และรู้สึกทึ่งกับธรรมชาติเสียจริงๆ แต่แปลกที่ตอนเดินบนผืนทรายตอนแดดเปรี้ยงๆ แบบนี้ มันไม่ยักกะร้อนแฮะ! เดินได้อย่างสบายเลย!

g17
มีลมพัดโชยอยู่ตลอดเวลา

 

การเดินบนทรายได้นี่ก็ต้องใช้พลังเหมือนกันนะในการก้าวขาออกไปแต่ละก้าว 55+ แต่ก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่า ที่สักครั้งในชีวิตได้มาเยือน

g1

g16

สุดท้าย..มากันที่ “ทะเลทรายแดง” ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก รถ Jeep วกกลับตามเส้นทางเดิมที่เรามา ย้อนกลับมาที่ “ทะเลทรายแดง” เป็นเนินทรายกว้างใหญ่สีแดงที่ขึ้นชื่อเมืองมุยเน่เช่นกัน แม้ว่าทะเลทรายแดงจะมีอาณาเขตพื้นที่น้อยกว่าทะเลทรายขาว แต่ก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน เนื่องจากอยู่ติดริมถนนสายหลักจึงมีร้านอาหาร ร้านค้า ไว้บริการ นักท่องเที่ยวจึงค่อนข้างที่จะพลุกพล่าน สามารถพบเห็นเด็กๆ ถือกระดานที่ไว้สำหรับสไลด์กับผืนทรายบริการให้เช่า กับการขายที่เน้นการตื๊อแบบสุดๆ ใครสนใจจะช่วยอุดหนุนหน่อยก็ดีครับ ถือว่าสร้างรายได้ให้เด็กๆ

g9
รอชมแสงสุดท้ายของวันที่ทะเลทรายแดง

 

นั่งกระดานสไลด์ไปกับผืนทรายก็เป็นกิจกรรมที่สนุกตื่นเต้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากลอง และตอนช่วงเย็นแบบนี้ จะเป็นไฮไลท์เด็ดของที่นี่ เป็นกิจกรรมสุดท้ายของการทัวร์หนึ่งวันในเมืองมุยเน่  นั่นก็คือ การชมพระอาทิตย์ตกที่ทะเลทรายแดงแห่งนี้ เป็นการชมความสวยงามพระอาทิตย์สีส้มทอง สะท้อนกับผืนทราย ค่อยๆ ลับขอบฟ้า เป็นภาพที่เมื่อได้มาสัมผัสเป็นต้องประทับใจทุกรายไป สิ้นแสงสุดท้ายของวันก็เป็นอันจบสิ้นทริปครึ่งวันเที่ยวทะเลทรายมุ่ยเน่ แห่งนี้

g13

 

 

“… คน..คนเดียวที่ฉันเฝ้ารอ กลับมาเห็นเขาอยู่ ข้างๆ ฉันใช่เธอจริงๆ …”
หลังจากเที่ยวเสร็จ แล้วกลับมาฟังเพลงนี้อีกรอบ… ก็นั่นล่ะฮ่ะ อารมณ์นั้นมันไม่มีวันลืมจริงๆ

 

BY CHAILAIBACKPACKER